#อิซาทาเคไมกี้ #ออลทาเค
#สตูคุนอันอัน

AU ไฮบริด
⚠️มีเนื้อหานอกใจ,mpreg⚠️

"ทาเคมิจิ"
ชื่อของนายหญิงบงเทน เป็นคนรักของสองปีศาจแห่งโลกใต้ดิน อย่างอิซานะและไมกี้ หลังเรียนจบม.ปลาย ก็แต่งงานทันที ท่ามกลางความยินดีของหลายๆคน Image
ทาเคเป็นไฮบริดแมว และมีคนรักอีกสองคน ได้แก่ไมกี้เป็นไฮบริดสิงโต และอิซานะเป็นไฮบริดเสือขาว พวกเราสามคนรักกันดี และสองคนนั้นสามัคคีกันเสมอ กรณีที่เป็นเรื่องของเขาน่ะนะ

ช่วงนี้สองคนนั้นบริหารบงเทนจนแทบไม่ได้กลับมาบ้าน ทาเคได้แต่ทักไปหาหรือแวบไปหาอีกฝ่ายบ้างเป็นบางครั้ง
จนอยู่มาวันนึงตอนที่ทาเคอยู่ที่บ้านคนเดียวก็คลื่นไส้ เวียนหัวจนไม่อยากทำอะไร วันรุ่งขึ้นเลยแต่งตัวออกจากบ้านไปโรงพยาบาลและผลที่ออกมาคือ

เขาท้อง!

พระเจ้าเถอะเห็นหมอบอกว่า สองเดือนแล้ว ก็ว่าทำไมช่วงนี้เขากินเยอะแปลกๆ
ขนาดช่วงที่ผ่านมาสองคนนั้นแทบจะไม่ได้กลับบ้าน
ได้ไข่ไว้ทีนึงก็ติดเลย ความสามารถจริงๆ ทาเคหัวเราะคิกคักกับผลตรวจในมือ ตั้งใจจะโทรไปหาคนรักทั้งสอง นัดกันดินเนอร์สักวันแล้วบอกเรื่องผลตรวจ ของแบบนี้มันต้องคุยกันต่อหน้าใช่มั้ยล่ะ

ทาเคไม่บอกใครตัดสินใจว่าหลังจากบอกคนรักแล้วไปบอกเพื่อนคนอื่นๆทีหลัง ถ้าไม่บอกสองคนนั้นก่อนโดนงอนแน่
พอทาเคเดินเข้าห้องมา เปิดประตูห้องนอนอย่างร่าเริง ดวงตาสีฟ้าสดใสก็โค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว รอยยิ้มกว้างถูกมอบให้คนรักทั้งสองคนที่ยืนรออยู่ในห้องนอน

"ไมกี้คุงง อิซานะคุงงง"
ทาเคถลาเข้าไปกอดสองคนนั้นแน่น ก่อนที่สองคนนั้นจะกอดกลับมา

"ผมน่ะว่าจะโทรหาพวกนายสองคนอยู่พอดี!"
"กลับบ้านมาได้โอกาสเหมาะเลย!"
"มีเรื่องอยากจะบอกล่ะ!"
อิซานะและไมกี้มองภรรยาที่กำลังมีความสุขอย่างละอายใจอยู่ลึกๆ

"ฉันก็มีเรื่องอยากจะบอก"
ทั้งไมกี้และอิซานะพูดขึ้นพร้อมกัน ทั้งสองหันมามองหน้ากับราวกับถามว่าไม่ใช่เรื่องเดียวกันใช่มั้ย
ทาเคหัวเราะก่อนบอกให้ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกันเลย พร้อมบอกว่าส่วนเรื่องของผมมันต้องตั้งใจฟัง เอาไว้เป็นเรื่องหลังสุดล่ะกัน

หลังพูดจบทั้งสองคนก็ก้มหน้าลงก่อนเงยหน้ามาสบตากับภรรยาตัวเล็ก
"ทาเคมิจิ/ทาเคมิจจิ"

ทาเคมองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มกว้าง
"ฉันทำคนอื่นท้อง"
สองเสียงประสานกัน
ท่ามกลางสายตาเบิกกว้างของทั้งสามคน ทาเคลดรอยยิ้มของตัวเองลง ดวงตาไร้แววทำเอาคนรักสองคนที่มีความผิดได้แต่หลบสายตาที่มองมา

"ทาเคมิจจิ ฉันไม่ได้ตั้งใจ"
อิซานะพยักหน้ากับคำพูดของไมกี้
"พวกเราแค่เมาหลังจากไปเลี้ยงคู่ค้า"

สองคนมองมาที่ทาเคอย่างละอายใจ
ทาเคนวดขมับ อย่างใช้ความคิด
แม้ว่าตอนนี้หัวมันจะหนักอึ้งราวกับถูกค้อนปอนด์ทับและขยี้จนทุกอย่างเหลวแหลกไปหมด น่าแปลกที่ทาเคไม่ได้ร้องไห้อย่างที่เคยเป็น

คงเพราะมันเจ็บจนร้องไม่ออก
"แล้วจะยังไง"
"คงต้องรับผิดชอบ แต่งเข้าในบงเทน"
"รับผิดชอบ?! แล้วผมล่ะ! ต้องเห็นสามีตัวเองไปเอ็นดูลูกของใครก็ไม่รู้น่ะหรอ!!"
"ทาเคมิจิ..."
"คุณคิดว่าผมใจกว้างจนสามารถแบ่งสามีตัวเองให้คนอื่นได้รึยังไง!!"
"สงบสติอารมณ์หน่อย"
"หุบปากน่าอิซานะ!! นายไม่ใช่ผมนี่!"
"แต่เขาท้อง! ในท้องของเขามีลูกของฉัน!"
"แล้วยังไง!! นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องแบ่งคุณให้รึยังไง!"
"แต่ยังไงพวกฉันก็ให้ทาเคมิจจิเป็นที่หนึ่งนะ"

ไมกี้พูดขึ้นเพื่อหยุดการทะเลาะของพี่ชายต่างสายเลือดและคนรัก
"ที่หนึ่ง? ใครจะอยากเป็นที่หนึ่งกันครับ!"
"ในเรื่องของคนรัก ไม่มีใครอยากเป็นที่หนึ่งหรอกครับ! ทุกคนอยากเป็นคนเดียวกันทั้งนั้น!"
ทาเคตะโกนขึ้นอย่างโมโห

"แต่นายก็มีเราตั้งสองคนแล้วนี่"
"เรื่องนั้นเกิดจากความยินยอมของเราทั้งสามคนครับ! พวกนายจะเอามาอ้างไม่ได้"
"ทาเคมิจจิแต่เขาไม่มีใครนอกจากเราแล้ว"
ไมกี้เข้ามาจับแขนขณะที่เขากำลังยกมันปาดน้ำตา
"ไม่มีใครแล้วยังไง! นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่ผมจะต้องมาใช้คนรักร่วมกับใครก็ไม่รู้"
"แล้วถ้าคุณเป็นห่วงเขา เพราะเขาไม่มีใครแล้ว ก็ไปอยู่กับเขาซะสิ!!"
"อย่าประชดประชันฉันทาเคมิจิ มีสติหน่อย!!"
"คนที่ต้องมีสติคือพวกนาย! ยังคิดไม่ได้รึไงว่าใครผิด เอาแต่แก้ตัวไปมา อย่ามาทำให้สมเพชหน่อยเลย!!"

ต่างฝ่ายต่างพักหายใจ เป็นฝั่งคนรักสองคนที่ยอมแพ้ไปก่อน
"ถ้าคุยกันต่อไปมีแต่จะทะเลาะกันเปล่าๆ"
ไมกี้ยกมือห้ามก่อนอิซานะจะลากไมกี้ออกจากห้อง
"พรุ่งนี้พวกฉันจะมาหาใหม่"
"แล้วเราค่อยคุยกัน"
เสียงปิดประตูตามมา ทาเคคว้าแจกันดอกไม้ใกล้ๆตัวหมายจะคว้างมัน ก่อนจะชะงักไปทรุดลงลูบท้องตัวเองทั้งน้ำตา ร้องอย่างเงียบๆ มีเพียงแค่น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างเงียบงัน
เกือบห้าทุ่มแล้วทาเคเหลือบมองนาฬิกาพร้อมปาดน้ำตาทิ้ง พยายามลุกขึ้นยืน มองไปรอบๆห้องที่เป็นสถานที่ของเราทั้งสามคน ทาเคสูดหายใจก่อนเดินไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเอง ทั้งเครื่องประดับทั้งน้ำหอม ทั้งเงินเก็บต่างๆ เอกสารส่วนตัว

ยังไม่ทันถึงวันใหม่ กระเป๋าเดินทางสองใบก็อยู่ในมือของทาเค
ทาเคต้องการจะหายไปจากสารระบบของบงเทน มันคงจะเป็นเรื่องยาก

ถ้าเขาไม่ใช่นายหญิงของบงเทนน่ะนะ

สายของเขารับคำสั่งปกปิดตัวตนของเขา และคอยตามลบเส้นทางทุกอย่างที่เขาใช้ในวันนี้
ทาเคมองห้องที่อยู่มาสองปีนับตั้งแต่แต่งงาน ไม่รวมเวลาที่คบกันตั้งแต่เขาอายุ 14 ถึง 18 ถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้าย

"ใครบอกว่าจะคุยกับพวกนายกัน"

ทาเคคลุมฮูดก่อนจะโบกรถให้ไปส่งที่สนามบิน เขาจองเที่ยวบินด่วนพิเศษและแน่นอน

"ไปไหนคะ"
"USA ครับ"
สองคนนั้นจะไม่ได้เจอเขาอีก
หากเขาไม่ต้องการ
.
.
.
ทาเคย้ายมาอเมริกาเต็มตัว ซื้อบ้านเล็กๆด้วยเงินเก็บที่เอามา คงเพราะทาเคเป็นไฮบริดแมวที่ดูไม่มีพิษภัย เพื่อนบ้านของเขาเลยให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แถมเอ็นดูเขากับลูกในท้องอีกต่างหาก
แต่มีคนชอบก็ต้องมีคนเกลียด เพราะอายุที่ยังน้อย เลยถูกมองว่าพลาดท่าท้อง ไม่ก็ถูกสามีทิ้ง แต่ทาเคก็หาได้สนใจไม่

เขาไม่ได้ถูกทิ้ง
เขาเป็นคนทิ้งพวกม้นต่างหาก

ทาเคใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ช่วงก่อนท้องโตก็เข้าทำงานที่ร้านคาเฟ่ใกล้ๆบ้าน เจ้าของร้านเอ็นดูเขาจะตาย
ตั้งตัวเป็นคุณแม่เขา แถมเรียกเด็กในท้องว่าหลานแล้วด้วยซ้ำ บรรดาพนักงานรุ่นพี่ในร้านก็เอ็นดูทั้งเขาทั้งลูก

