โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ภาพรวมโครงการ
ย้อนกลับไปกว่าสามสิบปีก่อน พื้นที่บนดอยสูงในเขตอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย หากมองจากมุมมองของนก คงเป็นเพียงผืนดินสีน้ำตาลแดงของภูเขาหัวโล้นทอดยาวสุดลูกหูลูกตา แซมด้วยจุดสีเขียวเล็กจ้อยกระจายตัวอยู่เพียง
2: ประปราย

ดอยตุงในอดีตคือดินแดนที่ผู้คนในพื้นที่แห่งนั้นเข้าไม่ถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานและขาดความรู้ด้านการเกษตร มีชีวิตที่แร้นแค้นและตกอยู่ในวังวนของปัญหา นำมาซึ่งการประกอบอาชีพผิดกฎหมาย ปลูกและค้าสิ่งเสพติดขายให้กองกำลังชนกลุ่มน้อย มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของ
3: วงจรการขายและเสพยาเสพติด รวมถึงการค้าประเวณีเพื่อหวังจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จนนำมาสู่การสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาถึงในพื้นที่เมื่อสมเด็จย่าเสด็จฯ มาเยือนดอยตุงเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2530 และทรงตระหนักว่ารากเหง้าของปัญหา คือ ความยากจน
4: และขาดโอกาสในการดำเนินชีวิต จึงทรงริเริ่มโครงการพัฒนาดอยตุงฯ เมื่อพระชนมายุ 87 พรรษา ซึ่งเป็นวัยที่หลายคนลงความเห็นว่าควรพักผ่อน แต่พระองค์ทรงเลือกที่จะทรงงานต่อเนื่องดังที่เป็นมา
โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เริ่ม ‘ปลูกคน’ ด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ให้ดีขึ้นอย่างเป็นขั้น
5: เป็นตอน บนความเชื่อสำคัญที่ว่า หากสร้างหนทางให้ชาวบ้านหลุดพ้นจากวงจร ‘ความเจ็บป่วย ความยากจน และความไม่รู้’ ได้ ปัญหาสังคมและการทำลายธรรมชาติเพื่อความอยู่รอดก็จะหมดไปในที่สุด สมเด็จย่าจึงมีพระราชปณิธานที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งพื้นที่และชีวิตชาวไทยภูเขา ดังพระราชดำรัสที่ว่า
6: “ตกลงฉันจะมาปลูกบ้านที่นี่ แต่ถ้าไม่มีโครงการดอยตุง ฉันก็จะไม่มาปลูกบ้านที่นี่ ฉันอยากปลูกป่ามาสิบกว่าปีแล้ว แต่ไม่มีใครรับปากฉัน”

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
7: แม้เราจะหวังให้เห็นความสำเร็จเกิดขึ้นในชั่วพริบตา แต่ความจริงนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาใดสำเร็จได้ชั่วข้ามคืน โครงการพัฒนาดอยตุงฯ จึงแบ่งการพัฒนาทั้งหมดออกเป็น 3 ระยะ

ระยะที่ 1 : ‘อยู่รอด’
ขั้นแรกเป็นการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต วางระบบสาธารณูปโภคและสาธารณสุข
8: เพื่อให้ชุมชน ‘อยู่รอด’ พ้นจากความอดอยาก และให้ความสำคัญกับการส่งเสริมอาชีพระยะต้น โดยไม่บุกรุกทำลายพื้นที่ป่าเหมือนในอดีตที่ผ่านมา เพื่อให้ชาวบ้านสามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และลดปัญหาหนี้สินในครัวเรือน
อาชีพแรกบนดอยตุงที่มาพร้อมกับการฟื้นฟูผืนป่าคือการปลูกพืชเศรษฐกิจ
9: โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ได้มอบสิทธิ์ให้ชาวบ้านเป็นเจ้าของต้นกาแฟ หากใครดูแลต้นกาแฟได้ผลผลิตดี มีคุณภาพก็จะได้ผลตอบแทนมากขึ้นตามไปด้วย ความรู้สึกเป็นเจ้าของทำให้ชาวบ้านเอาใจใส่และดึงศักยภาพของตนเองมาใช้อย่างเต็มที่ จนหลายคนสามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่การเป็นเจ้าของกิจการกาแฟได้ในที่สุด
10: พืชเศรษฐกิจอีกหนึ่งประเภทคือแมคคาเดเมีย ซึ่งเป็นถั่วราคาสูง สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายและขายได้ราคาดี อีกทั้งยังยืนต้นอยู่ได้นาน ถ้าดูแลดีๆ ก็เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ครอบครัวที่เติบโตไปพร้อมลูกหลาน

