มันมีเดอะโกสต์ในตำนานเรื่องนึงที่ชั้นชอบมากอยากให้แมสเผื่อมีใครหยิบไปทำหนังบ้าง เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ที่เก่า-บังเอิญ-ขอให้จบ 3 เรื่องต่อกันที่นอกจากเรื่องเข้มข้นแล้วคือมันมีจดหมายสาปแช่งจริงอย่างหลอน Image
ปฐมบท "ที่เก่า" เป็นเรื่องของคุณเคที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเรียน คุณเคมีรุ่นพี่ที่สนิทชื่อพี่โจ้ ซึ่งตอนที่พี่โจ้ไปเรียนต่อก็มีเพื่อสนิทคนใหม่ชื่อพี่เบล พี่โจ้ก็ได้พาพี่เบลมารู้จักกับคุณเค สามคนก็มานั่งแฮงค์เอ้าท์กันที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านคุณเค คุยกันสัพเพเหระ ถามไปถึงแฟน
พี่เบลก็เล่าว่าแอบคบกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ชื่อพี่นิด ที่ต้องแอบคบเพราะว่าบ้านพี่นิดเป็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วพ่อแม่เค้าก็กลัวว่าพี่เบลเนี่ยจะดูแลลูกสาวเค้าไม่ได้ คุณเคกับพี่โจ้เลยแนะนำไปว่าลองไปเสนอตัวทำงานที่บ้านเค้าสิ แสดงให้เค้าเห็นว่าดูแลลูกสาวเค้าได้
วันหนึ่งแก๊งสามสหายก็มาแฮงค์เอ้าท์กันเหมือนเดิมแต่พี่เบลคือร่าเริงมาก คุณเคก็เลยถามว่ามีเรื่องอะไรทำไมแฮปปี้จัง พี่เบลเลยเฉลยว่า พี่นิดท้อง คนอื่นก็งงว่ามันต้องเครียดไม่ใช่หรอท้องในวัยเรียนทำไมถึงแฮปปี้จัง พี่เบลเลยบอกว่าพอพี่นิดท้องยังไงพ่อแม่พี่นิดก็ต้องยอมรับพี่เบลเป็นลูกเขย
ตอนแรกที่บ้านพี่นิดก็โกรธแต่ไปๆ มาๆ ก็ชวนพี่เบลไปทำงานที่บ้านแล้วบอกว่าถ้าอยากจะดูแลลูกสาวเค้าต้องทำงานให้เป็น พี่เบลก็ไปตั้งใจทำงานที่บ้านพี่นิดอย่างขยันขันแข็งเพราะอยากซื้อใจพ่อแม่พี่นิด พี่นิดก็ไม่อยากจะรบกวนพี่เบลเวลาทำงาน ตอนจะไปซื้อของพี่นิดเลยขี่จักรยานไปเอง
แต่เกิดอุบัติเหตุโดนมอไซเฉี่ยวจักรยานจนพี่นิดแท้ง พี่เบลกับพี่นิดเสียใจมาก จนเวลาผ่านไปเป็นปี พี่ทั้งสองก็มาแจ้งข่าวดีว่าพี่นิดตั้งท้องอีกครั้ง ทุกคนก็ดีใจกันมาก พี่เบลก็ดูแลพี่นิดดีกว่าเดิม กู้เงินมาซื้อรถยนตร์จะได้พาพี่นิดไปไหนมาไหนได้ จนเวลาผ่านไป 7 เดือน
มีงานเลี้ยงแถวๆ ทุกคนก็ไปร่วมงานรวมถึงพี่เบลและพี่นิดด้วย ไปร่วมงานเฉยๆ ไม่ได้ดื่มประมาณ 3 ทุ่มทั้งสองคนก็ขอตัวกลับก่อน พอสองคนนั้นกลับไปสักพักพี่โจ้ได้รับสายโทรเข้าถามว่า ญาติคุณธณภัทรหรือเปล่าครับ ด้วยความที่พี่เบลไม่ได้มีใครแล้วพี่โจ้เลยอ้างตัวเป็นญาติไปเลย
