วันนี้มาเล่านิทานครับ ในวันไหว้พระจันทร์แบบนี้ ก็ต้องนี่แหละครับ เรื่องราวความรักดราม่าขั้นเทพ เรื่องของเทพเจ้าฉางเอ๋อ เทพีแห่งดวงจันทร์ ที่จะไม่ "ลงทัณฑ์แกเอง" แน่นอน

เอาละครับ จะเล่าใน ๓ ๒ ๑ ...
เรื่องมีอยู่ว่าที่ประเทศญี่ปุ่นมีเด็กสาววัยรุ่นวัยเรียนนางหนึ่งชื่อสึคิโนะ อุซางิ มีผมสีทองไม่เหมือนคนญี่ปุ่นทั่วไป และมีทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์มัดเป็นก้อนกลมแล้วปล่อยหางให้ยาวลงมา เพื่อน ๆ มักล้อว่า "ยัยหัวซาลาเปา"

เอ๊ะ... ผิดเรื่อง ๆ เอาใหม่ ๆ ๆ ๆ #ข้ามทวิตนี้ไป นะครับ
ในอดีตกาล โลกมนุษย์มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายมากมาย พวกมันทำร้ายและจับมนุษย์กินเป็นอาหาร และแม้เหล่ามนุษย์จะพยายามสู้อย่างไร หรือรวมพลังกันอย่างไรก็สู้ไม่ไหว จึงต้องหันพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับ ก็ทั้งไหว้ ทั้งมู บูชาเทพเจ้าขอให้ปกป้องคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากสัตว์ร้ายต่าง ๆ
ความไปถึงเง็กเซียน จึงมีรับได้สั่งให้ โฮ่วอี้ เทพนักรบสวรรค์ลงมาเกิดที่โลกมนุษย์เพื่อปัดเป่าความทุกข์ร้อนนี้ให้จงได้ โดยใส่สูตรโกงนิด ๆ หน่อย ๆ ให้มีสกิลติดตัวด้านการยิงธนูขั้นเทพ แถมอัพ Dex 999+++ ยิงธนูได้แม่นกว่าผู้ใดในจักรวาล ระดับที่ไม่ว่าจะอรชุน หรือ ฮอว์ค อาย ยังต้องซูฮก
โฮ่วอี้เกิดมาเป็นเด็กกำพร้า ถูกทิ้งตั้งแต่เด็ก ๆ ต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเอง ซึ่งอาวุธของเขาแน่นอนครับ... ธนู (ก็เง็กเซียนสร้างตัวละครเขามาเป็นนักธนูนี่นะ) ฝึกสกิลธนูมาตั้งแต่เด็ก ๆ ครับ จนไม่ว่าจะยิงล่าสัตว์ก็ไม่พลาด หรือจะยิงธนูแข่งกับใครก็ไม่มีแพ้ แม่นเป๊ะได้เหมือนจับวาง
ด้วยความสามารถระดับเทพ สุดท้ายเขาก็ทำ assignment ที่ได้รับจากเง็กเซียนฮ่องเต้ได้สำเร็จ มนุษย์ต่างดีใจกันมากที่จะรอดพ้นจากพวก monsters โหดร้ายแล้ว แต่เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น คือ อยู่ ๆ ก็มีพระอาทิตย์เพิ่มขึ้นมาเป็น ๑๐ ดวงเลยทีเดียว
ดวงอาทิตย์ทั้ง ๑๐ ล้วนเป็นโอรสของจักรพรรดิสวรรค์ ด้วยความคึกคะนองก็ตั้งใจแกล้งมนุษย์และสัตว์ต่าง ๆ โดยรวมหัวกันทำให้โลกร้อนนั่นแหละครับ ป่าและพืชผลต่าง ๆ เกิดไฟไหม้ แม่น้ำลำคลองแห้งแล้งไปหมด มนุษย์ และสัตว์จำนวนมากล้มตายกันเป็นเบือ

