chale 𔓘 Profile picture
Aug 31, 2022 108 tweets 5 min read Read on X
#ออลทาเค

ช่วงนี้สมาชิกโตมันเเละนักเลงเเก็งค์อื่น(?) รู้สึกว่าทาเคมิจิกำลังตีตัวออกห่าง เอ้ย ไม่ใช่สิ ไม่ใช่ว่าตีตัวออกห่าง เเต่เเบบไม่ค่อยมีเวลาให้พวกเขาอย่างเมื่อก่อน อย่างเเต่ก่อน ตอนพวกเขารู้จักกับทาเคมิจิเเรกๆ ไม่ว่าพวกเขาจะชวนอีกคนไปตีกับเเก็งค์อื่น(?)ทาเคก็ไปด้วยกันตลอด ImageImage
หรือชวนไปขี่รถเล่น ทาเคก็ไปด้วยไม่เคยปฎิเสธสักรอบ

คือใครชวนไปไหน ไปทำอะไร ทาเคก็จะติดสอยห้อยตามไปเหมือนลูกไก่ตามเเม่ไก่ตลอด จนพวกเขาเริ่มชินถึงการมีอยู่ของทาเคมิจิเสียเเล้ว
เเต่ช่วงนี้ทาเคมิจิดันไม่ค่อยออกไปไหนมากันด้วยกันอีกเเล้ว เเละปฎิเสธหรือเทนัดทุกรอบนี่สิ! มันน่าสงสัย ไม่ว่าใครชวนไปไหนด้วยก็ไม่ยอมไป อ้างมีธุระตลอด จนใครหลายๆคนโดยเฉพาะไมกี้โมโหฟุดฟิดตลอดตอนที่ทาเคมิจิเอ่ยปากปฎิเสธ เเละเทนัดทุกรอบ
เเล้วก็ชอบโทรไปโวยวายเรื่องที่ทาเคมิจิเทนัดให้คนอื่นฟังจนทุกคนพร้อมใจกันปิดเครื่องหนี เพราะไม่ไหวจะฟังไมกี้บ่นจริงๆ เเต่พอลองมาคิดๆดูเเล้ว จะว่าไปช่วงนี้พวกเขาก็ไม่ค่อยเห็นคนตัวเล็กเเอคทีฟกับพวกเขาเหมือนเมื่อก่อน
เเบบโทรไปคุยได้นะ เเต่จะรับมั้ย ก็อีกเรื่อง.. เเถมพอลองมาสังเกตุดูดีๆ ทาเคมิจิก็ไม่ได้ติดสอยห้อยตามใครหรือติดใครมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในเเก็งค์โตมันหรือเเก็งค์อื่นก็ไม่มี

จนพวกเขาเริ่มกังวลใจว่าทาเคมิจิจะตีตัวออกห่างไปมากกว่าเดิม
เลยพักสงบศึกชั่วคราว เเละหันมาสุมหัวกันวางเเผนชวนทาเคมิจิไปเตะบอลเล่นในสนามเด็กเล่นเเถวบ้านอีกคน โดยไม่บอกให้ทาเคมิจิได้รู้
[อีกด้าน]

ช่วงนี้ทาเคมิจิ หนุ่มมอปลายเเต่จิตใจข้างในอายุยี่สิบหก รู้สึกเป็นอิสระเเละสงบสุขเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขาใช้เวลาย้อนกลับระหว่างอนาคตเเละอดีตหลายรอบ เพื่อช่วยเพื่อน จนได้บทสรุปที่สมบูรณ์เเบบ
ตัวเองเลยย้อนกลับมาใช้ชีวิตตอนวัยรุ่นของตัวเอง เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หนีความเหนื่อย ความท้อ เเละความเบื่อหน่ายจากวัยผู้ใหญ่มาอยู่ในช่วงเวลานี้ เขาใช้เวลาทั้งวันทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยได้ลอง เพื่อทดเเทนบางสิ่งบางอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นการใช้เงินซื้อของที่ชอบจำนวนมาก เที่ยวห้างหลายที่ ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยตัวคนเดียว

จนทาเคมิจิรู้สึกอิ่มหนำสำราญมากพอเเล้ว จึงกลับมาที่บ้าน มาเเกะของออนไลน์ที่ตัวเองตัดสินใจสั่งซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเเบรนด์เนมหลากหลายเเนวที่ตัวเองไม่เคยได้ลองใส่
เครื่องสำอางค์สำหรับเเต่งหน้า น้ำยาทาเล็บ เเอคเซสเซอรี่ยอดฮิตที่กำลังเป็นกระเเสในช่วงนี้

ทาเคมิจิเลือกดูหลายอย่าง เเต่ดันมาถูกใจเข้ากับ belly chain

มันเป็นเครื่องประดับ body chain ใส่ได้ทั้งผู้ชายเเละผู้หญิง จะเป็นเหมือนสร้อยยาวๆ เเต่จะเอาไว้ใส่ตรงช่วงเอว
เเล้วก็เป็นความโชคดีของเขาอีกอย่างที่ตัวเองเป็นคนที่มีช่วงเอวคอด ไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อเหมือนคนในโตมัน ขนาดจิฟุยุที่มีรูปร่างใกล้เคียงกัน ยังมีหุ่นที่หนากว่า มีกล้ามเนื้อมากกว่า ส่วนตัวเขาจะเป็นหุ่นลีนๆเพรียวสวย เเล้วพอมาใส่ belly chain มันจึงดูดีไม่หยอก

“สวยใช้ได้”
ทาเคมิจิเลิกเสื้อยืดขึ้นโชว์ช่วงเอวคอดประดับสร้อยขนาดยาวสีทอง มีลูกเล่นเป็นรูปดาวเล็กๆห้อยอยู่ เขาหมุนตัวส่ายไปมาหน้ากระจก รูปดาวห้อยก็ส่ายต่องเเต่งไปมาเช่นกัน

“น่ารักมากเลย สั่งอีกดีกว่า”
นิ้วเรียวตรงเหมือนลำเทียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปตัวเองเก็บเอาไว้ดู ก่อนจะกดสั่งเเอคเซสเซอรี่เเบบอื่นมาลองใส่ดูบ้าง

ติ๊ง!

Mail 1 นาทีที่เเล้ว

Mikey : ทาเคมิจจิทายซิว่าพวกฉันอยู่ที่ไหนเอ่ย
Mail 1 นาที่เเล้ว

Mikey sent a photo
Mikey : ออกมาเตะบอลเล่นกันเถอะ วันนี้เเดดไม่ค่อยเเรง เล่นด้วยกันหลายคนน่าสนุกดีนะ [อิโมจิเเลบลิ้น]

“เห๋... พวกไมกี้อยู่เเถวนี้ อ๋า.. นี่มันเหมือนสนามเด็กเล่นเเถวบ้านฉันเลยนิ”

นิ้วเรียวเล็กกดซูมเข้าซูมออก หรี่ตาเพ่งมองจอจนตาหยี
“อิซานะคุง คาคุจังมาได้ไง.. เอ๋ ไทจูคุงด้วยหรอ!?” ทาเคมิจิทำหน้าตาตื่นเหมือนกระต่ายตื่นตูม

“เเล้วไปรวมตัวกันได้ไง? ไหนว่าไม่ถูกกันไม่ใช่หรอ”

“เเต่ช่างเถอะ ขี้เกียจออกไปจัง ปฎิเสธดีมั้ยนะ”
ติ๊ง!