ทางปลายสายก็แจ้งต่อว่า รถของคุณธณภัทรประสบอุบัติเหตุณ์ มีรถฝ่าไฟแดงพุ่งมาชนจากทางซ้าย ซึ่งพี่เบลไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่พี่นิดค่อนข้างสาหัส จำเป็นต้องเอาเด็กออกเพื่อช่วยชีวิตพี่นิด
พอพี่เบลก็ถามถึงลูกเป็นอย่างแรกเลย แต่คุณเคกับพี่โจ้ก็พูดอะไรไม่ออก พี่เบลเลยรู้คำตอบว่าลูกเค้าไม่อยู่แล้ว พี่นิดพอฟื้นมาทราบความจริงที่พี่เบลบอกว่าลูกตามพี่เค้าไปสวรรค์แล้วพี่นิดเสียใจมากจนกลายเป็นคนที่ซึมเศร้า
วันหนึ่งพี่เบลไปทำธุระให้พ่อตาในเมืองเลยแวะคุยกับคุณเคและพี่โจ้แล้วก็ได้รับสายจากพี่นิดตามให้กลับบ้าน บอกว่ามีอะไรให้ดู พี่เบลเลยรีบกลับบ้าน แต่พอ 2-3 ทุ่มพี่โจ้ก็มาเรียกคุณเคที่บ้านบอกว่าว่าพี่เบลโทรมาบอกว่าพี่นิดหายตัวไป
พอแยกย้ายกันตามหาสักพักพี่เบลก็โทรมาร้องไห้ พี่โจ้ก็ถามว่าพี่เบลอยู่ไหนพี่เบลก็บอกว่าเค้าอยู่บ้านเค้า (พี่เบลทีบ้านของตัวเองเป็นสวนลำไยที่ลำพูน) พอทุกคนไปถึงก็ได้ยินเสียงพี่เบลร้องไห้มาจากหลังบ้าน พอไปถึงก็เจอพี่เบลนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นลำไย
TW suicide
พอมองขึ้นไปเจอพี่นิดผูกคอตายอยู่ใต้ต้นลำไยมือกำฟิล์มอัลตร้าซาวนด์ลูกเอาไว้ พี่เบลเสียศูนย์มากจึงไปบวช จนเวลาผ่านไปสักพักเป็นฤดูหาตั๊กแตนของคนเหนือ พี่เบลก็โทรหาพี่โจ้กับคุณเคให้ไปส่องหาตั๊กแตนที่บ้านพี่เบลสิ เยอะมาก
สองคนก็เลยขับรถไป พอจะถึงบ้านพี่เบลก็โทรหาแกอีกครั้งว่าอยู่ไหนอะ พี่เบลก็บอกอยู่ในสวนแล้วเข้ามาเลย แต่พอถึงที่บ้านจริงๆ ก็โทรหาพี่เบลไม่ติด สองคนก็ไม่ได้คิดอะไรเดินเข้าไปในสวนเลย พี่โจ้กับคุณเคก็แยกกันส่องตั๊กแตน คุณเคส่องเจอกล่องเล็กใส่เงินกับซองจดหมาย แล้วคุณเคก็ได้ยินเสียงพี่โจ้ร้อง
TW suicide
คุณเคเลยวิ่งไปหาพี่โจ้ไปเจอพี่โจ้ร้องอยู่ใต้ต้นลำไยต้นเดิม มองขึ้นไปเจอพี่เบลผูกคอตายซึ่งสภาพศพนั้นอยู่ในสภาพอืดจนแห้งไม่เหมือนคนเพิ่งเสียชีวิต เหมือนพี่เบลโทรเรียกให้คุณเคกับพี่โจ้เข้ามาพบศพ หลังจากคุณเคโทรแจ้งตำรวจและกู้ภัยก็เช็คดูมือถืออีกทีก็ยังเห็นว่าเป็นเบอร์พี่เบลโทรเข้ามา
ซึ่งในกล่องเหล็กกระเป๋าตังที่คุณเคเจอข้างในเป็นแหวนวงหนึ่ง พร้อมจดหมายเล็กๆ เขียนว่า "ถึงนิด นี่เป็นแหวนที่เค้าหาเงินทั้งชีวิต เพื่อที่จะมาแต่งงานกับตัว เค้าคิดว่าเราจะมีลูกกันสักสองคน ตอนนี้ลูกเค้าไปสวรรค์แล้ว แล้วตัวก็ยังหนีเค้าไปอีก เค้าจะตามตัวไป"