ทำไมหนูวาสนาดีขนาดนี้เนี่ยลูกแม่ ดวงคนรักคนหลงจริงๆเราสองคนแม่ลูกเนี่ย

ทาเคมิจิต้องไปตรวจสุขภาพครรภ์แทบทุกเดือน จนครั้งนึง...
"โอ้ะ!"
"อะไรหรอครับหมอ?"
ทาเคมองภาพที่ฉายอยู่ที่จอขณะเขากำลังอัลตร้าซาวด์ ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายวาววับ
"ที่ผ่านมาเพราะเด็กคนนี้บังเด็กอีกคนไว้ตลอดครับเลยทำให้มองไม่เห็น"
"ยินดีด้วยนะครับคุณฮานากาคิ"
"คุณได้แฝดหญิงครับ!"
ทาเคยิ้มแก้มปริก่อนจะรีบไปบอกข่าวกับคนในร้าน ทั้งร้านดีใจกันยกใหญ่ ตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่ามีหลานสองคนแหนะ ทาเคหัวเราะอย่างร่าเริง จนเจ้าของร้านเขามากอดมาหอม พนักงานคนอื่นได้แต่โห่ร้อง อภิสิทธิ์ชนของเจ้าของร้านจริงๆ
ช่วงที่ท้องโตมากๆ ใกล้คลอด
ช่วงเดือน 8 9 เจ้าของร้านเลยให้ทาเคหยุดพร้อมลาพักหลังคลอดได้ไม่มีกำหนดจนกว่าจะจัดการเลี้ยงเด็กๆเสร็จ

ถึงตอนแรกจะเกรงใจ แต่ก็บังคับมาจนได้

ตอนแรกทาเคสงสัยว่าใครจะเป็นพ่อเด็ก
จนแล้วจนรอดพอคลอดออกมา

แฝดหญิงที่คนนึงถอดแบบมาจากอิซานะ มีแค่ดวงตาที่เป็นสีฟ้าประกายแบบเขา อีกคนก็เหมือนไมกี้ชนิดที่ก้อปวางมีแค่ดวงตาที่เหมือนทาเคอีกแล้ว

บรรดาคุณพี่ป้าน้าอา รวมถึงคุณยายเจ้าของร้าน แค่ได้เห็นดวงตาสีฟ้าใสแจ๋วก็ใจอ่อนยวบ น่ารักสุดๆเลยนี่นาเด็กสองคนนี้
ทาเคนั่งมองลูกสาวของตัวเองแล้วก็ยิ้มกว้าง
แม่งเอ้ย เหมือนพ่อมันทุกอย่างยกเว้นตา ขอร้องล่ะอย่านิสัยเหมือนพ่อก็พอ

คุณยายเจ้าของร้านไม่รอช้า ด้วยความที่เห่อหลานสุดขีดก็ต่อเติมร้านให้มีห้องเด็กไว้สำหรับสองสาวตัวน้อย ทาเคจะได้ทำงานไปด้วยดูลูกไปด้วยได้
(ชื่อลูกไม่มีความหมายในภาษาญี่ปุ่นนะคะ ตั้งให้คล้องกับพ่อแม่เฉยๆ)

คนผมขาว ที่ได้เชื้ออิซานะมาเต็มที่
คือ 'ฮานากาคิ อิซานทาจิ'
และคนผมทอง ที่ตอนแรกเขาก็งงว่าไอผมทองมาจากไหนเลยสรุปได้ว่ายีนจากพ่อแม่ของเขาที่แม่เป็นลูกครึ่งยุโรปแล้วให้สีตาเขามา ส่วนสีผมก็ให้หลาน
เลยทำให้เด็กคนนี้เหมือนมันจิโร่เข้าไปอีกมากโข ชื่อของเด็กคนนี้เลยเป็น
'ฮานากาคิ มันจิกะ'

ก่อนจะถูกคนในร้านเรียก อิซจังกับมันจัง

เด็กสองคนโตมากับความรักที่ทาเตมอบให้อย่างเต็มเปี่ยม

อาหารการกิน เสื้อผ้า ของเล่น การศึกษา ทาเคจัดหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกสาวตัวน้อยของเขาเสมอ
"มัมคะ"
"ไงคะอิซจัง"
ทาเคผละออกตาครัวแล้วก้มลงไปอุ้มเด็กน้อยวัย 4 ขวบที่กำลังงัวเงียอยู่ หอมแก้มอย่างรักใคร่
"วันนี้มัมทำอะไรหอมจัง"
"วันนี้มื้อเช้าของเราเป็นแพนเค้กกับผลไม้ค่ะ"
"น้ำผึ้งน้อยๆ!"
"แน่นอนค่ะน้ำผึ้งน้อยๆสำหรับอิซจัง และก็เพิ่มอัลมอนด์เนอะ"
อิซจังพยักหน้าตอบรับ
ถึงจะหน้านิ่งๆ แต่แก้มกลมกลับแดงขึ้นมาพร้อมริมฝีปากน้อยๆที่ยกยิ้ม ยามที่เห็นแพนเค้กในกระทะก็ตาวาว

ทาเคเหลือบมองนาฬิกา
"อิซจังไปตามมันจังให้มัมทีค่ะ จะสายแล้ว"
"เพิ่มผลไม้!"
"ได้ค่ะเป็นค่าจ้างให้อิซจังที่ไปตามมันจังเนอะ"
อิซจังเลยรีบวิ่งขึ้นบันได เขย่งตัวเปิดประตูห้อง
กระชากผ้าห่มบนตัวแฝดน้องผมทอง
"ตื่นได้แล้ว!"
"อะไรกันอิซจัง~~ ขออีก 5 ไม่สิ 10 นาที"
"วันนี้มัมทำแพนเค้ก!"

อิซที่กำลังยื้อผ้าห่มกับน้องสาวล้มลง เพราะน้องสาวตัวดีเด้งตัวขึ้นมาก่อนวิ่งออกนอกห้องไปแล้ว

"มัม!! หนูขอสตอเบอนี่เยอะๆ!"
เสียงสดใสที่มาก่อนตัวของลูกสาวคนเล็ก
ทำเอาทาเคยิ้มเหนื่อย
"น้ำผึ้งเยอะๆด้วยมั้ยคะ?"
"ใช่ค่ะ สตอเบอรี่เยอะๆ! น้ำผึ้งเยอะๆ!"

ทาเคก็จัดให้ตามคำขอของลูกสาว ก่อนทุกอย่างจะสงบลงแล้วเริ่มนั่งล้อมวงกินมื้อเช้ากัน
เป็นชีวิตเรียบง่ายที่ทาเคชอบมากๆ
เป็นมัมของแฝดตัวดื้อนี่มันมีความสุขชะมัด
"วันนี้มัมไม่ถ่ายรูปหรอคะ?"
"อยากให้มัมถ่ายหรอคะ?"
"อื้อ! เพราะตอนมัมถ่ายชอบมีคนชมว่ามันจังน่ารัก!"
มันจิกะเป็นเด็กที่ร่าเริงและเข้าสังคมเก่งมาก แต่ก็มีความเอาแต่ใจเหมือนคนพ่อ ซึ่งทาเคก็คอยปรามในจุดนั้นตลอด
อีกทั้งชอบของหวานมาก เหมือนไมกี้ไม่มีผิด

"อิซแล้วแต่มัม"
ส่วนอิซานจิเป็นเด็กที่รักครอบครัวมาก แต่ลับหลังเขาเห็นคนในร้านบอกว่าชอบตีกับมันจิกะ ถึงจะรักน้องก็เถอะแต่ขอตีกันก่อน พอเป็นเรื่องของเขาถึงสามัคคีกัน จุดนั้นก็เหมือนอิซานะ

ยังดีที่ได้สมองเขาไปหน่อยในด้านความคิดและเหตุผลน่ะ
ทาเคเปิดไอจีใหม่ตั้งแต่ย้านมาอเมริกาสำหรับติดตามข่าวสาร ลงรูปภาพไว้บ้นทึกความทรงจำในช่วงต่างๆของชีวิต ตอนช่วงที่เด็กๆสองคนโตขึ้นมาก็เลยลองถามว่าสะดวกใจถ่ายรูปให้ใครก็ไม่รู้เห็นมั้ย

มันจิกะตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนอิซานจิถ้ามันจิกะลากมาก็จะยอมเข้าเฟรมมาด้วย
ผู้ติดตามไอจีทาเคส่วนมากเลยเข้ามาชมความน่ารักของสองแฝด บางคนก็เข้ามาเต๊าะคุณแม่ปริศนาที่บางคลิปจะหลุดเสียงพูดจาน่าฟังนุ่มนิ่มมาให้บรรดาผู้ติดตามใจอ่อนยวบ

คุณแม่มือใหม่หลายคนก็ตามทาเคไว้ เพราะด้วยความที่มือใหม่เหมือนกัน คุยด้วยแล้วไม่เกร็ง บางคนก็ตามเพราะสูตรอาหาร
ทาเคกลายเป็นหนึ่งในคนที่อยากได้เป็นแฟนมากที่สุดของใครหลายๆคนเลยล่ะ

แค่ลงรูปมื้อเช้าของมันจิกะไปแปปเดียวยอดถูกใจและคอมเม้นก็พุ่งพรวด หลายคนก็ชอบถามหาอิซานจิ รายนั้นไม่ชอบถ่ายรูปเลยมีรูปนับได้เลยทีเดียว บรรดาแฟนๆเลยชอบมาโอดครวญในคอมเม้น
มันจิกะมีออร่าของความเป็นกันเองของทาเคเลยเข้าถึงง่ายและดูน่ารักน่าเอ็นดู ส่วนอิซานจิมีออร่าของทาเคในฐานะนายหญิงบงเทน ทำให้ดูสง่างามและเข้าถึงยากกว่ามันจิกะ แต่เพราะเคยมีคลิปนึงที่อิซานจิอ้อนทาเคเลยทำให้ผู้ติดตามเห็นความน่ารักจนกรีดร้องไม่หยุด
"มัมขา~~~"
"ขาา"
ทาเคที่อุ้มเด็กแฝดไปร้านคาเฟ่ด้วยได้ยินมันจิกะเรียกอยู่ข้างหู
"โรงเรียนอนุบาลที่หนูต้องเข้าเรียนปีหน้าเป็นยังไงหรอคะ"
"มัมไปดูมาแล้ว มัมว่าพวกหนูต้องชอบแน่ค่ะ กว้างขวางเชียว แถมคุณครูก็ดูเก่งด้วย ไม่เหยียดมัมที่อายุน้อยกว่าเลย"
"ถ้ามัมว่าดีอิซก็ว่าดี"
ทาเคหัวเราะเบาๆกับลูกสาวสองคนที่เจื้อยแจ้วอยู่ข้างหู