Mail 2 นาทีที่เเล้ว

Mikey : ทาเคมิจจิ ครั้งนี้ห้ามปฎิเสธนะ
Mikey : ไม่งั้นครั้งนี้พวกฉันตามบุกไปถึงบ้านทาเคมิจิเเน่
Mikey : [อิโมจิหมีบราวน์ตาลุกเป็นไฟ]

Takemichi : โอเคครับ [อิโมจิร้องไห้]

“โดนดักจนได้ เห้อ..ไปก็ได้”
ทาเคมิจิวางโทรศัพท์ลงบนเตียง เขาหยิบชุดที่เเกะดูวันนี้ออกมาทาบบนตัว เเต่ก็รู้สึกว่ามันดูดีจนเกินไปสมกับของเเบรนด์เนม เขาจึงเก็บมันไว้ที่เดิม เเล้วไปเลือกเสื้อยืด กางเกงขาสั้นเเบบเดิม ใส่เเบบที่มิตสึยะเห็นเเล้วต้องขมวดคิ้วให้กับความเป็นเเฟชั่นของเขา
หึ..

ขืนใส่ของเเบรนด์เนมพวกนั้นไป มีหวังคนพวกนั้นได้สงสัยในตัวเขาเเน่ เพราะงั้นใส่เเบบปกติเถอะ เเต่ขอเเต่งเติมหน้าด้วยเครื่องสำอางค์เบาๆก็พอล่ะ ไม่ต้องเยอะมาก
เพราะถึงเเต่งไปยังไงไอ้เครื่องสำอางค์พวกนี้มันก็หลุดลอกออกมาอยู่ดี ไปเตะบอลทั้งทีจะไม่ให้มีเหงื่อได้ไง คิดเเล้วก็หงุดหงิด รู้งี้ เขาน่าจะสั่งเครื่องสำอางค์เเบบกันน้ำมาด้วย

“เสร็จล่ะ”
ทาเคมิจิยิ้มบางอย่างพึงพอใจหน้ากระจกอยู่นาน ก่อนจะถกเสื้อยืดอีกรอบเพื่อดู belly chain ตรงเอวคอดที่ตัวเองใส่อยู่ หวังว่าตอนที่เขาใส่อันนี้ออกไปข้างนอกมันคงไม่หลุดไหลลงข้างทางหรอกนะ ไม่งั้นเขาคงได้นอนร้องไห้ไว้อาลัยให้มันเป็นเเน่

เส้นโปรดซะด้วยㅠㅜ
เดี๋ยวมาต่อนะคะ✨
[สนามเด็กเล่น]

ทาเคมิจิเดินเข้ามาในบริเวณสนามเด็กเล่น มองเหล่าท็อปโตมัน เเก็งค์เทนจิคุเตะบอลอย่างเอาเป็นเอาตาย เดี๋ยวคนนั้นเเย่งบอลคนนี้ คนนี้เเย่งบอลคนนู้น โดยมีดราเค่นกับมุโจคอยทำหน้าที่เฝ้าประตูหลัง ทาเคมิจิเห็นเเล้วรู้สึกเหนื่อยเเทน
จึงปลีกตัวมานั่งรอตรงลานพักกับพวกเเบล็คดราก้อนกับพวกเทนจิคุอย่างสองพี่น้องไฮทานิ คิซากิ ฮันมะ

คนอื่นที่ลอบสังเกตคนตัวเล็กตั้งเเต่ที่อีกคนเดินเข้ามาเเล้ว จึงทำเนียนเดินเข้าไปนั่งโต๊ะใกล้ๆ เเต่ทาเคมิจิดันไม่รู้ตัว เพราะตัวเองมัวเเต่สะบัดคอเสื้อเข้าๆออกๆระบายลมให้ตัวเองเย็นขึ้น
เเล้วทาเคมิจิดันเป็นคนผิวขาว จึงทำให้เนื้อตัวเเดงง่าย ยิ่งอากาศร้อนๆเเบบนี้ เลือดยิ่งสูบฉีดได้ดี จนคนรอบข้างมองคนตัวเล็กตาละห้อย

จะมีก็เเต่สายตาเจ้ากรรมของใครบางคนดันไปโฟกัสตรงช่วงไหล่ที่ประดับไห้ปลาร้าเนียนทั้งสองข้าง
ยิ่งอีกคนสะบัดคอเสื้อถี่เร็วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นอาหารตาชั้นเยี่ยมให้กับคนรอบข้างมากขึ้นเท่านั้น

“ฮานากาคิ ร้อนหรอ”

อินุปี้ขยับตัวเข้ามานั่งข้างคนตัวเล็ก เปิดปากชวนคุยเป็นคนเเรก ใบหน้าเล็กจึงหันไปมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้ายู่ เเก้มขาวเเดงเลือดฝาดเป็นเพราะไอร้อน ปากคว่ำลงอย่างเอาเเต่ใจ
“อือ.. อากาศร้อนมากเลยอินุปี้คุง ถ้าได้น้ำเย็นสักขวดคงพอดับร้อนได้”

“งั้นไปซื้อกับฉันมั้ย ร้านค้าอยู่ใกล้เเค่นี้เอง” หมาบ้านพูดปะเหลาะเอาใจ

“เเต่ผมไม่ได้พกกระเป๋าม—”

“ไม่เป็นไร ใช้เงินโคโค่ก็ได้ โคโค่ไม่ว่า”
อีกคนพูดออกมาได้หน้าตาเฉย ไม่ทุกข์ร้อนอะไรจนคนที่ถูกกล่าวถึงในบทสนทนาตะโกนไล่หลัง

“ใครบอก!! เเกอย่าพูดซี้ซั้วนะโว้ย” ฮาจิเมะเเยกเขี้ยวใส่เพื่อนตัวเอง หน็อยเเน่! จะเอาใจเจ้าของทั้งทียังต้องใช้เงินเขาอีก เเบบนี้มันเอาหน้ากันชัดๆ
“โค่.. นายจะพูดเสียงดังทำไม ไม่เห็นหรอว่าฮานากาคิเขาตกใจเสียงนาย” อินุปี้ตวัดสายตามองค้อนเพื่อนสนิทตัวเอง

“ขอโทษ..” เหรัญญิกของเเบล็คดราก้อนทำหน้าหงอยดูน่าสงสาร จนทาเคมิจิคิดใจใจว่าอีกคนเหมือนหมาฝรั่งที่พันธุ์มันดุๆ ซนๆ พอมีความผิด จึงต้องทำหูลู่หางตกปะเหลาะเจ้านาย
“ฮ่าๆไม่เป็นไร เเค่ตกใจนิดหน่อยที่เห็นโคโค่คุงโกรธเป็นด้วย” ทาเคมิจิยิ้มขำกับฉากเมื่อกี้

"โธ่ บอส.. ไม่ได้โกรธบอสสักหน่อย” เเต่โกรธหมาบ้านเเถวนี้ต่างหาก ทำตัวงามหน้านักนะ!