นอกจากนั้นยังมีจดหมายอีกใบเขียนว่า "ลูกมาหาพ่อทุกวันเลย นิด นิดก็มาหาผมทุกวันเลย ผมไม่ไหวแล้ว ผมคิดถึงเหลือเกิน นิดเลี้ยงลูกรอเค้าก่อนนะ เดี๋ยวเค้าจะตามไป" ซึ่งจดหมายสองฉบับนี้ตอนนี้ยังอยู่ในโกฏของพี่เบลที่อยู่ที่วัด
เรื่องต่อมา "บังเอิญ" อันนี้เป็นเรื่องหลังจากที่คุณเคเรียนจบแล้วก็ไปทำงานโดยจะกลับบ้านบ้างเป็นครั้งคราว แล้ววันหนึ่งตอนที่คุณเคอยู่บ้านก็เจอกับคุณลุงคุณป้าที่เป็นพ่อค้าคนกลางซื้อลำไยจากสวนมาหาอาคุณเคเพราะจะมาถามเรื่องซื้อที่ดินทำโกดังคัดลำไย
(อยากให้ทุกคนเปิดฟังมากเพราะเริ่มคลิปมาด้วยเสียงหมาหอนระงมเพิ่มความหลอน)
หลังจากนั้นคุณลุงกับคุณป้าก็กลับมาบ้านคุ
ณเคอีกครั้งพี้อมกับถุงใบหนึ่ง คือคุณลุงคุณป้าจะมาแจ้งข่าวว่าหาที่ได้แล้ว คุณเคก็ถามว่าพกอะไรมาด้วยในถุงอะ คุณลุงเลยเล่าว่าเป็นของเก่าที่เก็บมาจากในบ้านก่อนที่จะทุบทิ้งในที่ที่แกซื้อ
คุณลุงก็เปิดถุงให้ดู คุณเคก็เห็นว่าเป็นเชียงเทียนสามง่ามสวยๆ อันหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อปล่อยให้คุณลุงคุณป้าไปคุยกับคุณอา จนวันหนึ่งคุณเคไปทำธุระที่ลำพูนเลยแวะทำบุญแล้วดันเจอกับคุณป้าที่ใส่ชุดขาวมาทำบุญ คุณเคเลยเข้าไปทักว่าเป็นไงมาไงธุรกิจไปได้ดีไหม
คุณป้าก็ตอบกลับว่าธุรกิจอะไปได้ดี สร้างโกดังคัดลำไยละ พอคุณเคถามถึงคุณลุง คุณป้าก็สลดลงบอกว่าคุณลุงไม่ค่อยดีเท่าไรอยู่สวนปรุง (สวนปรุงคือโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยจิตเวชที่เชียงใหม่) คุณเคก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นเลยถามต่อ
คุณป้าเค้าก็เล่าว่าหลังจากที่กลับบ้านวันที่ไปเยี่ยมคุณอาของคุณเคอะ ของที่คุณลงเอามาจากบ้านที่โดนทุบมี 3 อย่างคือนาฬิกาแขวนโบราณที่เป็นลูกตุ้ม เชิงเทียน กล่องดนตรี คุณลุงก็เอานาฬิกาไปซ่อมแล้วเอามาแขวนที่บ้านตัวเอง แต่อันที่คุณลุงชอบสุดคือเชิงเทียน เอามาขัดจนเงา
ซึ่งลุงแกขัดทุกวันช่วงหัวค่ำ แล้วพอหลังๆ แกเริ่มตื่นมาจัดตอนดึกๆ ตี 1 2 3 คุณเคเลยถามต่อว่ารายละเอียดมันยังไงเพราะไม่ปกติละ คุณป้าเลยเล่าต่อว่ามีคืนนึงตื่นมาตอนตี2ครึ่ง เจอคุณลุงนั่งยองๆ อยู่บนเก้าอี้หวายขัดๆ กอดๆ เชิงเทียนแล้วก็ยิ้ม ซึ่งป้าแกตอนแรกก็คิดว่าเออคงรักมากแล่ะมั้ง