พอถึงร้านด้วยความที่ทาเคเป็นแมวลูกค้าหลายคนเลยค่อนข้างเอ็นดูเลยชอบหยอกเล่น แต่พอเห็นยัยแมวหอบลูกสาวเข้ามาในร้านด้วยก็นั่งสงบเสงี่ยม

ทำไงได้ล่ะก็อิซานทาจิเป็นไฮบริดเสือขาว ส่วนมันจิกะเป็นไฮบริดสิงโตนี่
โดนจ้องจากสองนักล่าตัวน้อยราวกับจะกินไปทั้งตัวถ้าเข้าไปยุ่งกับมัมสุดที่รักซะอย่างนั้น

ถึงจะเป็นลูกเสือลูกสิงค์
แต่ก็เป็นเสือกับสิงโตเหมือนกันนะเฮ้ย

ทางที่ดีอย่าเข้าไปยุ่งเลยดีกว่าถ้ายังรักมือกับหัวตัวเองอยู่
ใช่ชีวิตกับแบบสามคนแม่ลูกจนสองสาวอายุได้ 7 ขวบ

ทาเคจะเป็นคนที่ไปรับไปส่งที่โรงเรียนเสมอจนวันนึง....
"คุณฮานากาคิคะ คือลูกของคุณมีเรื่องกับเพื่อนร่วมห้องค่ะ"
บรรดาพนักงานในร้านที่ได้ยินถึงกับตาโต เด็กดีสองคนนั้นที่เขม่นแค่พวกคนที่เข้ามาจีบมัมคนสวยน่ะหรอ

ทาเคตอบรับก่อนรีบบึ่งรถไป
โรงเรียนประถมที่ทาเคเลือกให้เด็กๆเป็นโรงเรียนที่ดีมากรร.นึง มีทั้งลูกคุณหนูคุณชายทั้งหลาย และก็มีเด็กจากครอบครัวฐานะปานกลางค่อนไปทางสูงอีกมาก ครูในรร.ก็สอนเด็กไม่ให้เหยียดฐานะคนอื่น แต่ก็นะเด็กร้อยพ่อพันแม่ จะดูและยังไงให้ทั่งถึง

"แกมาต่อยหน้าลูกฉัน!!"
"ขอโทษมาเดียวนี้เลยนะ!!"
ทาเคเข้าโรงเรียนมา ถอดโค้ทพาดไว้ที่แขน เดินตามทางเดินมาที่ห้องพักครู ที่มีเด็กๆยืนมุงแอบดูผ่านกระจกห้อง

มองผ่านกระจกไปเจอลูกสาวสองคนยืนโดยมันจิกะทำหน้าบอกบุญไม่รับ ส่วนอิซานจิได้แต่ทำหน้าปลาตายอยู่อย่างนั้น

ซึ่งคู่กรณีเป็นเด็กผู้ชาย 5 คนที่หน้าดูไม่ได้
มีคุณครูคอยไกล่เกลี่ยอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

ทาเคขอทางเด็กก่อนเดินเข้าไปในห้องพักครู เด็กหลายคนตอนแรกก็สงสัย แต่พอสบตาทาเคก็ร้องสวัสดีคุณแม่ฮานากาคิเสียงสดใส

"มัมขา/มัม"
สองสาวประสานเสียงร้องหาก่อนตั้งท่าจะฟ้องมัมของตัวเองจนทาเคต้องยกมือห้าม
"แกเป็นแม่เด็กสินะ!"
"ฉันก็นึกว่าเป็นใครมาจากไหนถึงได้เลี้ยงลูกเป็นอันธพาลรังแกคนอื่น ที่แท้ก็ไอพวกวัยรุ่นเหลวแหลก แม่เลี้ยงเดี่ยวไร้ปัญญาดูแลลูก!!"

ทาเคที่ยิ้มตั้งแต่เข้ามาจนตอนนี้ก็ยังไม่หยุดยิ้ม หันหน้าไปหาคุณครู
"คุณครูช่วยอธิบายสถานการณ์หน่อยได้มั้ยครับ?"
ทาเคยิ้มให้ ก่อนคุณครูจะพยักหน้า
"ลูกของคุณฮานากาคิต่อยเพื่อนร่วมชั้นค่ะ เด็ก 4 คนตรงนั้นเป็นคนถูกต่อย แม่ของเด็กๆเลยอยากให้หนูอิซกับหนูมันขอโทษน่ะค่ะ แต่สองคนนี้ไม่ยอมขอโทษบอกว่าตัวเองไม่ผิ-----"

"มันจะไม่ผิดได้ยังไง!! ลูกฉันเห็นกันหมดว่าลูกพวกฉันมีแผลเต็มตัว!"
หนึ่งในคุณนายสักคนพูดแทรก จนทาเคต้องยกนิ้วขึ้นมาอุดหู ก่อนถอนหายใจ

ทาเคก้มตัวลงไปหาสองสาวที่คนพี่หัวยุ่งจนทาเคต้องลูบผมให้เข้าทรง

"ก็พวกนั้นมาว่ามัมก่อน เราสองคนก็เลย..."
มันจังพยักหน้าสนับสนุนคำของพี่สาวตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย

"อายุแค่นี้หัดโกหก ไม่มีใครสั่งสอนรึไง!!"
"ลูกฉันมารยาทดีซะขนาดนี้ มากล่าวกันได้นะ!"
"ไหนลูกรักบอกไปสิว่านังเด็กสองคนนี้มันทำอะไรหนูบ้าง!"
"สองคนนั้นต่อยพวกผม แถมยังหยิกกับดึงผมผมด้วยครับ!"
พวกคู่กรณีแย่งกันฟ้องแม่ๆทั้งเสียงร้องโอดครวญ แสร้งว่าเจ็บนักเจ็บหนา จนทาเคที่กอดลูกตัวเองอยู่ได้แต่ทำหน้าคล้ายอิซานจิเข้าไปทุกที
คุณครูที่นั่งเป็นคนกลางในห้องหลายท่านได้แค่แอบดูสถานการณ์
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่ากลุ่มเด็กผู้ชายนั้นมีวีรกรรมอะไรบ้าง เด็กหลายคนก็ถูกแกล้ง เรียกผู้ปกครองกันไปก็หลายหน แต่พอบรรดาผู้ปกครองของเด็กที่ถูกแกล้งรู้นามสกุลของเจ้าพวกเด็กนั่นก็ยอมถอยให้ตลอดเพราะเกรงกลัวอำนาจ
แถมไอเจ้าพวกเด็กนี่ยังเลือกแกล้งแต่เด็กที่มาจากครอบครัวฐานะปานกลางที่ไม่ได้เป็นตระกูลใหญ่มีหน้ามีตาในสังคมอีกต่างหาก
คุณครูได้แต่ถอนหายใจ คุณแม่ของสองแฝดนี่ก็คงต้องยอมเหมือนกัน ไม่งั้นการใช้ชีวิตคงอยากขึ้นมากโข

หนึ่งในคุณนายที่ต้องการความแน่ใจเลยเอ่ยปากออกมา
"เธอน่ะชื่ออะไร?"
ทาเคยิ้มบางตอบรับคำถามอีกฝ่าย
"ทาเคมิจิ ฮานากาคิ ครับ"
บรรดาคุณนายก็หัวเราะคิกคัก
"แล้วเธอรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร ฉันน่ะ--"
"ไม่รู้หรอกครับ ผมไม่ได้ใส่ใจชีวิตคนอื่นขนาดนั้น"

บรรดาอาจารย์ได้แต่กลั้นขำอยู่หลังฉาก
"แล้วนามสกุลฮานากาคินั่น คนเอเชียหรอกหรอ" หัวเราะกันคิกคัก คุยกันสนุกปาก
"ผู้ปกครองขอให้คุยกันด้วยถ้อยคำสุภาพนะคะ"
คุณครูสาวแทบเหงื่อตกกับสถานการณ์ตรงหน้า
ถึงผู้ปกครองของเด็กผู้ชายจะเป็นพวกขี้โวยวายรับมือยากขนาดไหน แต่หลายคนกับระแวงรอยยิ้มบางบนใบหน้าของผู้ปกครองแฝดคู่นี้มากกว่า
ทาเคถอนหายใจท่ามกลางเสียงคิกคักแสบหูของบรรดาคุณนาย

ทั้งห้องเงียบกริบ
"นี่สิน้าา ถึงมีคำพูดว่าลูกจะเหมือนแม่"
ดวงตาสีฟ้าจ้องมองไปยังคู่กรณีที่มองมาด้วยสายตาเหยียดหยาม

ก่อนจะยิ้มให้คู่กรณีตัวน้อยแล้วหันมาหาลูกตัวเอง
"อิซจัง มันจัง ไหนลองเล่าให้มัมฟังสิคะ มัมฟังเรื่องจากทางนั้นมาเยอะแล้ว"

"ก็เจ้าพวกนั้นมาบอกว่ามัมเป็นแค่คนเอเชียผิดเพศ หนีมาหาเงินเศรษฐีแก่ที่ยุโรป เป็นแค่อิตัวที่คอยวิ่งไล่ตามผู้ชาย"

คุณครูในห้องซี๊ดปาก ถ้าครูเป็นหนูครูกดหัวมันจมส้วมแล้วลูก

"หนูยังไม่ค่อยเข้าใจหรอก"
"แต่คำพวกนั้นพวกคุณน้าในร้านบอกว่าเป็นคำไม่ดีไม่ใช่หรอ พวกหนูก็เลยซัดมันเหมือนตอนมัมซัดคนที่มาว่ามัมตอนทำงานไง"
ตากลมโตสีฟ้าสบตาผู้เป็นแม่ บรรดาอาจารย์มองคุณฮานากาคิพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย สมแล้วที่เป็นแม่ลูก

ทาเคพยักหน้ารับคำของลูกสาว โดยที่มีเสียงแวดๆว่าลูกฉันไม่ผิดดังมาตลอด
"คุณครูมีกล้องวงจรปิดตรงนั้นมั้ยครับ"
"คุณครูฝ่ายไอทีกำลังไปดึงมาให้ครับ"
ทาเคพยักหน้าพร้อมเอ่บขอบคุณ

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ปกครองเอ่ยขอกล้องวงจรปิด แต่กล่องวงจรปิดของที่นี่เก็บแต่ภาพ การอ่านปากไม่นับว่าเป็นหลักฐานที่ชัดเจนมากพอ