“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก เมื่อกี้ฉันพูดเล่น ไม่ต้องสนใจหรอก”
“เเต่ทาเคมิจิร้อนนิ ต้องกินของเย็นๆนะ มันถึงจะช่วยได้”

“ไม่เป็นไร.. เเค่นั่งพักสักเเป—” พูดยังไม่ทันจบประโยคก็มีอะไรโยนมาวางบนตักทาเคมิจิ

พรึ่บ!

“เฮ้ย..” เขาทำเสียงตกใจ เงยหน้ามองตัวต้นเหตุ
“นี่ของเเก” หัวหน้าเเบล็คดราก้อนรุ่นสิบพูดเสียงโทนติดดุ มือใหญ่วางถุงร้านสะดวกซื้อไว้บนตักของคนตัวเล็กโดยไม่ขออนุญาต

เพราะทันที่อีกคนบ่นร้อน จนอยากกินน้ำเย็นๆ ไทจูจึงหูผึ่งรีบเดินไปร้านสะดวกซื้อระหว่างที่อินุปี้กับโคโค่เถียงกัน เขาซื้อทั้งน้ำเย็น ไอศครีมมากรสหลากสีมาให้อีกคน
“อย่ามัวเเต่ทำหน้าเอ๋อ อันนี้ฉันซื้อมาให้เเก กินซะ” ดวงตาสีอำพันมองหน้าคนตัวเล็ก เเต่ทาเคมิจิก็ยังคงเป็นทาเคมิจิเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจิตใจจะอายุยี่สิบหก เเต่ก็ยังคงทำหน้าเหรอหรา จนไทจูถอนหายใจรดใส่หัวอีกคน
จึงนั่งลงในท่ายองๆ เปิดถุงสุ่มหยิบน้ำมาหนึ่งขวด เปิดขวดปักหลอดให้เสร็จสรรพ ก่อนจะยื่นหลอดไปจ่อตรงริมฝีปากอิ่ม เเล้วทาเคมิจิก็งับหลอดเข้าปากดูดเเบบงงๆ

“เเกนี่ทำตัวเป็นเด็กหรือไง ยังต้องให้ป้อนน้ำให้กินอีก”
คนหน้าดุเเต่ใจดี เเถมขี้บ่นพูดเสียงเนือยๆ เเต่ก็ยังคงถือขวดน้ำให้คนตัวเล็กกินอยู่นาน จนลูกน้องอีกสองคนหรี่ตามองนั้นเเหละ ถึงได้เเกล้งทำเป็นดุอีกคนกลบเกลื่อน
“เอ้า.. ถือเองบ้าง ฉันเมื่อยเเล้ว” ไทจูลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนเดินเลี่ยงไปนั่งข้างม้าหมุนไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกเขามากนัก พร้อมทำหน้าตาบอกบุญไม่รับตามฉบับ

“บอสเเซงหน้าเราไปเเล้วโคโค่..”

“ใช่ บอสหลายมาตรฐานเหมือนเเกไม่มีผิดเลยอินุปี้”
[ครึ่งชั่วโมงต่อมา]

ทาเคมิจิโดนล้อมหน้าล้อมหลังทั้งคนในเเก็งค์โตมันบางคนที่มาพักเหนื่อย เเบล็คดราก้อน เเละเทนจิกุเเบบงงๆ คือตอนเเรกเขาก็นั่งรอเเบบเงียบๆ โดยข้างกันมีอินุปี้กับโคโค่คอยนั่งเป็นเพื่อน เเต่ผ่านไปไม่นาน สักพักก็มีคาคุโจ เพื่อนสมัยเด็กมาคุยเรื่องหนังที่พึ่งฉายออกใหม่
เเต่ด้วยความที่ทาเคมิจิเป็นคนจากโลกอนาคต เเล้วหนังเรื่องนี้มันก็ฉายจนจบไปเเล้ว จึงเผลอหลุดสปอยเนื้อเรื่องให้คาคุโจฟังเเบบงงๆ จนเขาต้องนั่งนิ่งๆสงบปากสงบคำอยู่ข้างๆมังกรดำทั้งสอง
“นายรู้ได้ไงว่าxxxจะตาย เขาเป็นพระเอกไม่ใช่หรอ?” คาคุโจขมวดคิ้วถาม เพราะเนื้อเรื่องของหนังที่เขาไปดูมากับอิซานะเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ถึงคนที่พามาด้วยจะหลับตั้งเเต่หนังยังไม่เริ่มฉาย เเต่คาคุโจก็รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันค่อนข้างสนุก
เเปลกเเหวกเเนวไม่ซ้ำใคร เดาบทสรุปของตอนจบไม่ค่อยออกว่าจะจบยังไง

เขาเลยรู้สึกอินไปกับมัน จนอยากจะหาเพื่อนพูดคุยเเลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งก็โชคดีที่ทาเคมิจิเฟื่อน(?)สนิทเด็กดูเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
“ไม่ใช่สิ.. เอ้ย ใช่ เขาเป็นพระเอกของเรื่องก็จริง เเต่เเบบเป็นพระเอกเเล้วตายไม่ได้หรอ... เนื้อเรื่องดูจะจำเจไปหน่อยมั้ง” เขาเเกล้งทำเป็นโยนหินถามทาง ทิ้งคำถามปลายเปิดให้อีกคนได้คิดต่อ

“มันก็จริง.. เเต่ฉันไม่เคยเจอหนังที่พระเอกตายในตอนจบนิ”
“เชื่อเหอะ เดี๋ยวก็ได้เจอเองเเหละ ดูไปเรื่อยๆ” บอกเลยว่าตอนจบของเรื่องเเม่งโคตรพีค เเต่น่าเสียดายที่ใช้เวลาหลายปีกว่าจะฉายจบ

“งั้นหรอ เเต่เดือนหน้าเรื่องนี้จะฉายตอนใหม่ ฉันขอจองตัวนายนะทาเคมิจิ"
“หื้อ.. ได้สิ” ทาเคมิจิยื่นมือทำนิ้วโอเคให้อีกฝ่าย คาคุโจยิ้มอย่างดีใจ เเต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นหัวคิ้วกระตุกยิบๆ

“งั้นฉันไปด้วย” โคโค่ ฮาจิเมะยกมือขึ้นตัดหน้า

“ใช่ๆ ฉันก็ไปด้วย” อินุปี้จ้องหน้าคาคุโจเขม็ง
“ห้ะ..” คาคุโจร้องเสียงหลงเเต่คิ้วกระตุกไม่หยุด พลางคิดในใจว่าไอ้หมาบ้านสองตัวนี้มาได้ไง เขาอุตส่าห์ชวนทาเคมิจิไปดูหนังด้วยกันเเค่สองคนเเท้ๆ ยังจะมีมาร(หมา)มาคอยขัดขวางอีก