ด้วยเหตุนี้โฮ่วอี้จึงไปเจรจากับเหล่าพระอาทิตย์
"ท่านพระอาทิตย์ ท่านมาพร้อม ๆ กันแบบนี้ พวกข้าก็ร้อนตายสิ นี่ต้นไม้ใบหญ้าตายหมดแล้ว พวกสัตว์ก็พากันล้มตาม พวกข้าร้อนจนออกจากบ้านแทบไม่ได้ แถมยังแทบไม่เหลืออะไรจะยาไส้แล้ว ขอพวกท่านอย่าทำร้ายพวกข้าแบบนี้เลย"

"เสือก!!!" แก๊งพระอาทิตย์ตอบ
โฮ้วอี้รู้ได้ทันทีว่าเจรจาครั้งนี้ล้มเหลว จึงเปลี่ยนแนว
"ถ้าท่านไม่หยุด ข้าต้องขอล่วงเกินท่านล่ะนะ"
"ไอ้มนุษย์ขี้กากอย่างแก จะทำอะไรพวกข้าได้วะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
"เดี๋ยวก็รู้ ไอ้พวกพระอาทิตย์ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เดี๋ยวตบคว่ำ"
"พวกข้าไม่แดกนมโว้ย"

งานนี้ PVP ๑๐ ต่อ ๑ จึงเกิดขึ้นครับ
ระหว่างเหล่าพระอาทิตย์วัยรุ่นห้าวเป้งทั้ง ๑๐ กับ อดีตนักรบสวรรค์ Dex 999+++ ที่มาจุดิในร่างมนุษย์ ล่าสัตว์ร้ายจนเกลี้ยง คิดว่าใครจะชนะครับ
...
...
...
เหล่าพระอาทิตย้ถูกศรของโฮ่วอี้ยิงร่วงไป ๙ ดวงแล้ว แต่ก่อนที่ศรจะถูกยิงออกไปเพื่อฆ่าดวงที่ ๑๐ พระอาทิตย์ดวงสุดท้าย ก็ขอเจรจาอีกรอบ
"ช้าก่อนนะพี่จ๋า น้องไหว้ล่ะจ๊ะ น้องไม่สู้แล้ว น้องยอมแพ้ จะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้วจ้า น้องปากหมา พี่อย่าโกรธ อย่าเคืองน้องนะ" พระอาทิตย์ดวงสุดท้ายกราบขอร้อง

"ไอ้น้อง พี่เตือนแล้ว ไม่สนิทอย่าติดว้าว เดี๋ยวหน้าร้าว จะหาว่าพี่ไม่เตือน" โฮ้วอี้พูดพร้อมเก็บคันธนูของเขา ปล่อยเด็กมันไป
ชัยชนะครั้งนี้ของโฮ้วอี้ได้ช่วยโลกใบนี้ไว้ เรียกได้ว่าเขาคือฮีโร่ของโลกที่แท้ทรู และได้ขึ้นเป็นราชาของมนุษย์ ได้เมียรักแสนงามนามว่า "ฉางเอ๋อ" ซึ่งเป็นนางเอกของเรื่องครับ (เล่ามาตั้งนาน เพิ่งจะเปิดตัว)
ฉางเอ๋อเป็นสตรีชาวมนุษย์ที่งามระดับ high end ซึ่งจริง ๆ แล้ว นางก็เป็นนางสวรรค์ลงมาเกิดเพื่อเป็นคู่กับโฮ้วอี้นั่นแหละครับ นางมีความอ่อนหวาน อ่อนโยน เปี่ยมไปด้วยเมตตา พูดจาไพเราะ ยิ่งกว่านางงามเวทีไหน ๆ บนโลกใบนี้
แต่สิ่งที่โฮ่วอี้ได้มานั้น ก็แลกมาด้วยการที่ต้องผิดใจกับจักรพรรดิสวรรค์ เพราะไปยิงลูกเขาตายตั้ง ๙ องค์ พระจักรพรรดิจึงตัดสิทธิ์ไม่ให้เขาและเมียกลับสู่สวรรค์ และก็ต้องใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ธรรมดา ๆ ไปจนกว่าจะสะสมแต้มบุญมากพออีกครั้ง
โฮ่วอี้จึงตัดสินใจใช้ชีวิตในโลกมนุษย์ต่อไป และทำสิ่งดีๆให้แก่โลกมนุษย์มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างดีงามไปหมด เว้นเสียแต่ว่าฉางเอ๋อ ภรรยาของเขาไม่พอใจชีวิตที่ยากลำบากตามวิถีมนุษย์ และบ่นโฮ้วอี้ว่าไม่ควรไปฆ่าโอรสของจักรพรรดิอยู่ร่ำไป (แต่ถ้าไม่ทำโดนเผาตายกันหมด)
โฮ่วอี้จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ตัวเขาและภรรยาได้กลับขึ้นสวรรค์ไห้เร็วที่สุด หลังความพยายามอยู่หลายปีก็พบว่ามีทางหนึ่ง คือ ที่ยอดเขาคุนหลุนมี พระแม่ซีหวางหมู่ ซึ่งสามารถประทานยาวิเศษที่จะทำให้ผู้ที่ดื่มยานี้ขึ้นสู่สวรรค์ได้ เขาจึงออกเดินทานไปหาพระแม่ในทันที
หลังความหยายามอยู่หลายชั่วยามจนนับไม่ได้ เขาก็ถึงยอดเขาคุนหลุน ได้พบพระแม่สมใจ