ระยะที่ 2 : ‘พอเพียง’
เน้นการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและยกระดับ
11: คุณภาพชีวิตด้วยการเพิ่มมูลค่าผลผลิตในท้องถิ่น ส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมกับภูมิสังคมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อปพื้นฐานให้ชุมชนสามารถนำไปต่อยอดสร้างรายได้ระยะยาวที่มั่นคงได้ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ จัดสรรอาชีพรองรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานประเภทอื่นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นงานในโรงงานแปรรูป
12: งานหัตถกรรม และยังมีงานเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ รวมไปถึงงานด้านการท่องเที่ยวที่ก่อให้เกิดการจ้างงานและสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีความรักในถิ่นฐานบ้านเกิด

เพื่อให้การพัฒนานั้นก้าวเดินไปข้างหน้า และเป็นหนทางที่จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ที่มั่นคงให้ชุมชนดอยตุงอย่างยั่งยืน
13: การส่งเสริมอาชีพสุจริตในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคมในนาม “แบรนด์ดอยตุง” จึงถือกำเนิดขึ้น ดอยตุงสามารถเลี้ยงตัวเองได้ตั้งแต่ปี 2543 ด้วยรายได้จากธุรกิจเพื่อสังคมต่างๆ 5 กลุ่ม ได้แก่ หัตถกรรม อาหารแปรรูป คาเฟ่ เกษตร และการท่องเที่ยว ถือเป็นการสร้างต้นแบบในการยืนหยัดด้วยตนเองให้กับ
14: ชาวบ้าน รายได้ที่ได้จากธุรกิจเพื่อสังคมบนดอยตุง ส่วนหนึ่งคืนกลับสู่ชาวบ้านและชุมชน ส่วนหนึ่งนำมาใช้ในการพัฒนาในด้านสาธารณสุข การศึกษา และสิ่งแวดล้อมบนดอยตุงนั่นเอง

แบรนด์ดอยตุง

เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ผลิดอกออกผลจากโครงการพัฒนาดอยตุงฯ หัวใจหลักของการสร้างธุรกิจอยู่ที่
15: การพัฒนาศักยภาพคน การบริหารจัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพ และการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังแนวพระราชดำริที่สมเด็จย่าทรงริเริ่มไว้ ไม่เพียงผสมผสานภูมิปัญญาชาวบ้านเข้ากับการบริหารจัดการทางธุรกิจที่ทันสมัยอย่างมืออาชีพเท่านั้น หากโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ยังจัดหานักออกแบบร่วมสมัย
16: เพื่อพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ พัฒนาทักษะต่างๆ ให้ชาวบ้านสามารถต่อยอดและนำไปสู่การพึ่งพิงตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งทรัพยากรจากภายนอก ทั้งยังสร้างช่องทางการตลาดที่เผยแพร่ให้ทั้งสินค้าและบริการของแบรนด์ดอยตุงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในและนอกประเทศ
17: ปัจจุบันโครงการพัฒนาดอยตุงฯ อยู่ในก้าวย่างสำคัญของการพัฒนาไปสู่
ระยะที่ 3 : ‘ยั่งยืน’
โดยได้ก้าวกระโดดจากจุดเริ่มต้นที่เป็นโครงการปลูกพืชทดแทนยาเสพติดสู่โครงการพัฒนาทางเลือกที่หลากหลายในการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาให้ชุมชนพ้นความยากจน
18: เลิกยุ่งเกี่ยวกับการปลูกพืชเสพติดและเสริมศักยภาพของชาวบ้านให้มีทักษะ มีความคิด และมีความสามารถทางธุรกิจ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน สำนักงานควบคุมยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติมอบตราสัญลักษณ์ UNODC ติดบนผลิตภัณฑ์แบรนด์ดอยตุงเพื่อยืนยันความสำเร็จจากการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี
19: ด้วยแนวทางการพัฒนาการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน

โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ให้ความสำคัญกับการศึกษาของเด็กและเยาวชน ปลูกฝังแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เสริมสร้างศักยภาพอย่างเต็มที่โดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ใช้แนวทางการสอนแบบมอนเตสซอรี (Montessori) กับเด็กปฐมวัย
20: เน้นสอนให้เด็กๆ เรียนรู้ผ่านกระบวนการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructionism) ตลอดจนกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายครอบคลุมไปจนถึงระดับมัธยมศึกษา ทั้งการเรียนรู้ด้วยภาระงานเป็นฐาน (Task-Based Learning) การจัดการเรียนรู้แบบทำโครงงาน (Project-Based Learning)
21: และการเรียนรู้พื้นฐานและทักษะอาชีพ (Vocational Learning) ที่สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่พร้อมก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก นับเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันชีวิต ปั้นผู้นำรุ่นใหม่ที่เข้มแข็ง สามารถนำชาวบ้านพัฒนาชุมชนบ้านเกิดของตนเองต่อไปได้อย่างยั่งยืน
22: ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2559 โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เร่งผลักดันการเรียนการสอนภาษาไทยแก่เยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ สนองพระราชปณิธานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยเรื่องการศึกษาภาษาไทยของเยาวชนในพื้นที่
23: โดยมีเป้าหมายลดจำนวนเด็กที่อ่านและเขียนภาษาไทยไม่ได้ให้เป็นศูนย์
ปัจจุบันมีนักเรียนในพื้นที่ที่เรียนจบแล้วกลับมาทำงานในตำแหน่งต่างๆ ในโครงการพัฒนาดอยตุงฯ เพื่อสานต่อการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมองจากมุมมองของนกในวันนี้ จะเห็นว่าเมล็ดพันธุ์แห่งแรงบันดาลใจ
24: ที่สมเด็จย่าทรงหว่านไว้ที่ดอยตุง จังหวัดเชียงราย เติบโตกลายเป็นเนินเขาเขียวชอุ่มสุดลูกหูลูกตา ภายใต้ร่มเงานั้นคือความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนของราษฎรในพื้นที่

#Reference
⁃2021 มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์

🙏🏻🙏🏻🇹🇭🇹🇭🙏🏻🙏🏻
คิดถึงสมเด็จย่าฯ

• • •

Missing some Tweet in this thread? You can try to force a refresh
 

Keep Current with HuixianHuang

HuixianHuang Profile picture

Stay in touch and get notified when new unrolls are available from this author!

Read all threads

This Thread may be Removed Anytime!

PDF

Twitter may remove this content at anytime! Save it as PDF for later use!

Try unrolling a thread yourself!

how to unroll video
  1. Follow @ThreadReaderApp to mention us!

  2. From a Twitter thread mention us with a keyword "unroll"
@threadreaderapp unroll

Practice here first or read more on our help page!

More from @huang_huixian

25 Oct
Siamese Talk กับการรับมือกับลัทธิล่าอาณานิคม

จากคำถามที่ว่าอาณาจักรไหนที่ชาติมหาอำนาจล่าอาณานิคมได้ยากสุด?