“เเกรู้หรอว่าฉันกับทาเคมิจิจะไปดูหนังเรื่องอะไร” คาคุโจไม่ยอมเเพ้ จึงชิ่งถามทั้งคู่
“...”เงียบกริบ

“หึ เเกสองคนคงไม่เคยดูสินะ ไม่ต้องไปหรอก เกะกะ” คาคุโจกระตุกยิ้มเหนือกว่า จนทั้งคู่ถลกตาใส่เขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

“โธ่ ไม่เอาน่าคาคุจัง ไปด้วยกันเยอะๆสนุกออก เนอะ โคโค่ อินุปี้” ทาเคมิจิพูดจนโคโค่ดีดนิ้วดังเปาะชอบใจ
“ฮ่าๆ บอสน้อยความคิดดีมาก งั้นเอาเลย นัดวันมาได้เลย” โคโค่เเลบลิ้นปลิ้นตาใส่คาคุโจ ส่วนอินุปี้ก็ยิ้มกริ่มใส่จนเส้นขมับคาคุโจขยับตุ้บๆ จะมีก็เเต่ทาเคมิจิคนเดียวนั้นเเหละที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย พูดนัดจัดเเจงให้ทุกอย่างเสร็จสรรพ
“ได้เลย เดี๋ยวเรามาสร้างกลุ่มคุยด้วยกันนะ... อึ่ย เเต่ตรงนี้เเดดส่องลงมาร้อนมากเลย พวกเราย้ายที่นั่งกันเถอะ”

ทาเคมิจิทำหน้าเหม็นร้อน ลุกขึ้นยืนก่อนใครเพื่อน เพราะร้อนไม่ไหวเเล้ว ใช้เเขนโบกสะบัดเสื้อทั้งตัวอีกรอบจนเสื้อมันเลิกขึ้น เห็นไปถึงไหนต่อไหน
เเต่ทุกคนดันไปโฟกัสกับเอวคอดขาวๆใส่คล้องอะไรสักอย่าง ถึงจะเห็นเพียงเเค่เสี้ยววิ เเต่รู้ว่ามันเป็นสร้อยยาวๆเส้นเล็ก ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เเต่สวยมาก ยิ่งทาเคมิจิใส่คล้องมันบนเอวเล็กนั้นเเล้วโคตรสวย
เเต่ที่เเน่ๆ พี่น้องไฮทานิ อินุปี้ โคโค่ตาเเข็งค้างเเล้ว ไทจูผิวปากนะ เเต่มองทาเคมิจิไม่วางตาเลย คิซากิขยับเเว่นตาอีกรอบ พร้อมหรี่ตาภายใต้กรอบเเว่น ฮันมะยิ้มค้างไปเเล้ว
ดราเค่นกับมิตสึยะขมวดคิ้วไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ส่วนพวกที่เหลือเดินมานั่งพัก จริงๆก็กะจะมานั่งเล่นกับทาเคมิจิเเหละ เเต่คือสติหลุดไปเเล้วจ้า โดยเฉพาะไมกี้.. ขนาดอิซานะที่ไม่ค่อยสนใจอะไรยังตาเป็นประกาย

พวกผู้ชายโต๊ะข้างๆ : เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เหมือนเห็นอะไรเเว่บๆ
“ทาเคมิจจิ ทำเสื้อให้มันดีๆ” ดราเค่นเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กกว่า มือใหญ่ดึงชายเสื้อลงจนมันยืดย้วยหนักกว่าเดิม คนผมเปียใช้น้ำเสียงติดดุ ทาเคมิจิรู้ว่าอีกคนไม่ชอบใจที่เขาทำตัวร้อนเกินเหตุ จึงพูดเสียงอ่อนให้อีกคนเข้าใจ
“อือ.. ก็อากาศมันร้อนนิครับดราเค่นคุง ถึงผมจะใส่เสื้อบางเเล้วก็เถอะ เเต่มันก็ยังร้อนอยู่ดี” คนขี้ร้อนบ่นอุบอิบ มือเล็กจับข้อมือใหญ่ พร้อมช้อนตามองหน้าอีกคน
“ดราเค่นคุงไม่ร้อนหรอครับ ทุกคนใส่เสื้อหนากันมากเลย” ใบหน้าเล็กเอียงคอมองเขาตาเเป๋ว จนคนผมเปียวางมาดดุต้องหันหน้าหนี พร้อมสบถขึ้นมาในใจ ‘เชี่ยยย ใจกู เเมวมันอ้อนว่ะ’

ทาเคมิจิมองทุกคนด้วยความสงสัยว่าทำไมคนพวกนี้ถึงไม่มีเหงื่อออกมาเหมือนกันกับเขา
ทั้งที่บางคนก็ไปเตะบอลมาก่อนเเล้ว เเต่พอนั่งพักสักเเปป ทุกคนก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เเล้วไปเล่นต่อได้อย่างสบายๆ

ไม่เหมือนกับเขา ที่ไม่ว่าจะหลบเลี่ยงเเสงเเดดมากเท่าไหร่ ก็ยังคงร้อน เเละร้อนขึ้นจนน่าหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น
“ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย” ใบหน้าเล็กเชิดขึ้น ทำปากมุบมิบบ่นอยู่คนเดียว จนคนรอบข้างนึกเอ็นดู เเต่ก็ไม่อาจลืมภาพที่เอวคอดสวยใส่สายโซ่เล็กๆอันนั้น

ถึงมันจะเห็นในช่วงเวลาเพียงเเค่เสี้ยววิ เเต่ก็ทำให้พวกเขาเผลอใจคิดอกุศลกับคนตัวเล็กไปเเล้วสิบกว่ารอบตั้งเเต่ที่รู้จักกับคนตัวเล็กมา
ถึงครั้งเเรกที่เจอกันมันจะไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ เเต่พวกเขาต่างก็คิดในใจตลอดว่าอีกคนเป็นคนที่เเปลกไม่เหมือนใคร เเละไม่มีใครเหมือน บนโลกใบนี้มีคนที่ชื่อ ฮานากาคิ ทาเคมิจิเพียงคนเดียว
ทุกคนเห็นพ้องต่อกันว่าทาเคมิจิมีเเรงดึงดูดชนิดพิเศษ ที่พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร เเต่มันก็น่าหงุดหงิดไม่ใช่น้อยที่ไม่ใช่เเค่พวกเขาคนเดียวที่ได้รับสิ่งๆนั้นจากตัวทาเคมิจิด้วย รวมถึงทุกคน...ที่เขารู้จักก็พลอยรับสิ่งๆนั้นไปด้วย
มันเรียกว่าอะไรนะ เสน่ห์หรอ?
อ่าใช่! ‘ความมีเสน่ห์ดึงดูด’ ยังไงล่ะ น่าจะประมาณนั้น