"ข้าแต่พระแม่ ข้ามา...."
"เจ้าไม่ต้องพูด ยานี่สำหรับ ๑ คน มา ๆ เจ้ามารับยานี่ไป ๑ ขวดนะ" พระแม่รู้ได้ด้วยญาณ
"ข้าขอสองได้ไหม"
"ข้อ ๑ เลย เจ้าไม่ใช่น้องพลับ และข้อ ๒ คือ เจ้ามาคนเดียวจบนะ ... บัยส์"
โฮ่วอี้เงิบเลยครับ ... มียาวิเศษเพียงแค่ขวดเดียว จะเอาไงดี ๆ ๆ ๆ "ถ้าข้ากิน เมียข้าก็ถูกทิ้ง ถ้าเมียข้ากิน ข้าก็ถูกทิ้ง" เขาได้แต่คิดวกไปวนมาระหว่างทางกลับบ้าน สุดท้ายก็คิดไม่ตก ถึงบ้านจึงเอายาวิเศษไปซ่อนไว้ ระหว่างคิดหาทางอื่นเพื่อให้เขาและภรรยากลับสวรรค์ได้ทั้งคู่
แต่ความลับนี้ก็ถูกล่วงรู้ครับ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย เมียเขาเองนั่นแหละ แม้ฉางเอ๋อจะยังรักสามีมาก แต่ก็อดทนต่อความเย้ายวนของชีวิตในสวรรค์ไม่ได้

ในค่ำคืนของในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ นางอาศัยจังหวะที่สามีไม่อยู่บ้านแอบดื่มยาวิเศษ ทันใดนั้นนางกลายเป็นเทพีและลอยขึ้นสู่สวรรค์ไป
แต่เนื่องจากนางก็ยังเป็นห่วงสามี จึงเหาะไปเป็นเทพีบนพระจันทร์ เนื่องจากอยู่ใกล้โลกมนุษย์มากที่สุดค่ำคืนนั้น เป็นเทพีแห่งดวงจันทร์ไปโดยปริยาย