คำตอบคือ"สยาม" ค่ะ

ทุกท่านเคยได้ยินคำว่า Siamese talk ไหมคะ Siamese talk คือการทูตแบบไทยๆ แล้วแต่ว่าใครจะเรียกนะคะแต่ที่รู้ได้และมั่นใจได้อย่างหนึ่งว่า Siamese talk ImageImage
2: ทำให้ประเทศไทย รอดพ้นจากการถูกล่าอาณานิคมอย่างแน่นอน

ประเทศไทยไม่ได้เป็นเกาะแบบญี่ปุ่น ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่และทหารนับล้านแบบจีน แต่มหาอำนาจกลับใช้กลเม็ดทุกอย่างที่เคยทำสำเร็จกับอาณานิคมอื่นๆมาแล้ว มาใช้กับประเทศสยามไม่ได้ สยามขณะนั้นถ้าหากเปรียบเทียบความสามารถ ทางด้านการทหาร
3: กับประเทศมหาอำนาจในยุโรปแล้ว ประเทศสยามถือว่าเป็นประเทศที่มีกองกำลังไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลยทั้งกำลังพลที่น้อยกว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ด้อยกว่า แต่ประเทศมหาอำนาจกลับไม่สามารถยึดสยามมาเป็นอาณานิคมได้ จนมีคำกล่าวว่า “ประเทศสยามถูกยึดเป็นอาณานิคมได้ยากมากที่สุดในทวีปเอเชีย” Image
Read 53 tweets
25 Oct
ไอ้บ้าจี้

ไอ้บ้าจี้ บ้าอำนาจ ประกาศกล้า
ชอบอ้างตรา แห่งจุฬาฯ มาแถลง
ไอ้บ้าจี้ มีเด็กแก่น บ้าแว่นแดง
ผู้หิวแสง กร่างกำแหง แฝงอวดดี Image
เป็นได้แค่ ว่าวจุฬา ท่าผยอง
ที่ชอบทำ พระเกี้ยวทอง ให้หมองศรี
เป็นเด็กกาก เป็นกาฝาก จามจุรี
ทำบัดสี ในจุฬาฯ เป็นอาจิณ
ได้เข้ารั้ว สีชมพู ดูกระหยิ่ม
สีซาหริ่ม ใช้ปกปิด ความผิดกลิ่น
แสนสมเพช พันธุ์ขี้เรื้อน ไส้เดือนดิน
หมั่นติฉิน หมิ่นตรา สถาบัน
Read 15 tweets
24 Oct
มูลนิธิเทียนส่องใจเพื่อคนไข้โรคลมชัก
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

“ฉันเคยเห็นและรู้จักคนไข้ที่ชัก เห็นแล้วรู้สึกสงสาร เข้าใจดีว่าเขารู้สึกอย่างไร เมื่อเขาฟื้นขึ้นมา มีคนมุงดูเต็มไปหมดย่อมรู้สึกอาย แม้จะมีคนพยายามช่วยเหลือเขา แต่เขาก็ไม่สามารถทำตาม หรือบอก
2: ความต้องการอะไรได้ แม้จะผ่านการชักครั้งนั้นไปแล้ว ก็ยังเป็นปมในใจไปตลอดด้วยความหวาดกลัว ไม่ทราบว่าจะเกิดชักขึ้นอีกเมื่อไร...มีคนหลายคนที่ชักแล้วต้องตกงาน ฉันรู้สึกเห็นใจ ฉันอยากให้เขาเหล่านี้หายขาดจากการชัก”

พระรับสั่ง สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
3: องค์อุปถัมภ์ของโครงการรักษาผู้ป่วยโรคลมชักครบวงจร
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โครงการรักษาผู้ป่วยโรคลมชักครบวงจร ในพระอุปถัมภ์ของเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ คลีนิคโรคลมชัก สาขาวิชาประสาทวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ดำเนินการตรวจรักษาผู้ป่วยโรคลมชัก ด้วยวิธีการและความรู้ที่ทัน
Read 15 tweets
24 Oct
มูลนิธิ ณภาฯ ในพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา (พระองค์ภาฯ)