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้คุณป้าตัดสินใจพาคุณลุงไปสวนปรุงคือมีครั้งนึง คุณลุงตื่นมาทำเสียงหึๆๆๆ แล้วไปนั่วกอดเข่าบนเก้าอี้หวายแล้วก็เลียเชิงเทียนแล้วก็หัวเราะหึๆๆๆ คุณป้าตกใจกรี๊ดลั่นบ้านวิ่งออกไปเรียกลูกน้องมาช่วยจับลุง แต่ว่าตอนกลางวันคุณลุงก็จะปกติมาก เหมือนเป็นคนละคนกันกับกลางคืน
แล้วที่หนักไปกว่านั้นคือมีคืนนึงที่คุณลุงไม่ยอมนอน คุณป้าได้ยินเสียง ลูก ป๊อก ลูก ป๊อก สลับกันไปเรื่อยๆ คุณป้าเลยเดินไปดู เจอคุณลุงถือกล่องดนตรีที่มือขวา เชิงเทียนที่มือซ้าย แล้วเอาหัวโขกที่นาฬิกาลูกตุ้มทุกครั้งที่มันแกว่ง แล้วก็พูดว่า ลูก เลยกลายเป็นเสียง ลูก ป๊อก ลูก สลับกัน
คุณป้าก็เลยแนะนำให้คุณลุงไปลองตรวจดูเผื่อผิดปกติที่ตรงไหน ซึ่งพอคุณเคคุยกับคุณป้าจบ ด้วยความเป็นคนไทยอะเนาะอยากรู้อยากทราบ คุณเคเลยขอกคุณป้าว่าขอไปบ้านคุณป้าได้ไหม อยากเห็นของ คุณป้าก็อนุญาต (บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เอาไว้นอนขั่วคราวเวลารอซื้อลำไย)
พอไปถึงก็เห็นเชิงเทียนทองเหลืองเงาวับ นาฬิกาลูกตุ้ม และกล่องดนตรี คุณเคก็รู้สึกว่ากล่องดนตรีมันคุ้นๆ แต่คิดไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน คุณเคก็จะขอตัวกลับละแต่คุณป้าก็ชวนว่าพรุ่งนี้จะไปเยี่ยมคุณลุงพอดีไปด้วยกันไหม คุณเคก็ตกลง พอไปเยี่ยมคุณลุงก็ยังดูร่าเริงแต่ผอมลงไปมากๆ
คุณหมอก็บอกว่าคุณลุงก็ปกติดีนะ ไม่ได้เป็นอะไรพรุ่งนี้จะให้กลับบ้าน พอผ่านไปสามอาทิตย์คุณป้าก็มาที่บ้านคุณเคอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาคนเดียว คุณเคเลยถามถึงว่าคุณลุงไปไหน คุณป้าเลยบอกว่าคุณลุงเสียแล้ว คุณเคเลยงงว่าอ่าวไหนหมอบอกคุณลุงปกติ
คุณป้าเล่าว่าคืนนั้นหลังจากกลับจากรพ คุณลุงก็เหมือนเดิมเลยถือเชิงเทียนแล้วเอาหัวไปโขกนาฬิกา คุณป้าเลยให้คุณลุงกินยานอนหลับไปเลยแล้วเอาผูกไว้กับเตียง จนตอนตี2 คุณป้าก็ได้ยินเสียงเหมือนเดิมเลยคือ เสียงพูดว่า ลูก กับแสงแปลกๆ คือ เสียงฟึบฟับๆ
TW suicide
พอคุณป้าออกไปดูก็เจอว่าคุณลุงเอาเชือกที่ใช้มัดตัวเองเนี่ยแขวนคอกับพัดลมเพดานแกว่งไปแกว่งมาเป็นเสียงฟึบฟับ ตอนนั้นคุณลุงยังไม่เสียชีวิตแต่กำลังขาดอากาศพร้อมกับพูดว่าลูก ลูก ลูก แต่คุณป้าก็ช่วยคุณลุงไว้ไม่ทัน