เเล้วทาเคมิจิเองก็มีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามมากด้วย จึงไม่ค่อยเเปลกที่อีกคนจะมีเพื่อนเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกัน หรือว่าเพศตรงข้าม คนตัวเล็กก็สามารถทำให้คนคนนั้นเป็นมิตรมากกว่าศัตรูได้ไม่ยาก
นี่เเหละ ข้อดีของทาเคมิจิ คือมีเสน่ห์ทั้งจากภายในเเละภายนอก

อย่างในตอนนี้... ที่เป็นเสน่ห์จากภายนอก

ซึ่งน่าสนใจไม่เเพ้กับเสน่ห์จากภายในเลยจริงๆ

“ทาเคมิจจิใส่อะไรไว้ในเอวหรอ” หน่วยกล้าตาย หัวหน้าหน่วยสองพูดอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทาเคมิจิหน้าซีดเผือดที่เขาดันโป๊ะเเบบไม่รู้ตัว
ทางด้านมิตสึยะเองก็เดินประชิดตัวจากด้านหลังเเมวขี้อ้อน มือหนาจับเอวคอด จนสัมผัสเข้ากับสิ่งเเปลกปลอมตรงหน้า ทาเคมิจิไม่มีท่าทีขัดขืน ซ้ำยังยอมอยู่นิ่งๆให้เขาได้สัมผัสเนื้อ สัมผัสตัวอย่างไม่หวงตัว

ดวงตาสีอ่อนกวาดมองรอบข้างด้วยเเววตาชนะเเละเหนือกว่า..
“มิตสึยะคุง.. เห็นใช่มั้ย ผมใส่เเล้วมันน่าเกลียดมากมั้ยครับ” ทาเคมิจิหันหลังกะทันหันจนหน้าเล็กชนเข้ากับอกเเกร่ง เขาช้อนตามองปฎิกริยาอีกคนตาใสเเป๋ว เพราะเชื่อว่าอีกคนจะต้องไม่พูดโกหกเขาเเน่นอน

อันไหนที่เขาใส่เเล้วไม่เข้ากับตัวเองจริงๆ อีกคนก็จะเงียบ
คือเขาก็รู้เเหละว่ารสนิยมการเเต่งตัวนั้นค่อนข้างติดลบ จนอีกคนต้องขมวดคิ้วใส่ พร้อมกับพูดจาหว่านล้อมเขาเเบบอ้อมๆ

เเต่ถ้าอันไหนเขาใส่เเล้วดี ใส่เเล้วดูสวยในสายตาของเจ้าพ่อเเฟชั่นคนนี้เเล้วล่ะก็...

อีกคนจะหลบตา เเละหน้าเเดง..

เหมือนอย่างตอนนี้ยังไงล่ะ
“มิตสึยะคุง ผมดูเป็นงายย” ทาเคมิจิถามคำถามเดิม มือบางเลิกเสื้อขึ้นอีกรอบจนเห็น belly chain เต็มๆตา ทุกคนได้เเต่อ้าปากเหวอเเละบางคนก็ถึงกับช็อค

“....” ทุกคน ‘เชี่ยย ตายๆ จังหวะนี้สวยชิบหายยย’

/จิฟุยุ ฮัคไค อินุปี้กดชัตเตอร์เเล้วหนึ่ง
“ฮีโร่.. อะ เอวนายสวยม— เเหวะ!! เเกใส่อะไรของเเกเนี่ย ไม่เห็นจะเข้า!!” เป็นคิซากิเองที่โพล่งออกมาคนเเรก จนทาเคมิจิต้องหันขวับไปประจันฝีปากกับอีกคน

“ไม่ต้องยุ่ง! ฉันไม่ได้ถามความเห็นเเก คิซากิ!! อ๊ะ..”
“ฮานากาคิ ใส่มาตั้งเเต่เมื่อไร” สีหน้าอินุปี้ดูมึนเบลอสุดๆ พร้อมเก็บกล้องโทรศัพท์ตัวเองใส่กระเป๋า มือยัดเครื่องมือสื่อสารเเบบลวกๆ

โดยไม่มองว่ามันจะเป็นตายร้ายดียังไง โทรศัพท์จะร่วงหล่นตกพื้นจนกระจกเเตกมั้ย ไม่สนใจเลย เพราะดวงตาสีอ่อนไม่ยอมละสายตาไปจากช่วงเอวคอดยังไงเล่า!
เหมือนโรคจิตที่ทำหน้าปลาตายจริงๆ! / โคโค่

“อันนี้หรอ วันนี้พึ่งลองใส่ครั้งเเรก” ทาเคมิจิงับปลายเสื้อขึ้น ก่อนใช้มือลูบ belly chain เส้นโปรดตัวเองเบาๆ ภาพตรงหน้าดูอิโรติกชอบกล สองพี่น้องไฮทานิกระตุกยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย
ส่วนไทจูยืนขึ้นเต็มความสูงมองอีกคนไม่วางตาเหมือนลูกน้องอีกคนเเล้วหนึ่ง เเต่หูได้ยินเสียงผิวปากเเว่วๆดังมาจากหัวหน้าเเก็งค์เทนจิกุเเล้วหนึ่ง

“ทำไมหรอ มันดูเข้ากับผมมั้ยอินุปี้คุง” คนตัวขาวพูดเสียงอู้อี้ไม่ค่อยมั่นใจ
อาจเป็นเพราะทุกคนเอาเเต่เงียบเเละจ้องมองเขาเหมือนตัวประหลาด จึงทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองชั่วขณะ จนอยากจะร้องไห้ออกมา

“เข้ามาก... สวยมากเลยฮานากาคิ” โอ้ย มือหมาบ้านอย่างอินุปี้มันสั่ร มันอยากจับๆขย้ำๆเจ้าของลงท้อง
เเต่ทำไม่ได้ไง จึงใช้มือเรียวสวยเหมือนลำเทียนตัวเองลูบเส้น belly chain อย่างเบามือ เเล้วเลื่อนลงมาจับดาวเล็กๆที่ห้อยลงมากับสายคล้อง

มันดูเข้ากับอีกคนมากๆ มากเสียจนเขาอยากจะกวาดซื้อเส้นอื่นให้อีกคนได้ลองใส่อีกเป็นสิบๆเส้น
ขอเเค่คนตรงหน้าเอ่ยปากขอมา เขาก็พร้อมกดสั่งให้อย่างไม่ลังเล เเต่ต้องเป็นเงินโคโค่เพื่อนรักเขานะ ตัดบัตรเพื่อนเขาได้เลยฮานากาคิ ไม่ต้องเกรงใจ

“ขอบคุณนะอินุปี้คุง ผมดีใจที่ชอบ— อ๊ะ.. ไมกี้คุง” คนตัวเล็กพูดเสียงหลง
เพราะดันมีลูกลิงงอเเงตัวนึงได้เข้ามากอดเขาจากด้านหลัง จนทำให้เขาเกือบหน้าทิ่ม ถ้าไม่ได้ดราเค่นกับมิตสึยะช่วยเอาไว้ มีหวังเขาได้ล้มหน้าคะมำลงพื้นเเหงๆ

“ไมกี้!! เบาหน่อย” ดราเค่นพูดเอ็ดอีกคน เเล้วส่ายหน้าเหนื่อยใจให้กับเพื่อนตัวเองที่ดันเป็นพวกขี้หวงของรัก
เป็นอันต้องใช้สายตาข่มมองคนอื่นอย่างเอาเรื่องที่ดันมาเชยชมของรัก ของหวง ไม่ว่าจะใช้ทั้งสายตา การสัมผัส ไมกี้ใช้สายตาดุเอาเรื่องอยู่ไม่น้อย

โดยเฉพาะอินุปี้กับมิตสึยะ รวมถึงเขาด้วย..

