หุ้น #stark เปิดเทรดวันเดียว ร่วงเกือบ 90% เกิดอะไรขึ้น มาดูกัน
Stark คือบริษัท Holding Company ถือหุ้นบริษัทย่อยๆ โดยบริษัทหลักที่ Stark ถือหุ้นคือบริษัทที่ผลิตสายไฟและสายเคเบิ้ล มีคู่ค้าคือกิจการภาครัฐ ทั้งไทยและเวียดนาม
Stark เข้าตลาดหุ้นด้วยวิธี Backdoor Listing ไม่ผ่าน IPO
Backdoor listing คือ reverse take over แปลว่าการที่บริษัทขนาดเล็ก ซื้อกิจการของบริษัทขนาดใหญ่ ฟังแล้วงงๆ จะซื้อไปทำไมวะ อธิบายดังนี้
สมมติเรามีบริษัทขนาดเล็ก A อยู่ในตลาดหุ้น และบริษัท B อยู่นอกตลาดหุ้น B อยากเข้าตลาดหุ้นแต่ไม่อยากผ่าน IPO อาจจะขี้เกียจทำเอกสารหรือลดค่าใช้จ่าย
แล้วทำได้ไงวะ ท่าที่ใช้คือ
1. A ขายหุ้นเพิ่มทุนให้ B B กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
2. ใช้เงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุนจาก B ไปซื้อกิจการของ B อัฐยายซื้อขนมยาย
3. ขนาดของ A เล็กกว่า B เงินมักไม่พอใจการซื้อ อาจจะใช้วิธีกู้ธนาคาร หรือโอนหุ้นของ A ให้ B ไปเลยเพื่อเป็นค่าส่วนต่าง
หลังจากนั้น บริษัท A ก็จะกลายเป็นบริษัท B โดยสมบูรณ์ ซึ่งบริษัท B ก็อาจจะมีการตอบแทนบริษัท A อย่างไรก็ไม่ทราบได้ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เข้ามาในตลาดหุ้น
ขั้นตอนต่อไปก็คือเปลี่ยนชื่อบริษัท จาก A เป็น B
เสร็จแล้ว จีเนียสมากๆ กับหนทางล่อเงินเม่าโดยไม่ผ่าน IPO ✅
แล้ว Stark มีปัญหาอะไรอีก ?
เมื่อลองไปดูในงบการเงินจะเริ่มพบความผิดปกติ
ถ้าเราดูแค่ รายได้ ค่าใช้จ่าย และกำไรสุทธิ มันก็ดูดีนะ เติบโตขึ้นทุกปีๆ และโตทุกด้าน สอดคล้องกัน
แต่ลูกหนี้การค้าสินค้าคงเหลือขยายตัวทุกงวด เริ่มแปลก
ref จากข่าวหุ้นนะฮะ
ถ้าลูกหนี้การค้าเพิ่มแปลว่า ขายสินค้าได้แต่เก็บเงินไม่ได้ จะยังเพิ่มการผลิตสินค้าทำให้สินค้าคงคลังเหลือเพิ่มมากขึ้นเหรอ
ยอดขายก็สอดคล้องกัน ยอดขายเพิ่ม แต่ลูกหนี้การค้าเพิ่มมากกว่ายอดขาย แปลว่าขายแล้วไม่ได้ตังค์ เพราะคนซื้อติดหนี้แต่ไม่จ่ายเงิน
สินค้าคงเหลือก็ขยายตัวต่อเนื่อง
แถมแสดงงบว่าขายของได้กำไรทุกปี แต่กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน กลับติดลบ โดยบอกว่า หักค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ หักลูกหนี้การค้าและสินค้าคงเหลือ ภาษี ดอกเบี้ยจ่าย ฯลฯ จากกำไร 3,000 ล้านบาท หักไปหักมา เงินในบัญชีกระแสเงินสด ติดลบ 1799 ล้าน
ระยะเวลาเก็บหนี้ > ขยายขึ้นเรื่อยๆ ถึง 300 วัน (ค่าเฉลี่ยของบริษัททั่วโลก อยู่ที่ 37.3 วัน)
ระยะเวลาขาย > แปรสินค้าในสต๊อกมาเป็นยอดขาย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าแม้ไม่ได้เงินแต่ยังผลิตของเพิ่ม ซึ่งไม่ปกติ
ระยะเวลาชำระเจ้าหนี้เฉลี่ย > ขยายออกเหมือนกัน น่าสงสัยว่าทำไมเจ้าหนี้ยอม
เรื่องนี้แปลกมากเพราะโดยปกติแล้วไม่มีใครให้เครดิทยาวกันขนาดนี้ ระยะเวลาปกติคือ 4-6 สัปดาห์ แปลว่าเอาของไปแล้วให้เครดิท 4-6 สัปดาห์>จ่ายเงิน
จึงน่าสงสัยว่า เจ้าหนี้และลูกหนี้ และ บ เป็นพวกเดียวกันถึงให้ระยะเวลาเก็บหนี้ยาวนานขนาดนี้ เพราะจะให้ไปจัดการบัญชีให้เรียบร้อยรึเปล่า 🤔