ด้วยความสงสัยคุณเคก็ถามคุณป้าว่าทำไมไม่เอาของสามอย่างนั้นไปคืน รู้ก็รู้ว่ามันไม่ดี คุณป้าก็บอกว่าพยายามแล้ว เพราะพระก็ทีกว่าเนี่ยเค้าหวงนะเอาของเค้ามาแต่พอเอาไปคืนที่หรือเอาไปไว้วัดก็ทะเลาะกับคุณลุง คุณลุงก็ไปตามเอากลับมาจนได้
ซึ่งในคืนที่คุณลุงเสียชีวิตคุณลุงถือกล่องดนตรีไว้ในมือ ซึ่งใต้กล่องดนตรีมันมีลิ้นชักเล็กๆ ข้างในมีรูปอยู่หนึ่งใบ คุณเคเลยขอไปดู
ที่ที่เป็นที่มาหน่อย วันต่อมาคุณเคก็ไปกับคุณป้าเพราะคุณป้าจะเอาของไปไว้ที่
โกดังละจะกลับอุตรดิตถ์แล้วละให้ลูกน้องดูต่อ
ซึ่งคุณเคก็รู้สึกว่าทางมันคุ้นมาก ที่ที่จอดก็คือบ้านสวนลำไยที่เก่าของพี่เบล ต้นลำไยโดนโค่นไปหมดยกเว้นต้นนั้นที่อยู่จนสุดโกดัง ซึ่งของที่คุณลุงเก็บไปก็เป็นของของพี่เบล เชิงเทียนอันนั้นเป็นเชิงเทียนที่เอาไว้ตั้งหน้าโกฏพี่เบลกับพี่นิดแต่ตอนนี้ย้ายโกฏไปไว้วัดแล้ว
คุณเคก็เลยขอดูรูปที่อยู่ในลิ้นชักเล็กๆ ในกล่องดนตรีหน่อย เฉลย มันเป็นรูปอัลตร้าซาวนด์ลูกของพี่เบลและพี่นิด
เรื่องสุดท้าย "ขอให้จบ" ตอนนั้นคุณเคได้มีโอกาสกลับบ้านที่เชียงใหม่แล้วก็ไปเยี่ยมหาเพื่อนคนนึงชื่อคุณเอ็กเพราะคุณเอ็กฝากเก็บใบสมัครงานไว้ให้ คุณเคเห็นว่าคุณเอ็กอยู่บ้านพอดีเลยอาสาเอาไปให้ที่บ้าน
คุณเอ็กเนี่ยอาศัยอยู่กับพ่อชื่อลุงปรีชา ลุงปรีชาแกเป็นช่างรับเหมา ด้วยความที่ลุงแกเแ็นคนดุคุณเคเลยไม่สนิทด้วยเท่าไร พอเอาเอกสารให้เสร็จคุณเคก็ขอตัวกลับแต่คุณเอ็กบอกให้รอก่อน คือปกติคุณเอ็กจะอยู่หอเพิ่งกลับบ้านมาได้ 2 วันแล้วรู้สึกว่าพ่อเค้าแปลกๆ ไป
คุณเคก็ไม่ค่อยอยากอยู่เพราะบ้านไกลกันไม่อยากกลับดึก แต่คุณเอ็กก็เล่าต่อว่าพ่อเค้าอะตามปกติทำงานมาเหนื่อยกลางคืนก็ต้องนอนแต่เมื่อคืนที่คุณเอ็กกลับมานอนบ้าน ตอนที่คุณเอ็กนอนอยู่ข้างนอกได้ยินเสียงเตียงคุณพ่อลั่นเอี๊ยดๆๆ อยู่ข้างในห้องซึ่งปกติเตียงจะลั่นเวลาคนนอนขยับตัวเท่านั้น
คุณเอ็กเลยลืมตามามองเห็นคุณพ่อเดินไปหลังบ้าน คุณเอ็กเลยตามไปดู คุณเอ็กเห็นคุณพ่อเอาเชือกสีเขียวไปคล้องที่ต้นลำไย คุณเอ็กก็เลยวิ่งไปเข้าไปเรียกคุณพ่อจนเค้าได้สติหลุดจากภวังค์ ก็เลยคุยกันว่าลุงปรีชาแกอาจจะละเมอก็ได้ คุณเอ็กก็เลยเล่าต่อว่า