"ภาพมาแล้วครับ!"
ครูคนนึงวิ่งหอบโน้ตบุ๊คเข้ามา
วิดีโอฉายชัดว่าคู่กรณีพูดอะไรซักอย่างด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อิซานจิพูดตอบกลับไปก่อนจะจูงมือมันจิกะหนี แต่หนึ่งในเด็กผู้ชายก็คว้าผมแฝดพี่เอาไว้ก่อนออกแรงดึงจนเสียหลักล้ม มันจิกะที่กำลังจะเข้าไปมีเรื่องก็ถูกอิซานจิห้าม ทั้งสองคนกำลังจะเดินหนี อิซานจิก็โดนคว้าแขนไว้
พวกเด็กนั่นพูดอะไรสักอย่างยาวมากๆ ที่ไม่ต้องอ่านปากก็น่าจะเดาได้ว่าเป็นคำพูดเดียวกับที่ทำให้สองสาวเป็นเดือดเป็นร้อน เพราะเด็สองคนนั้นยังไม่ทันพูดจบ มันจิกะก็พุ่งเข้าซัดหน้าไปแล้ว อิซานจิที่เห็นน้องสาวเปิดก็เปิดตามจนตะลุมบอนกันแล้วครูมาจับแยก
"มารยาทลูกของคุณดีเหลือเกินนะครับ ดึงผมลูกของผมขนาดที่ตอนนี้ที่กางเกงของลูกคุณยังมีผมของอิซติดอยู่เลย"
คุณนายรีบหันไปมองก่อนจะปัดผมนั่นให้พ้นทาง แสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"ลูกชายของฉันก็แค่เอ่ยทักทาย ลูกของเธอเองรึเปล่าที่ไร้มารยาท บ้านของฉันอบรมมารยาทลูกเป็นอย่างดี"
"พอดีผมสอนลูกเอาไว้ว่าถ้ามีคนทักทายอย่างไร้มารยาทให้ตีตัวออกห่างๆน่ะครับ"
ทาเคปิดปากพร้อมหัวเราะน้อยๆ

คุณครูหลายคนเริ่มเห็นถึงสถานการณ์ที่พลิกผัน นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เจ้าพวกเด็กชายพวกนั้นถูกลงโทษบ้าง

"เธอกล้าบอกได้ยังไงว่าลูกของฉันไร้มารยาทน่ะหา!!"
ทาเคยกนิ้วชี้ทาบทับริมฝีปาก ก่อนหันไปหาคุณครุที่วิ่งเข้ามา
"โน้ตบุ๊คของคุณครูเชื่อมต่อกับเครื่องบันทึกเสียงมั้ยครับ"

ทาเคยิ้มร่า ก่อนดึงโบที่ประดับบนอกเสื้อของอิซานจิออกมา บอกแล้วไงตอนที่ออกมาจากบ้านตอนนั้นเขาหอบมาทุกอย่างที่ใช้การได้

ทาเคเชื่อมบันทึกเสียงกับโน้ตบุ๊ค
เด็กๆหลายคนที่แอบดูจากข้างนอกห้องร้องว้าวว บางคนก็เอ่ยสนับสนุนว่าที่บ้านของตัวเองก็ใช่เครื่องดักฟังยี่ห้อนี้

"ตระกูลของคุณคงใหญ่ไม่เบา"
ทาเคนั่งไขว่ห้างยืดหลังตรง อีกฝ่ายมองมาที่ทาเคอย่างกับเห็นมารร้ายที่ไหน

"แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะมาใช้อำนาจนั่นคุ้มกะลาหัวลูกของคุณ"
"หุบปาก! แกไม่รู้รึไงว่าตระกูลฉันมีอำนาจขนาดไหน"

"คุณก็รู้นี่ว่าโรงเรียนแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้ปกครองมีอำนาจ"

ทาเคเอามือประสานกันที่คางก่อนยกยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา
"แล้วทำไมยังกล้าให้ลูกทำกริยาต่ำๆระรานคนอื่นไปทั่วยังงี้ล่ะ?"
พอการอ้างอำนาจทำอะไรทาเคไม่ได้ อีกฝ่ายก็อ้าปากพะงาบๆ ราวกับจะขาดอากาศหายใจ
"อย่างที่ผมเคยบอก"
"ลูกมักจะเหมือนแม่"
"การที่ลูกชายของคุณทำกริยาต่ำๆไร้มารยาท ไร้หัวคิด นั่นบอกถึงความสามารถในการดูแลและสั่งสอนลูกของคุณเป็นอย่างดี"

"แล้วอย่างนี้ใครจะอยากมาทำธุรกิจร่วมกับคนไร้หัวคิดล่ะ"
ทาเคยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
บันทึกเสียงที่เป็นหลักฐานชั้นยอดบอกชัดเจนเลยว่า นอกจากจะกล่าวว่าร้ายทาเคด้วยถ้อยคำสกปรกแล้ว ก่อนหน้านั้นก็ว่าลูกสาวของเขาว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ ไร้คนสั่งสอน บรรดาคุณหนูคุณชายที่แอบดูอยู่ด้านนอก ไม่ต้องนึกเลยว่าตอนกลับบ้านไปจะบอกอะไรกับผู้เป็นพ่อแม่บ้าง
อนาคตของตระกูลพวกนั้นก็คงจะลำบากนิดหน่อย หรืออาจจะลำบากมากๆ แต่ก็ช่างหัวเถอะ กล้าดียังไงมาว่าลูกของเขากันล่ะ เด็กข้างนอกก็ดูจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เห็นโทรคุยกับพ่อแม่กันเจี้ยวจ้าว ทาเคหันไปขอบคุณคุณครูที่ทำเรื่องให้ คุณคุณในห้องได้แต่ยิ้มแห้ง

ครอบครัวตัวอันตรายโผล่มาอีกแล้ว
ทาเคจูงมือลูกสาวสองออกจากโรงเรียน
"มัมโกรธมั้ย"
"โกรธเรื่องอะไรคะ?"
"ที่พวกหนูคุมอารมณ์ไม่ได้"
"ไม่โกรธหรอกค่ะ อายุเท่านี้ทนได้ขนาดนี้ก็เก่งมากแล้วค่ะ"

ทาเคนั่งยองๆมองลูกสาวที่กลั้นน้ำตามองมาทางเขา
"กลั้นทำไมคะ มัมไม่ว่าหรอก"
"มันไม่เท่"
"แค่พวกหนูโกรธแทนมัมก็เท่มากแล้วค่ะ"
ทาเคกอดโอ๋อีกฝ่ายที่ร้องไห้เต็มหน้าก่อนจะอุ้มขึ้นมาคนล่ะข้าง ยัยสองสาวหัวเราะคิกคัก
"แต่รู้มั้ยมัมโกรธหนูอย่างนึง"
"อะไรหรอคะ?"
"ทำไมพวกหนูถึงเฉยตอนพวกนั้นว่าหนูคะ มัมอยากให้หนูโกรธเพื่อตัวเองด้วยนะคะ"
"สัญญากันมัมนะ"
"ค่ะ!"
สองคนเกี่ยวก้อยกันเองเพราะมัมมือไม่ว่าง
ตลอดทางเด็กหลายคนต่างทักทายเขา ดูเหมือนเรื่องที่เขาตีกับคุณนายคนนั้นจะดังไปทั่วโรงเรียนแล้ว

แถมตอนจะออกจากโรงเรียนเพื่อนๆของสองสาวยังมาโบกมือลาซะอีก ในมือยังถือโทรศัพท์คาอยู่เลย

คงไม่ต้องบอกว่าหุ้นของตระกูลคุณนายทั้งหลายพงกนั้นดิ่งลงเหว
มีข่าวเสียๆหายๆหลุดออกมาเต็มไปหมด
ในเช้าวันถัดมา สองสาวนั่งดูข่าวจากทีวีในช่วงเวลามื้อเช้าแล้วได้แต่คิด

โลกของผู้ใหญ่น่ากลัวจังน้า

โดยทีทาเคนั่งหัวเราะคิกคักเป็นฉากหลัง
พอสองสาวอายุขึ้น 13
ช่วงเวลาแห่งการขึ้นมัธยมต้นอันแสนสดใส
ที่ทาเคแทบไม่เคยสัมผัส ตีกันจนจะตายครบทุกคนแล้วโว้ยยยย

ทาเคตัดสินใจให้สองสาวเรียนโรงเรียนธรรมดาทั่วไป เพื่อที่จะได้โตมาไม่เฉาตาย และก็เท่าทันคน ขืนประคบประหงมเป็นคุณหนูคุณชายอยู่นั่นตายแน่
ทาเคมองสองพี่น้องที่เดินงัวเงียลงจากชั้นสอง นึกย้อนถึงภาพสมัยเด็กแล้วยิ้มกว้าง อิซานจิเข้ามากอดจากข้างหลัง ส่วนมันจิกะกระโดดเกาะข้างหน้าแล้วซุกลงที่คอ

แค่อายุสิบสามแต่สองคนนี้ก็สูงเกือบจะเท่าเขาแล้ว มหัศจรรย์จริงๆ อำนาจของความอุดมสมบูรณ์ของอาหารสินะ
อีกอย่างที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้
ถึงจะกระดากปากไปบ้าง แต่อดีตคนรักของเขาเบ้าหน้าดีอย่างกับพระเจ้าสร้าง ซึ่งพระเจ้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ส่งต่อดีเอ็นเอความหน้าตาดีมาให้ลูกสาวแสนสวยของเขาอย่าเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ลูกใครวะสวยจัง
พร้อมหอมหัวเจ้าสองตัวยุ่งที่เกาะเขาอยู่ในครัว
เดี๋ยวนี้ทาเคไม่ค่อยโพสรูปลูกสาวแล้ว เพราะว่าทั้งสองคนมีไอจีเป็นของตัวเองแล้วยังไงล่ะ! ระดับความดังก็ไม่ธรรมดา มันจิกะคือหลายหมื่นคนแล้วเพราะรับงานถ่ายแบบด้วยล่ะมั้ง ลูกสาวคนนี้ไปไหนมาไหนมีแต่คนทัก
ส่วนอิซานจิเปิดแอคมาเพื่อตามข่าวกับให้น้องสาวแทคหาล้วนๆ รูปตัวเองไม่ค่อยลง
แต่ถึงยังงั้นก็มีคนฟอลอยู่เป็นหมื่น เพราะมันจิกะเคยแนะนำในสตอรี่ไว้ว่าเป็นแฝดพี่
ส่วนตัวตนของทาเค สองแฝดเก็บเงียบเป็นความลับระดับชาติ

มัมของพวกเขาน่ารักขนาดนี้!! ไม่ยอมให้ใครมาจีบกับแย่งไปหรอกนะ!
"ไปโรงเรียนแล้วนะค้าา"
ทาเคโบกมือลาสองแฝดก่อนจะออกไปทำงานเช่นกัน

"นี่เทคคุง"
"ครับ?"
"เดี๋ยวนี่สองสาวกลับบ้านดึกมั้ย"
"ก็ดึกอยู่นะครับ แต่ไม่ค่อยนักหรอก"
"คงไปเที่ยวตามประสาสาวๆนั่นแหละครับ มีอะไรรึเปล่า?"