เหตุการณ์สำคัญ
อนุมัติซื้อ Leoni ออกหุ้นเพิ่มทุน 29 กค 2565 5500 ล้าน
หลังจากได้เงินแล้ว มีข่าวว่ากรรมการบริหารแตกคอกัน > 13 ธค 65 ยกเลิกดีล Leoni และขอเปลี่ยนวัตถุประสงค์ใช้เงินเพิ่มทุน
บวกกับหุ้นกู้ทั้งหมดของ Stark ที่ทยอยออกมาเรื่อยๆ มูลค่ารวมๆ 10,000 ล้าน
คำถาม เงินไปไหน
มีข่าวลือไอ้โม่งใน Stark ไซฟ่อนเงินออกจาก Stark ระดับหมื่นล้านบาท
และผู้บริหารทยอยลาออก
1 ในคนที่ลาออกคือ นิติ จึงนิจนิรันดร์ เป็นผู้สอบบัญชีและอาจารย์สอนด้านบัญชี ทำงานกับ กลต ด้านสอบบัญชี การที่คุณนิติที่มีคุณสมบัติแบบนี้ลาออกอาจจะแสดงว่ารู้ข้อมูลอะไรบางอย่างเลยตัดสินใจออก 🤔
ทำงานแป๊บ เดี๋ยวมาต่อ
มาครับอันนี้จะเข้าสู่ไฮไลต์ ว่าเอ๊ะเงินหายไปไหน
การเอาเงินออกจากบริษัท มักมี 3 ทาง
1. จ่ายปันผลจากกำไร (ซึ่งบริษัทนี้ไม่มี)
2. เอาเงินไปซื้อของ แต่ก็จะต้องมีสินค้าเข้ามาในโกดัง
3. จ่ายหนี้
ซึ่งการสร้างลูกหนี้/เจ้าหนี้ปลอมนี่ใช้ในการยักยอกเงินมานานฮะ
บริษัทมีนี้อะไรบ้าง🤔
สรุปว่าเป็นหนี้รวม 38,000 ล้านบาท (มูลค่าบริษัทล่าสุดคือ 3,000 ล้านบาท 🫠) จุดที่น่าสงสัยคือเงินกู้ยืมระยะสั้นของบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวเนื่องกัน ตัวเลขมีแค่ 11 ล้านแต่ว่าถ้าย้อนไปดูในปี 63-65 มีการจ่ายเงินบุคคลเกี่ยวโยงออกไป 492 ล้าน จ่าย BE และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์ 793 ล้าน
(ความเคลื่อนไหวของการกู้ยืมและชำระหนี้ ถ้าเป็นบวกแปลว่าไปกู้เขามา ถ้าเป็นลบคือจ่ายคืนเขาไป)
แล้วพอมาดูรวมๆ แบบนี้แล้ว แปลว่า กู้ธนาคาร > เอาเงินไปจ่าย บุคคลเกี่ยวข้องและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์ > ออกหุ้นกู้ > มาจ่ายธนาคารอีกต่อรึเปล่า
หมุนเงินไปเรื่อย 🤔
แล้วใครรับผิดชอบในการกู้
อีกคำถามสำคัญอีกอย่างคือ ไอ้ที่เอาเงินไปใช้หนี้เขานั่น หนี้มันมีอยู่จริงมั้ย ตอนแรกเงินมันเข้ามาในบริษัทมั้ย แล้วคนเซ็นต์ค้ำประกันเงินกู้ จะมีปัญญาจ่ายเงินรึเปล่า รวมๆ ที่คุณ วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เซ็นต์ ประมาณ 12,000 ล้านบาท แต่ข่าวลือคือเซ็นต์ไปร่วม 30,000 ล้านบาท
สรุปตอนนี้ก็ยังไม่ได้ความกระจ่างเท่าไหร่ อาจจะต้องรอตรวจสอบบัญชีแน่นๆ อย่างไรก็ตาม ก็ขออวยพรให้คนที่ซื้อหุ้นกู้ของ Stark หรือซื้อหุ้น Stark ด้วยจ้า
คหสต แปลกที่ปี 64-65 กำไรโตงดงามแล้ว ตอนนั้นราคา Commodity ขึ้นรัวๆ ราคาทองแดงก็ดีดจากสงครามรัฐเซียยูเครน เอาไรมาทำกำไรดีเว่อ งง
ด้วยความไม่แน่นอนทั้งหมด ขณะนี้เมื่อเปิดซื้อขายขั่วคราว เลยมีคนเทขาย ราคาร่วง 90%
ซึ่งหุ้นที่กลับมาซื้อขายชั่วคราว มันจะปิด Ceiling หรือ Floor ได้ 100% ดังนั้นมันเลยไม่ค่อยๆ ร่วงแบบ More
Share this Scrolly Tale with your friends.
A Scrolly Tale is a new way to read Twitter threads with a more visually immersive experience.
Discover more beautiful Scrolly Tales like this.