คุณเอ็กให้พ่อออกมานอนข้างนอกด้วยกัน แต่ตอนตี2 คุณพ่อก็ตื่นมาใส่รองเท้าแตะเดินรอบบ้าน คุณเอ็กก็กลัวเลยพยายามคลุมโปงนอน คุณเอ็กเลยขอให้คุณเคอยู่เป็นเพื่อนได้ไหมคืนนี้ คุณเคก็ลังเลๆ เพราะไม่รู้ว่าแล้วสรุปลุงปรีชาแกเป็นอะไร กลัวแกจะทำร้ายด้วยนิดนึง
คุณเคเลยชวนว่างั้นไปนอนบ้านเค้าไหมแต่คุณเอ็กก็บอกว่าเค้าทิ้งพ่อไม่ได้ คุณเคเลยตกลงว่าอะ นอนก็ได้ คืนเดียวนะ คืนนั้น 5 ทุ่ม คุณเอ็กได้ยินเสียงเตียงลั่นเลยลุกไปดู ลุงปรีชาแกทำเหมือนเดิมเลยคือถือเชือกไปที่ต้นลำไย คล้อง จะทำเป็นบ่วง สองคนเลยรีบวิ่งเข้าไปปลุกลุง
สองคนก็บอกลุงไปว่ามันไม่ปกติแล้วนะ ให้มานอนด้วยกันเลยมีอะไรจะได้ช่วยกันทัน ตอนนั้นคุณเคนอนคั่นกลางระหว่างลุงปรีชาและคุณเอ็กแบบมีหมอนคั่นไว้ด้วยความกลัว พอหลับไปสักพักคุณเคได้ยินเสียงคนเดินมาทางขวาแล้วก็ทำเสียงแบบ แค่ก จุ๊ๆๆๆๆ ซ้ำไปซ้ำมา คุณเคเลยสะกิดปลุกคุณเอ็ก
แล้วพอหันหน้าไปทางลุงปรีชาก็เจอว่าลุงแกนั่งขัดสมาธิอยู่แล้วเอามือจับหัวเข่า โน้มหน้าลงมาทางคุณเคแล้วทำเสียงแบบนั้น คุณเคตกใจมากบอกให้คุณเอ็กไปเปิดไฟ พอไฟเปิดคุณลุงก็เหมือนสะดุ้งตื่นขึ้นมา คุณเคเลยโต้รุ่งไปเลย ไม่ยอมนอนเช้าปุ๊บกลับบ้านปั๊บ
ผ่านไปอาทิตย์นึงคุณเอ็กก็โทรมาขอร้องให้คุณเคไปที่บ้านหน่อย มีอะไรให้ดู ฝากซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่มาด้วยชุดนึง พอไปถึงบ้านคุณเอ็กก็เห็นกองฟืนกองใหญ่ๆ และรากต้นไม้อยู่ ทั้งที่ปกติจะเป็นแค่บ้านกับต้นลำไยต้นหนึ่ง
คุณเคมองเข้าไปก็เจอลุงปรีชานอนเป็นผู้ป่วยติดเตียงขยับตัวไม่ได้ขยับได้แต่ลูกกะตา คุณเคเลยไปถามคุณเอ็กว่าเกิดอะไรขึ้น ขึ้นเอ็กก็เล่าให้ฟังว่าพ่ออะไปทำงานรื้อที่มาแล้วเจ้าของเค้าไม่เอาไม้ให้ลุงปรีชาแกเอากลับได้ แกก็เอาไม้กลับมา ซึ่งคืนแรกที่เอาไม้กลับมาลุงแกก็มีพฤติกรรมเหมือนเดิมเลยคือไปนั่งที่กองฟืนแล้วทำเสียง แค่ก จุ๊ๆๆๆๆ
คุณเอ็กก็เข้าไปปลุก แล้วลุงปรีชาก็สะดุ้งตื่น พอนอนต่อคุณเอ็กก็ได้ยินเสียงไม้หัก แล้วก็ตุ้บ พอไปดูเจอลุงแกนอนอยู่ใต้ต้นลำไย คือลุงแกน่าจะพยายามแขวนคอแต่กิ่งมันหักแล้วหลังกระแทกจนกลายเป็นอัมพาต
คุณเอ็กก็ขอร้องให้คุณเคนอนเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม รู้สึกไม่ดีเลย คืนนั้นคุณเคที่พยายามข่มตาหลับก็ได้ยินเสียง แค่ก จุ๊ๆๆๆๆ มาจากเตียงลุงดำที่นอนตะแคงมองมาที่คุณเคและคุณเอ็ก แต่พอไปเปิดไฟแกก็สะดุ้งตื่นอีกครั้ง