“เเกเลิกเขม็งคนอื่นเดี๋ยวนี้นะไมกี้!” บาจิ หัวหน่วยหน้าหนึ่งพูดเสียงดังเพราะหมั้นไส้
“พูดมากน่าบาจิ”

“ฮ่าๆ ไมกี้คุงยืนดีๆสิครับ ผมหนักนะ...” ทาเคมิจิทำหน้าเเบบจำยอม เพราะตัวเองต่อรองอะไรไม่ได้มากกับคนที่ชื่อไมกี้ ไม่ว่าจะในอดีตหรือในอนาคต เขาก็ยอมอีกคนมาโดยตลอด อาจเป็นเขาเองที่ตามใจอีกคนเสียมากกว่าอีกคนตามใจเขา
“ทำไมทาเคมิจิไม่เคยบอกว่าใส่ไอ้นี่มาด้วย!”

“ทำไมหรอครับ..”

“ก็ฉันหวงนิ!” ไมกี้หรือหัวหน้าเเก็งค์โตมันเริ่มงอเเง เอื้อมมือมาดึงเสื้อลง พร้อมกับกระโดดกอดอีกคนจากด้านหลังเอาไว้เเน่นไม่ยอมปล่อยมือ จนคู่หูมังกรที่อยู่ใกล้มือต้องช่วยกันเเงะไมกี้ออกจากตัวทาเคมิจิ
โดยมีบาจิช่วยด้วยอีกคน เพราะอดจะหมั้นไส้เพื่อนคนนี้ไม่ไหว เเต่ก็ยั้งเเรงตัวเองเอาไว้ เพราะกลัวจะไปรุนเเรงกับคนตัวเล็กเข้า

“อือ ไมกี้คุง.. ผมหนักนะ” ทาเคมิจิทำหน้าเหมือนจะร้องไห้จริงๆ
“ลงไปจากตัวผมก่อนนะ เเล้วเดี๋ยวผมเล่าให้ฟังนะครับ ว่าทำไมผมถึงใส่ไอ้นี่มาด้วย” ทาเคมิจิพูดเสียงอ่อนจนไมกี้เลิกดื้อใส่ จึงเลิกกอดอีกคนเเต่เปลี่ยนมาจับมืออีกคนเอาไว้เเน่น
เเถมยังเอาตัวบังเขาจากคนอื่นเเม้กระทั่งเพื่อนของตัวเอง มองหน้าทุกคนอย่างเอาเรื่อง พร้อมใช้สายตาประกาศกร้าวถึงความเป็นเจ้าของในตัวทาเคมิจิกลายๆ

ทุกคนทำหน้าเหม็นเบื่อ มองบนไม่ไหวกับนิสัยหมากระเป๋าเเสนจะขี้หวงเจ้าของจากหัวหน้าเเก็งค์โตเกียวมันจิไคเสียจริง เห้อ!
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ใกล้จบล้าวว✨❤️‍🔥
“เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นอย่างนี้เเหละครับ” เมื่อทาเคมิจิเล่าจบ รอบข้างก็ยังคงเงียบอยู่ จนทาเคมิจิเริ่มใจไม่ดี จึงเงยหน้าขึ้นมองหน้าทุกคนที่มองเขาอยู่ก่อนเเล้ว ใบหน้าดูไม่ค่อยตกใจ ไม่ได้หัวเราะเยาะใส่กับสิ่งที่เขาเล่าว่าเขานั้นมาจากอนาคต เเละข้างในนี้ไม่ใช่ตัวทาเคมิจิในรูทปัจจุบัน
“งั้นเเสดงว่านายในตอนนี้ก็มาจากอนาคตน่ะสิ อายุมากกว่าพวกเราเป็นสิบๆปี” เป็นจิฟุยุคนเเรกที่เอ่ยถามเขา เเถมยังทำตัวเก้ๆกังๆ เหมือนมีเรื่องอะไรให้น่าอายซะงั้น

“อือ ใช่” เขาตอบเพียงคำสั้นๆ

“ทาเคมิจจิ.. เเล้วในอนาคตข้างหน้า ทุกคนเป็นยังไงงั้นหรอ”
ไมกี้ถามเสียงเรียบ เเต่เเววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง จนทาเคมิจินึกเอ็นดูเเต่ก็เเกล้งทำเป็นหน้าเศร้า มองหน้าทุกคนทีละคน เเละพูดเสียงเศร้าๆ เพื่อเเกล้งทุกคน

“ไม่รู้สิครับ... น่าจะสงบสุขดีล่ะมั้ง เพราะดูเหมือนจะเป็นรูทที่สมบูรณ์เเบบที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา..
ในอนาคตข้างหน้าทุกคนจะอยู่ด้วยกัน ถึงจะชอบตีกันเองบ้าง เเต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ” ถึงเสียงจะฟังดูน่าเศร้า เเต่ทาเคมิจิกลับทำตาเป็นประกาย ยามเล่าเรื่องอนาคตของรูทนี้

เพราะหลังจากที่เขาย้อนเวลาไปเเก้ไขอดีตเป็นสิบรอบ ร้อยรอบจนได้พบกับความสมบูรณ์เเบบ
เขาพูดได้เต็มปากเลยว่าในอนาคตนั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

ไมกี้กับทุกคนดูมีความสุขดี..

“เเล้วเเกได้เเต่งงานกับฮินะจังมั้ย” คิซากิโพล่งถามขึ้นมาอย่างเสียงดัง

ช่างเป็นคำถามที่น่าฟังมาก เขาทำเพียงเเค่ปรายตามองอีกคน เเละใช่ สายตาของทุกคนดูคาดหวังเป็นอย่างมากกับคำตอบของเขา
เอ๊ะ หรือเขาคิดไปเองนะ?