โฮ่วอี้พอกลับถึงบ้านก็ไม่ทันแล้ว ครั้นจะยิงดวงจันทร์ให้ร่วงลงมาก็เกรงว่าภรรยาเขาจะได้รับอันตราย จึงต้องจำยอม
ทุก ๆ วันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ โฮ่วอี้จึงจัดไหว้พระจันทร์เพื่อระลึกถึงภรรยาของเขา เหมือนได้ชวนกินข้าว ได้ร่วมโต๊ะอาหารกันอีก ปีละครั้งก็ยังดี แม้จะทำได้เพียงเท่านั้น แต่เขาก็ทำเช่นนี้มิได้ขาด ด้วยความรักของเขาที่มีต่อฉางเอ๋อนั่นเอง
ส่วนฉางเอ๋อนั้น เธอยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวและเหงา เศร้าเป็นที่สุดโดยเฉพาะวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนแปด ทุกครั้งที่ได้เห็นโต๊ะบูชาของโฮ่วอี้เวียนมาคราใด ฉางเอ๋อก็จะยิ่งคิดถึงเวลาที่ดี ๆ และความรู้สึกอันอบอุ่นในอดีตเมื่ออยู่ร่วมกับสามีเสมอไป เป็นความเหงา ความโหวงในหัวใจไม่มีจบสิ้น
ตัวโฮ่วอี้เอง ก็ยังคงทำความดีให้แก่โลกมนุษย์ต่อไป เป็นครูสอนธนูที่เก่งกาจระดับพระกาฬ แต่ก็ถูกศิษย์ของตนฆ่าตายในที่สุด เนื่องจากถ้าโฮ่วอี้ยังอยู่ ศิษย์ของเขาก็ไม่สามารถขึ้นมาเป็นนักธนูอันดับ ๑ ของโลกได้แน่นอน

ซึ่งโฮ่วอี้ไม่คิดจะสู้ด้วยซ้ำ เพราะไม่มีแรงใจคิดจะสู้กับใครอีก
ก็ขอจบนิทานเรื่องของวันไหว้พระจันทร์ไว้ที่ตรงนี้นะครับ นิทานแบบนี้มีหลายคนเล่า มีหลายต้นฉบับ ก็อาจจะเหมือนบ้าง ต่างบ้าง แล้วแต่ว่าได้ฟัง ได้รู้ ได้อ่านอันไหนมา ถ้าผิดพลาดประการใดผมขออภัยมา ณ.ที่นี้นะครับ

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ขอให้ทานขนมไหว้พระจันทร์กันให้อร่อยนะครับ

ขอบคุณครับ

• • •

Missing some Tweet in this thread? You can try to force a refresh
 

Keep Current with Aunarisk  ตัวร้ายในเรื่องเล่า

Aunarisk  ตัวร้ายในเรื่องเล่า Profile picture

Stay in touch and get notified when new unrolls are available from this author!

Read all threads

This Thread may be Removed Anytime!

PDF

Twitter may remove this content at anytime! Save it as PDF for later use!

Try unrolling a thread yourself!

how to unroll video
  1. Follow @ThreadReaderApp to mention us!

  2. From a Twitter thread mention us with a keyword "unroll"
@threadreaderapp unroll

Practice here first or read more on our help page!

More from @aunarisk

Aug 20
วันก่อนเห็นรูปเจ้าแม่กาลีบนทวิต ... อยู่ ๆ ก็อยากเล่าเรื่องขององค์แม่ขึ้นมา หนึ่งในเทพอินเดียที่คนไทยรู้จักและบูชา ชาวพุทธที่บูชาเจ้าแม่มีมากมายครับตามสไตล์ multi-culture เอาละครับ ไม่พูดพร่ำทำเพลงละนะ ... จะเล่า ใน ๓ ๒ ๑ ...
เรามาเริ่มที่พระศิวะครับ หนึ่งใน ๓ มหาเทพแห่งฮินดู ซึ่งพระศิวะเองก็เป็นเทพแห่งการทำลาย แต่กระนั้นก็ยังมีจิตใจที่ดีงามครับ ไม่ใช่บู้แหลกเที่ยวทำลายอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งเมนปาร์ตี้ของพระองค์คือ พระหรรมและพระวิษณุ นั่นคือ "สร้าง รักษา ทำลาย" วนไปเป็นวัฐจักร
องค์พระศิวะโปรดที่จะทรงประทานพรวิเศษให้แก่ผู้หมั่นกระทำความดีบำเพ็ญเพียรภาวนาถวายให้แด่พระศิวะครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนว passive skill ติดตัวครับ เช่นให้มีพลังนั้น พลังนี้ อย่างท่านท้าวเวสสุวรรณเป็นต้น