ด้วยน้ำพระทัยที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอันเกิดจากผลที่ได้รับทางด้านกฎหมายและสังคมนั่นคือผู้ต้องขังและผู้พ้นโทษ มูลนิธิ ณภาฯในพระดำริ
2:จึงก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นตัวกลางในการแสวงหาโอกาส และช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งสร้างความตระหนักแก่สังคมให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มคนเหล่านี้

มูลนิธิ ณภาฯ ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ต้องขังหญิง-ชาย และกลุ่มผู้พ้นโทษหญิง-ชาย เป็นกลุ่มแรก โดยมีการจัดโครงการเข้า
3: ฝึกอบรมวิชาชีพและการผลิต ภายในเรือนจำและภายในมูลนิธิ ณภาฯ เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เป็นการแสดงศักยภาพและความสามารถของพวกเขาผ่านทางผลิตภัณฑ์ ตลอดจนนำไปจัดจำหน่าย ภายใต้แบรนด์ของ ณภาฯ อันก่อให้เกิดรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
Read 14 tweets
24 Oct
อคติทำให้ตาบอด

ถ้ามองเห็น"คอมมิวนิสต์"แล้วคิดว่า
เป็น"ประชา ธิปไตย" ใฝ่แสวง
เชื่อเฟคนิวส์ ข่าวกุ ข่าวยุแยง
ชูธงแดง หัวรุนแรง หวังแปลงไทย
เห็นต่างชาติ ชวนเที่ยวไทย ไยไม่ชื่น
กลับขมขื่น ร้อนรน ทนไม่ไหว
ต้องด้อยค่า ให้เสื่อมศรี ทุกทีไป
นั่นตาบอด หรือตาใส ใครบอกที
คนที่บอก ว่าตัวข้า ตาสว่าง
ไฟข้างทาง รูปหงส์ทอง ส่องวิถี
มองยังไง เป็นเสาไฟ กินรี
คิดไม่ดี ใช่หรือไม่ ไหนบอกมา
Read 7 tweets
24 Oct
"รักเขาข้างเดียว เหมือนข้าวเหนียวนึ่ง" 😑💔
สงสัยไหม ทำไมต้องข้าวเหนียวนึ่ง❓ข้าวเหนียวนึ่งเกี่ยวข้องอะไรกับคนอกหัก❓

สำนวนไทยที่เอาไว้เปรียบเปรยกับความรักที่ไม่สมหวังนั้น มีอยู่มากมายหลายสำนวนนัก

แต่หนึ่งในสำนวนที่ได้ยินกันบ่อย ๆ
ก็คือ"รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง" Image
2: รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง ใช้กับคนที่มอบความรักต่อคนอีกคนหนึ่ง แต่กลับไม่ได้รับความรักกลับมา ฟังดูช่างน่าเศร้า

ถึงแม้จะได้ยินกันบ่อย ๆ แต่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะทราบว่า
สำนวนนี้หมายถึงอะไร?
ทำไมจึงนำเอาความรักที่ไม่สมหวัง ไปเปรียบกับการนึ่งข้าวเหนียว?
3: ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าสำนวน"รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง" ฉบับเต็ม
ที่ถูกต้อง จะต้องกล่าวว่า...

"รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวตายนึ่ง น้ำท่วมไม่ถึง ก็พาให้แห้งเหี่ยวเฉา"

คำว่า ข้าวเหนียวนึ่ง ในสำนวนนี้แท้จริงแล้วมิได้หมายถึง ข้าวเหนียวที่หุงในหวด Image
Read 7 tweets

Did Thread Reader help you today?

Support us! We are indie developers!


This site is made by just two indie developers on a laptop doing marketing, support and development! Read more about the story.

Become a Premium Member ($3/month or $30/year) and get exclusive features!

Become Premium

Too expensive? Make a small donation by buying us coffee ($5) or help with server cost ($10)

Donate via Paypal Become our Patreon

Thank you for your support!

Follow Us on Twitter!

:(