รุ่นพี่ในร้านโบกมือไปมา
"เปล่าหรอกก ไอฉันก็เห็นเด็กหน้าคล้ายเฉยๆน่ะ"
ทาเคพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนหันไปยิ้มให้รุ่นพี่คนนั้น
"เห็นที่ไหนหรอครับ?"
.
.
.
"เจ้มัน"
"อะไรล่ะ"
มันจิกะที่นอนหนุนตักแฝดพี่ที่กำลังจิ้มโทรศัพท์อยู่หันไปหาต้นเสียงพร้อมโยนขนมในมือเข้าปาก

"อย่านอนกิน"
"ถ้าติดคอก็ช่วยทุบหลังให้หน่อยล่ะกัน"
"เจ้วันนี้เจ้าพวกนั้นมันท้าเจ้มาแหละ"
"อะไรกัน วันนี้พวกฉันมีนัดกินสุกี้ยากี้กับมัมนะ!"
มันจิกะโวยวายจนอิซานจิต้องฟาดสักที

"ก็เพราะใครไปห้าวใส่พวกนั้นก้อนล่ะ"
"แต่มันแทะโลมฉันก่อนนี่"

อิซานจิสบตาน้องสาวที่นั่งโวยวายอยู่ข้างๆ บรรดาเพื่อนๆ หรือจะเรียกว่าลูกสมุนดี
สบตากันอย่างลับๆว่า คนที่กำลังพูดถูกพูดถึงในวงสนทนาของสองพี่น้องน่าจะไม่ตายดี
"เรื่องจริงใช่มั้ย"
"จะโกหกทำไม!"

ตกเย็นก็เลยบอกมัมว่าอาจจะกลับดึกหน่อยเพราะจะไปเที่ยวกับเพื่อน ก่อนจะไปยังสถานที่นัดตีกัน
มาถึงก็บอกกฏกติกากันนิดหน่อย คนมารับเรื่องกับคุยกฏคืออิซานจิ คุยยังไม่ทันเสร็จคำดี มันจิกะก็โดดเข้าไปคลุกวงใน จนอิซานได้แต่ตะโกนด่า แล้วค่อยเข้าไปลุยอีกคน

บรรดาสมาชิกในกลุ่มเลยยกพวกตีกัน

เรียกได้ว่าสมกับลูกของปีศาจบงเทนน่ะแหละ ลุยเดี่ยวก็เก็บได้เรียบ
แต่พอมาช่วยกันมันจิกะกับอิซานจิก็เข้าคู่กันได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งชก ทั้งเตะ ทั้งต่อย คอยอุดช่องโหว่ของกันและกัน จนคนหาเรื่องทำอะไรไม่ได้ พอได้จังหวะ อิซานจิก็แยกตัวออกมาเจอกับไอคนที่พูดจาแทะโลมน้องสาวตัวเอง แล้วก็กระทีบไม่ยั้งจนรอบวงชะงักแล้วหันมาสั่นกลัวแทน
พอกระทีบจนพอใจ ก็ยกเท้าออกมาเช็ดที่เสื้อของชายหนุ่มผู้โชคร้าย

"ทีหน้าทีหลังเล่นให้มันถูกคนหน่อย"
"แล้วก็อย่าไปทำอะไรแบบนี้กับคนอื่นอีก เข้าใจมั้ย"

คนโดนกระทีบมองมาที่อิซานจิก่อนจะยิ้มให้
"เหยียบอีกได้มั้ย"
ผลสรุปคือโดนอิซานจิทำหน้าหยะแหยงใส่และเตะสลบไปอีกหนึ่งราย
ไหนจะฟีโรโมนของเผ่านักล่าอย่างสิงโตกับเสือ แถมออร่าความเป็นผู้นำนั้นอีก

บรรดาสมาชิกได้แต่มองหัวหน้าตัวเอง ตีกันยังไงไม่ให้มีแม้แต่แผลวะนั่น

"ก็เพราะว่าถ้ามีแผล มัมจะเป็นห่วงยังไงล่ะ!"
มันจิกะพูดอย่างร่าเริงพร้อมมีอิซานจิพยักหน้าประกอบ
บรรดาคนมาหาเรื่องเห็นหัวหน้าตัวเองที่ฟื้นจากสลบแล้วตามมาหาหัวหน้าแก๊งตรงข้ามต้อยๆเป็นหมา

แหมม ก็สองหัวหน้าของเราขึ้นชื่อเรื่องดึงคนเข้าแก๊งนี่ ถ้าไม่โดนดึงมาเพราะความน่ารักของมันจิกะ ก็จะโดนตกเพราะความโหดเหี้ยมของอิซานจิ

สองพี่น้องแห่งการล่อลวงชัดๆ
"เพราะฉะนั้นวันนี้แยกย้าย!"
"พวกฉันจะกลับบ้านไปหามัมแล้ว!"
"เดี๋ยวมัมเป็นห่วง"
"ใช่แล้ว เป็นห่วงสิ"

เสียงคุ้นเคยดังมาจากแถวกองเก้าอี้เหล็กที่มีคนเอามากองทิ้งไว้ พอดีว่าพวกเรามาตีกันตรงที่ทิ้งของเก่าน่ะ
สองสาวที่มีชะนักติดหลังได้แต่ยืนตัวแข็ง ก่อนมันจิกะจะหันกลับไปอย่างกล้าๆกลัวๆพร้อมยิ้มสู้ ส่วนอิซานจิตัวแข็งเป็นหิน จนน้องสาวต้องจับหมุนมารับโทษด้วยกัน

"แหะๆ สวัสดีตอนค่ำค่ะมัม"

ทาเคมิจิยิ้มให้ลูกๆสองคนที่เหงื่อแตกพลั่ก ดวงตาปิดสนิทแต่ยังคงรับรู้การเคลื่อนไหวต่างๆดี
บรรดาสมาชิกทั้งใหม่ทั้งเก่า เห็นมัมที่หัวหน้าของตัวเองรักนักรักหนาเป็นครั้งแรกถึงกับประหม่ามือไม้สั่น จนสองแฝดได้แต่มองแรงใส่

"หวังว่าลูกจะอธิบายให้มัมฟังได้ใช่มั้ยคะ"
สองสาวที่ได้แต่เดินตามหลังมัมคนสวยกลับบ้านขานรับอย่างหวาดๆพร้อมกัน

"ค่ะมัม;-;"
พอกลับมาถึงบ้าน บรรดาลูกสาวก็นั่งอยู่ที่โซฟา รอมัมคนสวยที่เข้าครัวไปชงนมอุ่นมาให้

เพราะเจ้าพวกนั้นแท้ๆ!
สุกี้ยากี้ก็อดกิน!
แถมยังโดนมัมด่าอีก!

"ไงคะลองเล่าให้มัมฟังหน่อย"
ทาเคนั่งไขว่ห้างรอแฝดสาวเล่าที่มาที่ไผทั้งหมด
จริงๆแล้วเขาก็พอเดาได้ตั้งแต่ช่วงที่ลูกๆกลับดึก จะยังไงเขาก็เคยเดินทางสายนี้มาก่อนนะ แค่ไม่อยากทำใจยอมรับว่าลูกสาวคนสวยของเขาจะเหมือนพ่อขนาดนี้ เหมือนจนเขาจะร้องไห้ แม่งเอ้ยย

"ตอนแรกพวกหนูก็แค่เข้าไปช่วยคนที่โดนแกล้ง สักพักเจ้าพวกนั้นเลยมาแกล้งหนู พออิซจังซัดมันคว่ำก็ได้คุมรร."
ลูกเขานี่สุดยอดจริงๆ

"พอได้คุม บรรดาคนที่โดนอิซต่อยไปก็เข้ามาเป็นลูกน้อง ช่วงนั้นมันจังยังไม่ได้เข้าไปเกี่ยวหรอก แต่พออิซต้องไปเข้าค่ายเลยฝากมันดูแล"

"สรุปพออิซกลับมาจากค่ายก็ได้แก๊งอื่นเข้ามาเพิ่มล่ะ"

ทั้งสองคนแทบจะเอาหน้าซุกกัน เพราะมัมคนสวยกระดกนมเข้าปากเหมือนกระดกเหล้า
ทาเควางแก้วลงบนโต๊ะ
"เด็กๆฟังมัมนะคะ"
สองสาวพยักหน้าหงึกหงักรับคำคนเป็นแม่

"มัมเข้าใจพวกหนู เพราะตอนมัมอายุเท่าหนูมัมก็เป็นนักเลงในแก๊งใหญ่เหมือนกันค่ะ"
สองสาวชะง้กก่อนเบิกตากว้างหันไปมองมัมของตัวเองอย่างรวดเร็ว

มัมเนี่ยนะ!!
"ตอนตีกันมีคนปางตายตั้งเยอะแยะ มัมร้องไห้จนเลิกร้องไปแล้ว"
ทาเคหัวเราะราวกับกำลังคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ

ตีกัน?! เด็กม.ต้นตีกันนี่เอาถึงตายเลยหรอมัม!? ญี่ปุ่นโคตรจะอันตราย!

"อ้อ!"
ทาเคเอากำปั้นทุบมือเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
"อย่างที่พวกหนูรู้ว่าพ่อของพวกหนูเป็นคนละคนกัน แต่เพราะมัมเป็นไฮบริดแมวตอนท้องเลยสามารถท้องได้กับคู่หลายคน"
สองสาวพยักหน้ารับรู้

"พ่อของมันจิกะเป็นหัวหน้าแก๊งที่มัมอยู่ตอนม.ต้นล่ะ!"
มันจิกะงงตาแตก
"ไม่นึกเลยว่าจะต่อยตีเก่งเหมือนพ่อด้วย"
ทาเคหัวเราะออกมา
อิซานจิค่อยๆมองมาที่ทาเคราวกับอยากรู้เรื่องพ่อของตัวเองบ้าง
ทาเคยิ้มให้บางๆ
"มีแก๊งมัมก็ต้องมีแก๊งคู่อริ แก๊งที่นำโดยพี่ชายต่างสายเลือดของพ่อมันจัง เป็นแก๊งใหญ่ที่แข็งแกร่งพอๆกับแก๊งมัมตอนนั้นเลย"

"มีเรื่องทะเลาะกัน ตอนนั้นมัมโดนปืนจ่อหัวด้วยนะ สุดท้ายก็โดนยิงเข้าที่เท้าล่ะ!"
มัมมม พวกหนูว่ามันเริ่มห่างไกลจากคำว่าม.ต้นขึ้นเรื่อยๆ

"สุดท้ายก็เคลียส์กันได้ แก๊งของพี่ชายของพ่อมันจังเลยรวมกับแก๊งของมัม"

"พ่อของอิซจังก็คือพี่ชายของพ่อมันจังที่เป็นหัวหน้าแก๊งคู่อริยังไงล่ะ!!"

