"โห คะแนนภาษาอังกฤษของเคียวยะดีขึ้นเยอะเลยนี่นา"
"เป็นแม่เหรอถึงมาแอบดูผลสอบน่ะ"
"เอ้า ก็มันวางอยู่บนโต๊ะนี่นา"
ผมกลอกตา ถึงจะเป็นดีโน่ แต่ผมก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัว ผมพุ่งตัวกวาดของตัวเองบนโต๊ะลงไปในกระเป๋านักเรียนให้หมด
"วิธีของฉันได้ผลใช่มั้ยล่ะ"
ผมกลอกตา "ไม่คิดว่าผมจะอ่านหนังสือเองบ้างรึไง"
"ฉันเคยเป็นคุณครูมาก่อนนะ"
"กล้าเรียกตัวเองว่าคุณครูด้วยเหรอ"
"แต่คะแนนก็ขึ้นจริงๆนี่ ทำตามสัญญาได้ยังอะ" ดีโน่ตบตัก ผมเขวี้ยงขวดน้ำเปล่าไปหาเขา
"It's our promise"
"Not fair"
"Are u ready for calling me sensei?"
"I don't like breaking the promise but it doesn't mean you can ask me to do anything"
"You accepted it"
"How dare you ask me to call u, sensei"
"Yeah, the best way to learn English is using it in your daily life"
ดีโน่เอาคางเกยบนไหล่ของผม
"นี่มันมากไปรึเปล่า"
"No, speak English with me"
ผมไม่นึกอยากจะสนใจคนสอนภาษาอังกฤษที่อยู่ด้านหลังแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าวิธีของดีโน่ได้ผลจริงๆ
"How was your day?"
"Nothing special"
ดีโน่ใช้ปลายนิ้วขีดเขียนอะไรบนหลัง
"How about your love letter? It's not that much special huh?"
"U know it already so, no need to answer"
"You gonna let me date with the one who wrote the letter?"
"Never"
"ทำเป็นพูดดี วันหลังถ้าผมเบื่อมากๆอาจจะลองคุยดูก็ได้นะ"
ดีโน่หัวเราะ "พวกนั้นตามใจเคียวยะไม่ไหวหรอก เชื่อสิ"
"ปล่อยมือได้ยัง" ผมเอี้ยวตัวไปมองดีโน่ที่กำลังโอบเอวอยู่ เขาเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้
"เป็นแม่เหรอ"
"ให้เป็นพ่อแม่โซนเหรอ"
"ถามจริง มาญี่ปุ่นเพื่อเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ"
"เรื่องของเคียวยะไม่ใช่เรื่องแบบนี้นา"
"อย่ารุ่มร่าม--ดีโน่"
ผมหยิกมือที่กำลังจะล้วงเข้าไปในเสื้อนักเรียน ก่อนจะถองศอกใส่คนที่อยู่ด้านหลังเข้าเต็มแรง
ผมล่ะไม่เข้าใจ หมอนี่ว่างมากถึงขนาดบินไปบินมาระหว่างอิตาลีกับญี่ปุ่นเพื่อมากวนประสาทกันไปวันๆเนี่ยนะ
"Btw, thanks for teaching me"
"Hmm I'm always your sensei, sweetie."
ผมกลอกตา "Sensei doesn't touch me like this. It can be sexual harassment"
"เป็น" ผมวางปากกา แล้วหมุนตัวไปหาเขา "เพราะผมทำการบ้านไม่รู้เรื่อง"
.
.
.
ให้ทายว่าผมทำการบ้านเสร็จมั้ย