ปล. ไปตามอ่านได้นะ ที่เธรดท้าวเวสสุวรรณ ขอบคุณครับ
Read 33 tweets
Aug 1
เดือนสิงหาคม วันแม่แห่งชาติ และคนกลุ่มหนึ่งก็มักขุดเรื่องเพชรซาอุฯ มาเพื่อโจมตีสถาบัน ใส่ร้ายให้เสื่อมเสีย และในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้ผมขอเล่าเรื่องความสัมพันธ์ ไทย - ซาอุดิอาระเบีย และเพชรซาอุฯ ที่ถูกขุดมาเสมอ ๆ นี่แหละครับ

เอาล่ะครับ จะเริ่มใน ๓ ๒ ๑...
เรื่องของเพชรซาอุฯ ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี ๒๕๓๑ สมัยนั้นการเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ คือ ความใฝ่ฝันของคนไทยหลาย ๆ คน เพราะเชื่อว่าการได้ไปทำงานต่างบ้านต่างเมืองก็เหมือนได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ มีรายได้มากขึ้น สบายกว่าเดิม หรือที่เรียกกันว่าไป "ขุดทอง" นั่นเอง
ตอนนั้นความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุฯ ก็ต้องถือว่าดีในระดับหนึ่งเลยนะครับ ไทยเราแทบจะเราเป็นมิตรต่อทุกชาติบนโลกอยู่แล้ว อย่างตอนสงครามโลกเขาสงครามกันตูม ๆ เราก็ยังเป็นมิตรได้กับทั้งสองฝ่าย เป็นความเทพด้านการทูตแบบ Siamese Talk ครับ ๕๕๕๕
Read 50 tweets
Jul 30
วันนี้อยากไปตัดผม เลยถือโอกาสเล่าเรื่องสั้น ๆ เรื่องการตัดผมวันพุธกันดีกีว่า คือ หลาย ๆ คน เชื่อว่าตัดผมวันพุธนั้นไม่ดี แต่มันไม่ดีเพราะอะไร ทำไมคนเชื่อแบบนั้น... ถึงขั้นทำ infographic กันเลย เอาล่ะครับ จะเริ่มใน ๓ ๒ ๑ Image
คำว่าไม่ดีนั้นก็ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าทำไม แต่ในอีกมุมหนึ่งหลายคนก็บอกว่า เฮ้ย! มันไม่เกี่ยวหรอก ตัด ๆ ไปเถอะ อ้างเหตุผลว่า ที่เขาไม่ตัดผมกันวันพุธเพราะกษัตริย์ฝยสมัยก่อนจะตัดผมวันพุธ จึงไม่ควรตัดผมในวันเดียวกัน เป็นการตีตนเสมอท่าน (งั้น... ตัดได้ก็แปลว่าอยากตีตนเสมอท่าน ว่างั้น ?)
หลายคนเชื่อกันมาแบบนั้น บน internet ก็ส่งต่อข้อมูลกันแบบนั้นจริง ๆ แต่จริงหรือไม่ที่กษัตริย์จะตัดผมวันพุธเท่านั้น ? คำตอบก็คือ "ไม่จริง" ครับ เพราะ หนังสือจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ที่ ร.๕ ทรงบันทึก มีข้อความตอนหนึ่งบันทึกไว้ว่าตัดผมวันเสาร์ครับ (อ้าว..)
Read 12 tweets

Did Thread Reader help you today?

Support us! We are indie developers!


This site is made by just two indie developers on a laptop doing marketing, support and development! Read more about the story.

Become a Premium Member ($3/month or $30/year) and get exclusive features!

Become Premium

Don't want to be a Premium member but still want to support us?

Make a small donation by buying us coffee ($5) or help with server cost ($10)

Donate via Paypal

Or Donate anonymously using crypto!

Ethereum

0xfe58350B80634f60Fa6Dc149a72b4DFbc17D341E copy

Bitcoin

3ATGMxNzCUFzxpMCHL5sWSt4DVtS8UqXpi copy

Thank you for your support!

Follow Us on Twitter!

:(