สองสาวได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างโง่งม มัมจะต้องเสน่ห์แรงขนาดไหนถึงตกพ่อเรามาได้
"นี่แค่ความสัมพันธ์ของสองแก๊งเองนะ ยังไม่รวมBD โรคุฮาระ บราม่า เมบิอุส คันโต"

ผมจะไม่พูดถึงบงเทนเพราะมันไม่ใช่นักเลงมันเป็นธุนกิจมืด!!!

ทาเคยิ้มร่าหัวเราะให้ลูกสาวสองคนที่มองมาทางตัวเองราวกับเห็นผี

มัมเป็นใครกันแน่!!! แล้วญี่ปุ่นนั่นมันอะไร แก๊งอะไรเต็มไปหมด
"ทั้งหมดที่มัมจะสื่อคือ..."
"มันไม่ว่าอะไรที่พวกหนูจะมีเรื่อง เพราะมัมเข้าใจว่าเลือดพ่อมันแรง"

"แต่มัมมีข้อแม้คือพวกหนูต้องไม่เริ่มก่อน ตีกันจะต้องไม่ถึงแก่ชีวิต ไม่ยุ่งกับยาเสพติด"

"ส่วนเหล้ากับบุหรี่ ถ้าพวกหนูอยากลองเดี๋ยวมัมพาลองเอง"
"มัมไม่สนับสนุนให้กินกับสูบหรอกนะ!"
(ไทม์ไลน์ตอนตีกัน สองสายอายุ 15 แล้ว)
สองคนพยักหน้ารับ อย่างน้อยมัมก็เข้าใจว่าวัยอย่างพวกเธอมันเป็นวัยอยากรู้อยากลอง

"แล้วก็ ทีหลังมีอะไรให้บอกมัมด้วย"
"ไม่ใช่ปล่อยให้มัมรู้เอง"
สองสาวรีบพุ่งเข้ามากอดมัมของตัวเอง เอ่ยปากตกลงตามข้อเสนอที่มัมมอบให้ พร้อมพูดขอโทษแล้วงอแงไม่ขาดปาก
วันนั่นจึงจบลงด้วยการที่ทาเคเข้านอนพร้อมสองแสบ

กล่อมนอนเหมือนสมัยเด็กๆ

แล้วพากันหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน
ขึ้นม.ปลาย
สองสาวตัดสินใจ เรียนด้วยตัวเอง สอบเทียบได้วุฒิจบม.ปลายมาตอนอายุ 16
ไม่อยากให้มัมทำงานหนักหาเงินแล้ว นอกจากคาเฟ่ วันหยุดมัมยังรับจ้างนู่นนี่อีก อย่างว่าเลี้ยงเด็กสองคนในเมกายากจะตาย ใช้เงินเยอะด้วย

มันจิกะเดินสายนางแบบกับดาราแทบจะเต็มตัว ดังแบบฉุดไม่อยู่
ส่วนอิซานจิ อยู่ดีๆก็มาอ้อนมัม
"มัมขา เปิดบริษัทในชื่อมัมให้หนูได้มั้ย"
ถึงตอนแรกทาเคจะสงสัย แต่อิซบอกว่าอยากเริ่มหาเงิน ทาเคก็สนับสนุน

บริษัทในชื่อของทาเคจึงถูกจัดขึ้น โดยมีอิซานจิเป็นผู้บริหาร

ตัวมันจิกะไม่ค่อยเข้ามายุ่งกับงานธุรกิจ จะเข้ามาช่วยบางครั้งที่อิซวุ่นๆ
เพียงไม่นาน บรรดาพี่ป้าน้าอาในคาเฟ่ได้แต่โบกมือลาสามแม่ลูกคนสวย เพราะยัยสองสาวให้แม่ลาออกมาอยู่บ้านเฉยๆแล้ว เงินอะไรนั่นพวกหนูหามากองให้มัมได้แล้วน่า ไม่ต้องทำงานแล้ว

ทาเคอยากจะบ้า เรื่องนี้ก็เหมือนพ่อจริงๆ ตอนเขาเป็นนายหญิงบงเทนก็หมกตัวอยู่แค่สองที่ไม่บงเทนก็บ้าน
แถมไม่ต้องทำอะไรก็หาของมาสปอยเขาจนล้นตู้เก็บไปหมด สองพี่น้องนี่ก็เหมือนกัน หาวันที่ว่างพร้อมกันทั้งคู่แล้วลากมัมไปชอปต่างๆ เข้าร้านนู้นออกร้านนี้ หาของสวยๆให้มัมใส่

ทาเคได้แต่เออออไปด้วย ชุดคู่บ้างแหละ เครื่องประดับคู่บ้างแหละ ของแบรนด์ทั้งนั้นนน
เห็นลูกตัวเองรวยแล้วปลื้มปลิ่มจังคับ

บริษัทของอิซานจิกลายเป็นทอปทรีด้วยเวลาไม่ถึงปี พนักงานก็หน้าคุ้นๆ เหมือนไอพวกที่เคยเห็นตอนตีกัน

เป็นบริษัทที่ถูกจับตามอง ตอนเผยหน้าผู้บริหารว่าเป็นแค่เด็กผู้หญิงอายุ 16 ก็ถูกโจมตีบ้าง แต่แค่อิซานจิแผ่รังสีผู้นำของเผ่านักล่าอย่างเสือขาว
ก็ไม่เคยมีใครทักท้วงหรือกวนใจอีก ทำไงได้ ตอนที่ทาเคให้เรียนอนุบาลกับประถมในรร.คนมีตังค์ ทำให้สองสาวสร้างคอนเนคชั่นเอาไว้มากมาย จนทำให้กาทำธุรกิจตอนนี้เป็นไปอย่างง่ายดาย

นอกจากจะเก่งแล้ว เพราะความสวยของอิซานจิ บ่อยครั้งเลยมีการให้สัมภาษณ์ บางครั้งก็มีถ่ายแบบ
ยิ่งรุ้ว่าน้องสาวฝาแฝดคือมันจิกะ สองคนพี่น้องก็ยิ่งดังซะยิ่งกว่าดัง ดังในเรื่องที่ไม่เหมือนกันสุดๆ ตีกันหลังกล้องบ่อยมาก

พอมีคนเริ่มขุดคุ้ยเรื่องมัม สองสาวก็จะสมกับการเป็นนักล่าขึ้นมาทันที จนบรรดาคนชอบขุดต้องล่าถอย ถ้าต้องปะทะกับนักธุรกิจและดาราเบอร์ใหญ่อย่างสองคนนี้ ขอบายล่ะ
ทาเคตอนที่สิงอยู่บริษัทคอยดูอิซานจิทำงาน ที่นี่แทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่สอง ขนาดที่ว่าชั้นบนของตึกเป็นที่อยู่ของสามแม่ลูกไปแล้ว

วันไหนที่อิซานจิต้องไปดูงานต่างประเทศและมันจิกะติดงาน ทาเคก็จะอยู่บริษัทเพราะมันคึกคักดีไม่เหงา
เป็นปกติที่พนักงานจะเห็นมัมที่กล่าวกันว่าสองพี่น้องนั้นดูแลราวกับสมบัติล้ำค่า คอยนั่งมองนอนมองมาจากชั้นลอยของที่พัก

สมแล้วที่เป็นสมบัติล้ำค่า
มัมน่ารักมาก ใจดีมาก สวยมาก ยิ้มที่โลกสดใส สมกับที่เจ้านายพวกเขาอวยไว้จริงๆ

บางครั้งถ้าได้ลงมาเดินข้างล่างก็จะทักทาย ซื้อขนมมาฝาก
ทาเคที่จ้องมองการเดินทำงานของคนสนิทสองสาวได้แต่ยิ้ม หางและหูแมวสะบัดไปมาราวกับเจอเรื่องสนุก

ส่วนใหญ่พออยู่บ้านหรือที่พักก็ปล่อยหูกันทั้งนั้นเพราะมันสะบายตัวกว่ายังไงล่ะ

บรรดาพนักงานเลยได้มีพักสายตาชนิดยอดเยี่ยมยังไงล่ะ
พอสองสาวอายุ 17
ทาเคก็อายุได้ 37 แล้ว

เวลาผ่านไปไวจริงๆน้าาา เขาหนีสองคนนั้นมาตั้งแต่อายุ 20 นี่นา

บริษัทของอิซานจิก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันจิกะก็เป็นนางแบบแนวหน้าของวงการ มีเขานั่งอยู่เป็นกองเงินกองทองที่สองคนนั้นหามาได้อีกที

ถึงจะพูดไปแล้ว
แต่ก็นะ สองคนนั้นเหมือนพ่อมันจริงๆ
ตัวสูงกันสุดๆเลยล่ะ เด็กนี่โตเร็วกันจังนะ
"มัม! วันนี้พวกหนูไปเจรจาธุรกิจนะคะ เดี๋ยวกลับมาทานข้าวเย็นนะ!"