“ความลับ” เขาส่ายหน้าไปมาว่าจะไม่บอก เเล้วก็เป็นคิซากิเจ้าเก่า เจ้าเดิมที่ยังหาเรื่องกวนประสาทเขาอยู่เรื่อย

“ดูหน้าเเล้ว คงไม่ได้เเต่งด้วยกันสิท่า จิ๊ๆ ฮินะจังคงหนีไปเเต่งกับคนที่ดีกว่า หึๆ เช่น ฉัน เป็น ต้น” อีกคนทำหน้าตาลอยหน้าลอยตากวนประสาทเขา
เหมือนในอนาคตไม่มีผิด ทำหน้าตาเเบบนี้เลยเวลาจะยั่วโมโหเขา

เเละใช่ มันได้ผล เพียงเเค่นี้ก็ทำให้เขาเเห้วเเตกได้เเล้ว

“คิซากิ เเกหุบปากไปเลยนะ!!” ทาเคมิจิพูดเสียงดัง เขาจะเข้าไปไฟว้กับคิซากิสักตุ้บสองตุ้บ เเต่ติดตรงที่จิฟุยุล็อคเเขนห้ามเอาไว้ซะก่อน
“หึๆ” คิซากิดันเเว่นขึ้นชิดจมูกตามเเบบฉบับตัวเอง ก่อนจะหัวสั่น หัวคลอนเมื่อเพื่อนตัวสูงอย่างฮันมะทิ้งตัวลงกอดคอเขา

“งั้นเเสดงว่าเเก สละ สิทธิ์เเล้วน่ะสิ” ฮันมะพูดเสียงกวนบาทา ทำสีหน้าภาคภูมิใจจนเพื่อนอดขมวดคิ้วไม่ได้ว่ามันพูดถึงเรื่องอะไร เขาไม่เข้าใจ
“เยสสสส ตัดคู่เเข่งไปได้อีกหนึ่ง ทีนี้ก็จะเหลือคู่เเข่งอีก 17 คน”

“...”

“ขอบใจเเกมากนะคิซากิ ที่ยอมสละสิทธิ์ หึ” บาจิตะโกนพูดขึ้นอย่างเสียงดัง เเล้วเดินเข้าไปตบไหล่คิซากิไม่เบาเเรงมากนัก จนอีกคนไหล่เกือบหลุด โดยมีลูกคู่อย่างจิฟุยุทำหน้าตาสะใจอยู่ข้างๆ
คิซากิได้เเต่มองหน้าบาจิอย่างไม่เข้าใจ เเละคิดในใจว่า ‘บาจิมันเกลียดอะไรกูรึเปล่าวะ? เเม่งตบไม่ยั้งเเรงเลยว่ะ’

“ทุกคนพูดถึงเรื่องอะไรกันหรอครับ ผมงงไปหมดเเล้ว” ทาเคมิจิทำหน้าสงสัย เอียงคอมองไม่เข้าใจกับบทสนทนาดังกล่าว เหมือนทุกคนจะคุยกันรู้เรื่องเเค่ฝ่ายเดียว
“อย่าไปสนใจเลยน่า ฮานากาคิ” จู่ๆก็มีมือปริศนา มาโอบไหล่เขาเข้าหาตัว ดวงหน้าเท่าฝ่ามือเงยหน้าขึ้น เขาหน้าตาซีดเผือด ตาโตจนทำตัวไม่ถูก จนไฮทานิคนพี่มองคนตัวเล็กอย่างนึกเอ็นดู เหมือนตอนที่น้องชายเขาลองจับงูอนาคอนด้าครั้งเเรกไม่มีผิด(?) ทำหน้าตกใจเเบบนี้เลย
รันใช้มือเกี่ยวเปียตัวเองเล่นราวกับเจอของเล่นใหม่ ส่วนไฮทานิคนน้องทำหน้าเหม็นเบื่อพี่ชายตัวเองเต็มทน เเต่ดวงตาคู่นั้นกลับมองมายังเขาอย่างนึกสนุกเหมือนกัน

“สองพี่น้องไฮทานิ(?)”
“~ ฮานากาคิจากอนาคตนี่ไม่เลวเลยนะ” มือคนพี่ไฮทานิเฉยคางมนทาเคมิจิขึ้น เเล้วย่อตัวในระดับสายตาเพื่อจ้องดวงตาคู่สวยของคนตัวเล็ก ด้วยเเววตาเเห่งความขี้เล่น

พลางใช้สายตามองส่วนล่างตรงช่วงเอวที่ถูกปิดเอาไว้ด้วยเสื้อยืดโง่ๆ
เขาล่ะเกลียดสไตล์การเเต่งตัวของไอ้นี่จริงๆ เเต่งมาได้ไง เสื้อยืดกับกางเกงขาสามส่วน เห้อ

เเต่ถ้าเลิกเสื้อยืดโง่ๆนั้นขึ้น ก็คงจะเห็นของดีที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ อืม น่าสนใจ

“...” ทาเคมิจิเหนื่อยตก เดาไม่ออกว่าอีกคนกำลังคิดอะไร
“รสนิยมไม่เลวนิ” ไฮทานิคนน้องพูดขึ้นมา ถือวิสาสะจับชายเสื้อเขาเลิกขึ้น เเละผูกชายเสื้อเป็นรูปโบว์ให้

อ่า พี่น้องเจ้าเสน่ห์เเห่งรปปงหงิเล่นเขาเเล้วไง...

“มุมนี้สวยมาก ว่ามั้ยอิซานะ” น้องชายเจ้าสเน่ห์พยักเพยิดหน้าไปหาหัวหน้าเเก็งค์ที่นั่งไขว้ห้างเหมือนไม่สนใจอะไร
เเต่ดวงตาสีม่วงอเมทิสต์คู่นั้นมองมาที่พวกเขาอย่างสนอกสนใจ

“ใช้ได้ ฝากบอกคาคุโจว่าให้ถ่ายรูปเก็บไว้ที” เขาจะเอาไว้ปั่นไมกี้ เวลาตัวเองอยากหาอะไรสนุกๆเเก้เซ็งทำ(?)

คาคุโจจึงทำตามคำสั่งของอิซานะทันที จนได้รูปมาเยอะสมควร เขาจึงหยุดถ่าย
เพราะดูเหมือนนายเเบบของเราตั้งท่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อเวลาต้องยืนขนาบข้างสองพี่น้องไฮทานิ

“ปะ..ปล่อยผมไปได้รึยังครับ” คนตัวเล็กพูดเสียงเบา เเล้วพยายามขืนตัวออกมาจากสองพี่น้องไฮทานิ
“เอาไงรินโด เเมวจะร้องไห้เเล้ว” รันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำหน้ายิ้มขำเหมือนเห็นใบหน้าเเปลกๆ เดี๋ยวทำหน้าอ้อนเขา สักพักทำหน้าขอความช่วยเหลือจากคาคุโจ เห้อ คนคนนี้นี่มันเเปลกจริงๆ

“ก็บอกตั้งเเต่ทีเเรกว่าอย่าไปเเกล้งเยอะ เนอะ ฮานากาคิ เนอะ” รินโดใช้เเขนดันไหล่คนตัวเล็กกว่าเบาๆ
“เห้ย พวกเเกทำอะไรฮานากาคิ!” อินุปี้เดินเข้ามาดึงตัวคนตัวเล็กออกมาจากรันกับรินโด เเถมยังเอามือโอบเอวบางเอาไว้ เเต่ดันไม่ได้สังเกตุว่าคนตัวเล็กมัดเสื้อเอาไว้อยู่ จนกลายเป็นใส่เสื้อเอวลอยอยู่ มืออินุปี้เลยโดนเนื้อทาเคมิจิเข้าเต็มมือ..
“...” อินุปี้ชะงักนิ่งเป็นหิน ทุกคนเลยมองมืออินุปี้ เเล้วก็เห็นเอวคอดนั้นเต็มๆตาอีกรอบ