คุณเคก็เลยถามลุงแรีขาไปว่าแกเป็นอะไร แกก็เล่าว่าแกฝันทุกคืนเลยว่ามีชายหญิงคู่หนึ่งมาบอกแกว่า มึงอะทำเรื่องกับกูไว้ กูจะเอามึงไป คุณเคเลยถามว่าทำเรื่องอะไรแต่ลุงปรีชาแกไม่ตอบ คุณเคเลยถามคุณเอ็กแทนว่าพ่อมึงเป็นแบบนี้ตั้งแต่ไปทำงานรื้อที่มาใช่ไหม คุณเอ็กก็ตอบว่าใช่
คุณเคก็เลยถามว่าที่ที่ไปทำงานอะคือที่ไหน ลุงแกก็บอกว่าทำที่ลำพูน เป็นโกดัง ถามไปถามมาได้ความว่าต้นลำไยที่ลุงแกตัดทิ้งเป็นต้นเดียวกันกับที่พี่เบลกับพี่นิดจบชีวิตตัวเองลง ซึ่งไม้ลำไยนั้นอะตอนนี้อยู่หลังบ้านบุงแกตั้งใจจะเอามาทำเก้าอี้
คุณเคก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ใครฟัง เก็บไว้เงียบๆ พนายามข่มตาหลับ จนประมาณตี3 ก็ได้ยินเสียงคุณเอ็กตะโกนว่า กูไม่เอาแล้วๆๆๆๆ คุณเคเลยถามว่าเป็นอะไรเนี่ย คุณเอ็กเล่าว่าฝันว่ามีผัวเมียคู่หนึ่งมาบอกว่าพ่อมึงอะ ทำเรื่องกับกู กูจะเอาพ่อมึงไปอยู่ด้วย ถ้ามึงอยากรู้ว่าพ่อมึงทำอะไร ให้ไปใต้ต้นลำไยที่พ่อมึงตัด
คุณเคเลยบอกว่ามึงอย่าไปตอนนี้ แต่คุณเอ็กบอกว่าจะไปตอนนี้ พอไปถึง ทุกอย่างโล่งมาก ไม่เหลืออะไรเลย คุณเคก็พาคุณเอ็กไปใต้ต้นลำไยแล้วขุด ขุดเจอถุงก๊อบแก๊บเก่าๆ มีกระดาษที่อ่านแทบไม่ออกละ เขียนไว้ว่า "กูขอสาปแช่ง ไอ้ฉิบหายที่มันทำกับเมียกู กับลูกกู กูขอให้มันฉิบหาย กูจะตามมึงไปจนกว่าจะตาย" แนบไว้กับปอยผมกำหนึ่ง
TW suicide
คุณเคกับคุณเอ็กก็วิ่งเลย ขับรถกลับบ้าน พอถึงบ้านก็เจอลุงปรีชาแกผูกคอตัวเองกับเตียงแล้วทิ้งตัวลงพื้น
ในงานศพพ่อ คุณเอ็กก็ตัดพ้อว่าถ้าพ่อไม่เกิดอุบัติเหตุคราวก่อนชีวิตคงจะดีกว่านี้เพราะพ่อคงไม่ต้องออกจากงาน คุณเคเลยถามต่อว่าอุบัติเหตุอะไร คุณเอ็กเล่าว่าเมื่อ8-9ปีก่อน ลุงปรีชาแกทำงานที่บ.เอกชนแห่งหนึ่ง ตอนนั้นลุงแกขับรถไปกับหัวหน้าฝ่าไฟแดงไปชนกับกระบะคันหนึ่ง
ลุงปรีชาขาหัก แต่คู่กรณีที่เป็นผัวเมียคู่หนึ่ง เมียแท้งลูกและตรอมใจตาย คุณเคเลยประติดประต่อเรื่องทั้งหมดได้ว่าคนที่ทำให้พี่เบลสูญเสียทุกอย่างไปคือลุงปรีชานั่นเอง
ส่วนหัวหน้าที่นั่งรถไปกับลุงปรีชาในตอนนั้นอาการโคม่า คุณเคเองก็ไม่รู้ว่าชีวิตเค้าเป็นอย่างไรแต่คุณเค"ขอให้มันจบ" เป็นที่มาของชื่อเรื่องบทสุดท้ายของเรื่องนี้
แปะลิ้งก์สามเรื่องมหากาพย์ ใครหยิบไปทำหนังที🙏
ที่เก่า
บังเอิญ
ขอให้จบ