ทาเคพยักหน้ารับก่อนโบกมือลา ไม่วายสองสาวมาหอมแก้มก่อนจะออกไปทำงาน

มีไม่บ่อยที่สองสาวจะไปเจรจาธุรกิจพร้อมกัน
ทาเคฮัมเพลงเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม
"เหมือนพ่อกันจริงๆเลยนะ"
.
.
.
"สรุปว่าตามนี้ใช่มั้ย"
"ขอหุ้นตรงส่วนนั่นเพิ่มไม่ได้รึไง"
"งั้นพวกฉันก็ขอตรงนั้นเพิ่มได้สิ"
อิซานจิที่นั่งคู่กับมันจิกะบนโซฟา ได้แต่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้คุณคู่ค้าตัวใหญ่ที่กำลังฝืนยิ้มกัดฟัน
ที่ถ้ามีใครมาเห็น คงคิดว่าคนตรงหน้าจะกินพวกเธอเข้าไปแหง
"ไม่ดีกว่า"
"งั้นก็จบการเจรจา"

สองสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับฝ่ายตรงข้าม

"หวังว่าธุรกิจ'การค้าอาวุธ'ของพวกเราจะเป็นไปด้วยดี"
"แน่นอนค่ะ ทางฝั่งฉันมีสายเป็นตำรวจ และทางฝั่งคุณก็เหมือนกันสินะคะ"
อิซานจิจับมือที่ยื่นมา
คนตรงหน้า มองหน้าพวกเธอพร้อมจิ๊ปาก
"..."
"มีอะไรรึเปล่าคะ"
"แค่เห็นพวกเธอแล้วรู้สึกหงุดหงิด"

สองสาวหัวเราะเบาๆ ทำเอาผู้ติดตามของคู่ค้าคิดว่าเป็นเสียงหัวเราะของนางฟ้าตัวน้อย แต่จริงๆแล้วมันน่าจะเป็นของปีศาจตัวน้อยมากกว่า

"แต่ยังไงก็..."
"ยินดีที่ร่วมธุรกิจค่ะ 'ชิบะ ไทจู'"
ระหว่างทางที่ออกจากห้องประชุม มันจิกะก็เจื้อยแจ้วไม่หยุด มีอิซานจิถามไถ่เป็นระยะ ถึงไทจูจะรำคาญคู่ค้าคนอื่นอยู่บ่อยๆ แต่กับสองคนนี้ อาจจะเพราะเป็นคู่ค้ารายใหญ่ด้วยล่ะมั้ง เขาเลยไม่ค่อยรำคาญแต่จะหงุดหงิดซะมากกว่า

ให้ฟีลหลานกับคนแก่ที่ปากบอกรำคาญแต่ให้อยู่ใกล้ๆตัวเลย
"บอส มีสายเข้ามาค่ะ"
สองสาวเลยขอตัวไปก่อน แล้วบอกให้เดินชมบริษัทได้ตามสบาย ไทจูพยักหน้า ก่อนเดินไปตามทางเดิน

เห็นยัยสองคนนั้นบอกว่าทำธุรกิจทั้งใต้ดินและบนดิน แถมยังทำมาได้แค่ปีเดียว

มีพรสวรรค์เรื่องแบบนี้สินะ
ถึงจะหน้าหงุดหงิด เพราะอะไรไม่รู้
แต่ก็เป็นคนที่หน้าจับตามอง

"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ"
ผู้ติดตามหันไปทางเสียงที่อยู่ด้านหลัง มาตั้งแต่เมื่อไร ไม่มีแม้แต่เสียงให้ได้ยิน ไทจูชะงัก ก่อนสั่งให้ผู้ติดตามออกไปให้พ้นทาง หันหน้าไปหาเจ้าของเสียงที่พอผู้ติดตามหลีกทางให้ก็ก้าวเข้ามาใกล้ๆ
"นี่แก.."
"สองคนนั้นทำได้ดีในเรื่องแบบนี้สินะ"

ชายผมดำในเสื้อเชิ้ตคอจีนสีอ่อนพยักหน้ากับตัวเอง

"อย่าบอกนะ..."
"อื้อ! 'ลูกสาว'ของผมคงไม่ได้สร้างเรื่องอะไรหรอกใช่มั้ย"

ไทจูได้แต่แสยะยิ้ม
"นี่แกถูกสตาฟไว้ตอนอายุ 20 รึไง"
"ฮานากาคิ"

ทาเคหัวเราะเบาๆพร้อมรอยยิ้มและดวงตาจันทร์เสี้ยว
เอามาฝาก
อิมเมจตอนสองสาวอายุ 17 มัมคนสวย 37
"ตอนนี้ฮานากาคิมีสามคนแล้วคนไทจูคุง"
ทาเคหัวเราะคิกคัก

ไทจูส่ายหน้า
"แล้ว...เป็นไงบ้าง"
"มีความสุขดีครับ"
ทาเคยิ้มก่อนมองไปยังอาณาจักรเล็กๆที่ลูกสาวของเขาสร้างขึ้น

"แต่ลูกแกมันเหมือนพ่อมันสุดๆเลยนี่หว่า"
"ผมก็คิดอย่างนั้นมาตลอดเลยครับ"
"รู้อยู่แล้วสินะว่าลูกแกทำธุรกิจใต้ดิน"
"แน่สิครับ แค่ผมเห็นรูปแบบการเดินงานของพนักงานในบริษัทก็มองออกแล้ว"
"ก็สมกับเป็นแก"
"ผมจะนับว่านั่นเป็นคำชม"

"งั้นแกก็รู้ว่าฉันจะมาเจรจากับลูกแกตั้งแต่แรกแล้วสินะ"
"ผมรู้แค่ว่าไทจูคุงมาอเมริกาครับ ส่วนเรื่องมาเจรจาเดาเอาน่ะ"
"ผมไม่คิดว่าลูกสาวของผมจะทำให้บริษัทมาไกลขนาดนี้ด้วยเวลาแค่ปีเดียวด้วยซ้ำ"
ความเงียบเข้ามากลืนกินบทสนทนา ไทจูจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ทาเคก้มหน้าลงไปมองชั้นล่างที่เห็นสองสาวกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางนี้

เพราะอะไรก็ไม่รู้สองสาวเลยเงยหน้าขึ้นมองชั้นสองที่ปล่อยคู่ค้าตัวโตเอาไว้
ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายเบิกกว้างก่อนพบว่ามัมของตัวเองกำลังท้าวแขนกับราวกั้นแล้วก้มมองมาทางพวกเธอพร้อมกับคู่ค้าคนนั้น ด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ตาหยี

สังหรณ์ใจว่ากลับบ้านไปต้องได้คุยกันก่อนมื้ออาหารอีกแหง

สองสาวยิ้มแหยส่งให้มัมคนสวย แล้วรีบสาวเท้าขึ้นไปหาทั้งสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆกัน
ทาเคเดินออกจากบริเวณนั้น
ก่อนไปไม่วายตีไหล่ไทจูเบาๆ

"โชคดีนะ"
ทาเคกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ไทจูได้แต่คาบบุหรี่ไว้ในปาก ในสมองกำลังลังเลว่าเขาจะพูดสถานการณ์ในบงเทนตอนนี้ให้ทาเคฟังดีหรือไม่ เป็นจังหวะเดียวกับที่สองสาวผงะถอยหลังเพราะทาเคเดินมาเกือบถึงบันได อ้อร้อมัมตัวเองสักหน่อย
ทาเคได้แต่บอกว่าเดี๋ยวไปคุยกันที่บ้าน โดยที่ไทจูได้แต่อ้าปากหุบปากอยู่นั่น

"ทาเคมิจิ...ตอนนี้..."
"ไทจูคุง"

ทาเคหันมายิ้มให้กับคนคุ้นเคย
มีลูกสาวสองคนที่ชะงักจนต้องยืนอยู่ระหว่างทั้งสองคน

"นายก็รู้ว่าผมน่ะรู้ทุกอย่าง"
ไทจูได้ฟังก็พยักหน้า
ก่อนก้มหัวให้ทาเคที่เดินหันหลังออกไป

สองสาวมองมาที่คู่ค้าของตัวเองราวจะกินเลือดกินเนื้อ

ลุงคนนี้เรียกชื่อมัม!
ชื่อน่ะชื่อ! ชื่อที่ไม่ใช่นามสกุล!
แถมมัมยังเติมคุงให้ชื่อลุงนี่อีก!!
ลุงมันเป็นใคร!?
เกี่ยวอะไรกับมัม!!

สายตาคาดคั้นของสองสาว
ที่ใครๆหลายคนอาจจะกลัว แต่กับเขาที่โดนสายตาของนายหญิงบงเทนคนนั้นมาตลอดคงไม่มีอะไรต้องเกรงกลัวแล้วล่ะมั้ง

ไทจูค้อมตัวลาสองสาว สองสาวค้อมตัวกลับ แม้สายตาจะยังจดจ้องลุงคู่ค้าอย่างจับผิด

"แล้วผมจะรอคุณติดต่อไปเรื่องการไปเยี่ยมชมธุรกิจที่ญี่ปุ่นนะครับ"
อิซานจิพยักหน้ารับ
ก่อนจะรีบไปหยิบกระเป๋า ใส่เสื้อโค้ท แล้วพุ่งตัวออกจากบริษัทท่ามกลางสายตาขำขันของพนักงานที่บอสของพวกเขาน่าจะกำลังคิดหาเหตุผลมาหว่านล้อมมัมของตัวเองเรื่องธุรกิจมืดจนหัวหมุนแน่ๆ
.
.
.
อิซานจิและมันจิกะที่ยืนรั้งรออยู่หน้าบ้าน ได้แต่กอดแขนกันพร้อมคิดว่าจะตอบมัมของตัวเองยังไงดี
เสียงเปิดประตูบ้านทำเอาสองสาวสะดุ้ง
เห็นมัมส่งสัญญาณให้เข้าบ้านเลยได้แต่ผลักกันไปมาจนทาเคต้องกระแอม สองสาวเลยรีบวิ่งเข้าบ้าน

พี่น้องนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม ตำแหน่งเดิม และทาเคที่กำลังไปชงนมให้เหมือนเดิม ในสถานการณ์เดิมๆ

ถึงตอนนั้นมัมจะไม่ว่าอะไรเพราะเป็นการต่อยตีแบบเด็กๆ
แต่คราวนี้มันเป็นธุรกิจใต้ดินผิดกฏหมายเชียวนะ!!

สองสาวหันมองหน้ากัน
"ลูก---"
"ขอโทษค่ะมัม!!"