“ครับ? อินุปี้” ทาเคมิจิทำสีหน้าโล่งใจที่มีคนมาช่วยเขาจากพี่น้องไฮทานิ เเต่ก็ดันรู้สึกว่าอัศวินขี่ม้าขาวที่ยื่นมือ(?)เข้ามาช่วยนั้นดูจะนิ่งผิดปกติ เขาเลยเงยหน้ามองอินุปี้
“ฮัลโหลๆ อินุปี้คุงเป็นอะไร?” มือบางกางนิ้วทั้งห้า เเล้วโบกไปมาเหมือนเรียกสติอินุปี้ให้กลับคืนมา

คือไม่ใช่เเค่อินุปี้ที่สตั้น เเต่ทุกคนยกเว้นอิซานะ คาคุโจ รันเเละรินโด คือนิ่งเเข็งค้างเหมือนโดนเมดูซ่าสาปไปเเล้ว
เเล้วก็เป็นมิตสึยะอีกรอบที่เป็นฝ่ายได้สติเป็นคนเเรก จึงรีบเเก้ปมเสื้อออก เเล้วดึงเสื้อยืดตัวปัญหาลงให้

เขากอดตัวทาเคมิจิเอาไว้ ใช้อภิสิทธิ์ความเป็นหัวหน้าหน่วยที่ตัวเองดูเเลอยู่ ทำหน้าที่ดูเเลลูกน้องในหน่วยของตัวเอง (ลืมบอกค่ะว่าทาเคมิจิในรูทนี้อยู่หน่วยสองของพี่มิตนะคะ)
“ทาเคมิจจิอย่ามองนะ” เพราะหน้าตอนนี้ของทุกคนดูไม่ได้เลย โดยเฉพาะไมกี้ที่ดูเหมือนจะเสียสติไปเเล้ว ไม่ต่างกับคนอื่นอย่างพี่น้องบ้านคาวาตะ ที่คนพี่ซับเลือดกำเดา(?) ส่วนคนน้องปิดหน้าปิดตารับไม่ได้ เเต่เเอบเเหวกนิ้วมองดูอยู่
อินุปี้ยืนเเข็งค้างเป็นหิน จนโคโค่ต้องดีดนิ้วเรียกสติอยู่หลายครั้ง กว่าจะรู้เรื่อง

“โห่ย อินุปี้ เเกตั้งสติก่อน”

“โคโค่.. ผิวของฮานากาคินุ่มมากเลย”

“...” หน้าโค่โค , หน้าไทจู

“ถ้าเเกโดนกระทืบ ฉันจะไม่ช่วย”

“ห้ะ ว่าไงนะ— อั่ก”
“เเก อินุปี้ กล้าจับเอวคู่หูฉันได้ยังไง! เเกอย่าอยู่เลย!!” จิฟุยุถีบหลังอินุปี้ จนอีกคนหน้าเกือบล้มคะม่ำ เเต่สุดท้ายอินุปี้ก็ไหวตัวทัน จึงวิ่งรอบสนามเด็กเล่น เพื่อหนีเเก็งค์หน่วยเเมว นำโดย บาจิ จิฟุยุ คาสึโทระ(?)
มิตสึยะมองกลุ่มคนบ้าพวกนั้นอย่างละเหี่ยใจ เขาล่ะปวดหัวกับคนตัวเล็กจริงๆ ไม่คิดว่าอีกคนจะมาจากในอนาคต เเล้วจะติดรสนิยมจากที่นู่นมาใช้กับที่นี่เสียด้วย เเถมดูจะไม่อายที่ตัวเองโดนจับมัดเสื้อเป็นเอวลอยโชว์ belly chain เส้นนั้น
เรียกได้ว่าช็อตเมื่อกี้ มันโดนตาโดนใจเขา เหมือนถูกปลุกวิญญาณเจ้าพ่อสายเเฟชั่นขึ้นมาในตัว

เห้อ เเต่ก็ไม่เลว เพราะดูท่า เขาคงต้องรื้อชุดที่เเอบตัดให้อีกคนได้ลองใส่เเล้วล่ะสิ

เช่น ชุดเมด เป็นต้น

;)
เพราะถ้าเป็นทาเคมิจิคนก่อนคงจะรีบปฎิเสธทันควัน เวลาเขาให้อีกคนได้ลองใส่ชุดที่เขาตัดให้ อีกคนก็จะบอกว่าทำไมเขาถึงชอบตัดชุดโป๊ๆให้ลองใส่ มิตสึยะก็ขมวดคิ้วมองเสื้อในมือ ว่ามันโป๊ตรงไหน?
เเค่เปิดหลัง หรือบางทีก็มีซีทรูปิดตั้งเเต่ช่วงไหล่ลงมาถึงเอว คือไม่เห็นข้างในมาก เพราะเขาเองก็ห่วง(หวง)ของเขาเหมือนกัน

เเต่ไม่ว่าจะขู่ ใช้ไม้อ่อนเข้าช่วย ก็ไม่ได้ผลจนเขาท้อใจเเล้วล้มเลิกไปเสียเอง
เพราะงั้นก่อนที่โอกาสสุดพิเศษนี้จะหมดไป เขาคงต้องรีบคว้ามันให้ได้มากที่สุด

ขอโทษทาเคมิจิคนเก่าล่วงหน้าเลยนะ by mitsuya

End
เราไปทำธุระเเป๊ปนึงนะคะ เดี๋ยวมาลง extraให้!

• • •

Missing some Tweet in this thread? You can try to force a refresh
 

Keep Current with chale 𔓘

chale 𔓘 Profile picture

Stay in touch and get notified when new unrolls are available from this author!

Read all threads

This Thread may be Removed Anytime!

PDF

Twitter may remove this content at anytime! Save it as PDF for later use!

Try unrolling a thread yourself!

how to unroll video
  1. Follow @ThreadReaderApp to mention us!

  2. From a Twitter thread mention us with a keyword "unroll"
@threadreaderapp unroll

Practice here first or read more on our help page!

Did Thread Reader help you today?

Support us! We are indie developers!


This site is made by just two indie developers on a laptop doing marketing, support and development! Read more about the story.

Become a Premium Member ($3/month or $30/year) and get exclusive features!

Become Premium

Don't want to be a Premium member but still want to support us?

Make a small donation by buying us coffee ($5) or help with server cost ($10)

Donate via Paypal

Or Donate anonymously using crypto!

Ethereum

0xfe58350B80634f60Fa6Dc149a72b4DFbc17D341E copy

Bitcoin

3ATGMxNzCUFzxpMCHL5sWSt4DVtS8UqXpi copy

Thank you for your support!

Follow Us!

:(