• • •

Missing some Tweet in this thread? You can try to force a refresh
 

Keep Current with 🥓 ไปเจอนี่มา 🐈✨

🥓 ไปเจอนี่มา 🐈✨ Profile picture

Stay in touch and get notified when new unrolls are available from this author!

Read all threads

This Thread may be Removed Anytime!

PDF

Twitter may remove this content at anytime! Save it as PDF for later use!

Try unrolling a thread yourself!

how to unroll video
  1. Follow @ThreadReaderApp to mention us!

  2. From a Twitter thread mention us with a keyword "unroll"
@threadreaderapp unroll

Practice here first or read more on our help page!

Did Thread Reader help you today?

Support us! We are indie developers!


This site is made by just two indie developers on a laptop doing marketing, support and development! Read more about the story.

Become a Premium Member ($3/month or $30/year) and get exclusive features!

Become Premium

Don't want to be a Premium member but still want to support us?

Make a small donation by buying us coffee ($5) or help with server cost ($10)

Donate via Paypal

Or Donate anonymously using crypto!

Ethereum

0xfe58350B80634f60Fa6Dc149a72b4DFbc17D341E copy

Bitcoin

3ATGMxNzCUFzxpMCHL5sWSt4DVtS8UqXpi copy

Thank you for your support!

Follow Us on Twitter!

:(