สองพี่น้องก้มหัวขอโทษมัมสุดที่รัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตา

"พวกหนูไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง"
"แค่รอให้มุกอย่างเข้าที่แล้วจะบอก"
"ขอโทษค่ะ!!"
ทาเครีบเดินไปคุกเข่าต่อหน้าลูกสาวทั้งสอง จับมือทั้งคู่มาบีบเบาๆ

"มัมเข้าใจค่ะ"
"เรื่องธุรกิจใต้ดินมัมก็เข้าใจ"

ทั้งสองคนน้ำตาหยดแหมะๆใส่มือมัมสุดที่รัก จนทาเคต้องกอดโอ๋ให้สงบสติอารมณ์ก่อน

"มัมไม่โกรธหรอ"
"ไม่เลยค่ะ มัมรู้ว่าพวกหนูมีเหตุผล"
ทาเคเข้าไปนั่งแทรกระหว่างลูกสาวทั้งสอง โดยมีทั้งสองคนซุกเข้าหา จนเริ่มสงบลงก็เลยเริ่มเปิดใจคุยกัน

"ธุรกิจตอนนี้ก็มือค้าอาวุธ ของเถื่อน จัดหาคน จำพวกนี้ค่ะ"
อิซานจินั่งอธิบายให้มัมฟังในสิ่งที่กลุ่มธุรกิจของพวกเธอทำ

ทาเคพยักหน้ารับเป็นบางช่วงในสิ่งที่ลูกสาวทั้งสองคนทำมา
"คู่ค้าคนล่าสุดก็คือคุณชิบะ ที่มัมเจอวันนี้ค่ะ"
สองสาวมองหน้ากันก่อนจะเอ่ยปากถามเรื่องที่ค้างคาใจมาตั้งแต่บริษัท ความสัมพันธ์ของมัมและคู่ค้าคนนั้นนน่าจะมีมากกว่าคนแปลกหน้าหรือคนพึ่งสนิทเป็นแน่

"มัมคะ"
ทาเคสบตากับมันจิกะที่ถามออกมา
"มัมกับคุณชิบะคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกันหรอคะ"
ทาเคยิ้มบาง เตรียมใจที่จะต้องตอบคำถามนี้ไว้แต่แรก
"จำที่มัมเล่าให้ฟังได้มั้ยคะ เรื่องแก๊งสมัยม.ต้นของมัม"

สองคนพยักหน้า
"ชิบะไทจูคนนั้น คือหัวหน้าแก๊ง BD รุ่นที่ 10น่ะ"
สองคนเบิกตากว้าง ลุงคนนั้นก็เจ๋งนี่หว่า

"รุ่นหรอคะ?"
ทาเคพยักหน้า
"BD สืบทอดกันเป็นรุ่นๆ คนก่อตั้งคือพี่ชายแท้ๆของพ่อมันจิกะ และเป็นคนที่พ่อของอิซานจิเคารพเหมือนพี่แท้ๆ ตอนนั้นBDเป็นสุดยอดแก๊งที่ไม่มีใครเทียบได้เลยล่ะ"
สองสาวตาถลน ความสัมพันธ์ของแก๊งต่างๆวุ่นวายเหลือเกิน

"พ่ออิซานจิเคยเป็นหัวหน้า BD ด้วยนะ!"
อิซานจิรู้สึกช๊อคเลยเงียบดีกว่า
"แล้วมัมก็รู้จักกับไทจูคนนั้นหรอคะ?"
"น้องของไทจูคุงเป็นเพื่อนของมัม ผิดใจกันเลยมีเรื่องกันนิดหน่อย มัมเลยไปด้วยน่ะ"

สองสาวพยักหน้า ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องตกใจอีกแล้วหรอกในวันนี้

ในจังหวะที่สองสาวยกนมอุ่มขึ้นมาดื่ม ทาเคก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
"จริงๆจะเรียกไทจูว่ารุ่นที่ 10 ก็ไม่ผิดนัก แต่ก็ไม่ถูกซะทีเดียว"
สองสาวเลิ่กคิ้วมาทางมัมที่กำลังคิดหนัก

"จริงๆแล้วตอนนี้ BD ที่ไทจูคุงดูแลอยู่ เป็นรุ่นที่ 12 ล่ะ"
"ไทจูคุงขึ้นเป็นหัวหน้า 2 รอบ"
สองพี่น้องร้องโว้วออกมาเชิงมีอารมณ์ร่วม เพราะตัวเองเริ่มชินกับอดีตของมัมที่แสนแอดว้าน
"ส่วนรุ่นที่ 11..."
สองสาวมองมาราวกับสงสัย เพราะมัมของพวกเธอตอนพูดถึงรุ่นที่ 11 ยิ้มสว่างสไวซะจนพวกเธอตาพร่า

"มัมเองค่ะ"
อิซานจิและมันจิกะนิ่งค้าง
ตัวเองที่คิดว่าจะไม่ตกใจอะไรอีกแล้วในคืนนี้ ตอนนี้กำลังตกใจจนลืมหายใจเลยทีเดียว อิซานจิถึงขั้นสำลักนม
"แต่ก็เป็นแค่ช่วงสั้นๆค่ะ ไม่กี่ปี สุดท้ายก็สละตำแหน่งออกมาแต่งงานกับพวกพ่อของหนู"

สองสาวพยักหน้าทั้งๆที่ยังตาตื่น จนทาเคได้แต่ขำ

ก่อนจะดันหลังลูกๆของตัวเองเข้าไปที่ห้องนอนของตน

กล่อมลูกสาวตัวดีที่ตาแข็งเพราะตกใจเรื่องของมัมสุดที่รักให้นอนหลับ ก่อนทาเคจะปิดไฟและหลับไปด้วยกัน

• • •

Missing some Tweet in this thread? You can try to force a refresh
 

Keep Current with UnUnค่ะ// พักไม่มีกำหนด

UnUnค่ะ// พักไม่มีกำหนด Profile picture

Stay in touch and get notified when new unrolls are available from this author!

Read all threads

This Thread may be Removed Anytime!

PDF

Twitter may remove this content at anytime! Save it as PDF for later use!

Try unrolling a thread yourself!

how to unroll video
  1. Follow @ThreadReaderApp to mention us!

  2. From a Twitter thread mention us with a keyword "unroll"
@threadreaderapp unroll

Practice here first or read more on our help page!

More from @TMRHPissoulmate

Oct 19, 2021
เปียโนเสียงเพี้ยน แสดงว่าพี่ใต้อาจเล่นไม่ค่อนเป็นจนเล่นบ่อยจับทางจับเสียงได้ มีความสามารถด้านดนตรี กับทาเคที่ร้องเพลงเพราะมากชนิดงาบแผ่นเสียงเข้าไปแต่ที่บ้านไม่สนับสนุน เลยชอบหนีไปหาที่ร้องหลังประชุมโตมันเสร็จ เจอกับพี่ใต้แล้วโดนหิ้วเป็นแผ่นเสียงส่วนตัว
เวลาคบกัน อิพี่ใต้น่าจะดูแลดีอยู่มั้ยหลงรักน้องรักเสียงน้องรักทุกอย่าง ลับหลังนี่ยิงคนเป็นว่าเล่น

พลอตแม่งเด้งว่ะ
พี่ใต้คงเป็นตัวอันตรายสุดๆ คนเอาลงก็น่าจะมีแค่ทาเค พอรู้เรื่องอดีตของพี่ใต้น้องก็คงอยากให้มีความสุขบ้างเลยยอมอยู่ด้วย พี่ใต้มันก็รักมากเธอคะเธอขาอย่างนู้นอย่างนี้ จัดการทุกคนที่จะมาแย่งเธอไป ให้เธอคอยนั่งร้องเพลงให้ฟังต่อไป ไม่อยากให้ไปไหน
Read 5 tweets
Oct 13, 2021
#ออลทาเค #ซันสุทาเค
#สตูคุนอันอัน
เวิ่นนี้งอกมาจากผู้สนับสนุนใจดี ขอให้อร่อยคับ!

ทาเคมิจิตัดสินใจเปิดคาเฟ่หลังเรื่องทุกอย่างจบลง ไมกี้ยังคงอยู่ในบงเทนทำธุรกิจสีเทาแต่คนอื่นก็ตามไปด้วยเป็นบางคนทำให้ไม่เป็นบ้าไปซะก่อน ขอแค่ไมกี้มีความสุขจะอะไรก็ได้ทั้งนั้น! Image
ร้านคาเฟ่ของทาเคอยู่ศูนย์กลางย่านเศรษฐกิจที่ราคาแพงหูฉี่ จนทาเคเกือบโบกมือลาไปที่อื่น แต่บรรดาแก๊งต่างๆไม่อยากให้ทาเคอยู่ใกล้สายตา เลยมีการขู่กรรโชกเจ้าของตึกซักเล็กน้อย ให้ขายตึกให้ทาเคในราคาย่อมเยาจนเรียกได้ว่าแทบจะแจกฟรี
เพราะจุดตรงนี้ห่างจากฐานของแต่ละแก๊งไม่ไกลมากนัก จะโดดงานมาหาฮีโร่ขี้แยที่ตอนนี้เป็นเจ้าของร้านคาเฟ่ก็ทำได้ง่ายแสนง่ายจนบรรดาตัวทอปและผู้บริการตัวเป้งของโลกใต้ดินแวะเวียนกันมาไม่ขาด
Read 117 tweets
Oct 3, 2021
#ออลทาเค
#สตูคุนอันอัน

ทาเคมิจิเป็นพวกห่วยแตกเรื่องการต่อสู้ หมัดต่อหมัด เท้าต่อเท้า เลือดแลกเลือด เขาห่วยแตกเรื่องพวกนั้นสุดๆ รู้ตัวเองดีด้วย แต่เขาไม่เคยบอกใครเรื่องนึง

พวกอาวุธของหมาจนตรอกและอาวุธขี้โกงทั้งหลายของเหล่านักเลงน่ะ เขาถนัดสุดๆเลยล่ะ Image
ไม่ว่าจะดิ้วเหล็ก สนับมือ ท่อไปป์ ปากฉลาม ไม้เบสบอล ไม้หน้าสาม

แหมม ก็ขนาดในมือมีแต่บุหรี่ผมยังเอาจี้หน้าไอพวกกุ๊ยที่เข้ามาหาเรื่องผมตอนอายุ 26 เลย เป็นวิธีการสู้สกปรกที่โตมันไม่มีทางเอามาใช้ ตอนแรกก็นึกว่าแก๊งนักเลงอื่นๆจะเป็นเหมือนกัน
แต่พอเจอBDกับเทนจิคุแล้วก็เลย
เออ โตมันนั่นแหละที่แปลก

หัวเราะแห้งๆก่อนจุดบุหรี่ที่แอบไปลักลอบซื้อมา สูดเข้าปอดไปหนึ่งครั้ง ไม่มีอันที่แรงกว่านี้แล้วหรือไงนะ ควันยังเยอะซะจนแทบสำลัก ของคุณภาพเลวจะเอาอะไรมากล่ะน้าาา
Read 138 tweets

Did Thread Reader help you today?

Support us! We are indie developers!


This site is made by just two indie developers on a laptop doing marketing, support and development! Read more about the story.

Become a Premium Member ($3/month or $30/year) and get exclusive features!

Become Premium

Don't want to be a Premium member but still want to support us?

Make a small donation by buying us coffee ($5) or help with server cost ($10)

Donate via Paypal

Or Donate anonymously using crypto!

Ethereum

0xfe58350B80634f60Fa6Dc149a72b4DFbc17D341E copy

Bitcoin

3ATGMxNzCUFzxpMCHL5sWSt4DVtS8UqXpi copy

Thank you for your support!

Follow Us!

:(