เหนลูกเตะสูงอันนี้แล้วอดคิดไม่ได้ว่าน้องน่าจะตัวอ่อนมากแน่ๆ งั้นลองให้น้องเปนนักบัลเล่ตกันหน่อยไหม😳 #ออลทาเค #LuminaTRFanfic

ทาเคมิจจิเริ่มเรียนบัลเล่มาตั้งแต่ก่อนจำความได้เสียอีก

นั้นก็เพราะคุณแม่ของเขาเป็นอดีตนักบัลเล่ต ไม่แปลกที่เธออยากจะให้ลูกของตัวเองได้ลองฝึกสิ่งที่ชอบ Image
ส่วนตัวทาเคมิจจอก็ไม่ได้รู้สึกแย่หรือรู้สึกดีอะไร ไม่ได้มีแพชชั่นแบบสานต่อเป็นอาชีพของคุณแม่ แต่ก็ไม่ได้เกลียดแบบโดนบังคับเรียน เขาแค่รู้สึกเฉยๆเหมือนได้ประสบการณ์ในชีวิตเพิ่มเท่านัน

แต่ยังไงสายบัลเลต์ก็ไม่ใช่ทางของเขาจริงๆเลยเลิกเรียนไปตอนขึ้นม.ต้น คุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
เข้าใจว่าแต่ละคนมีสิ่งที่ถนัดหรือไม่ถนัด แต่บางทีเธอก็ชอบขอให้เขาไปช่วยสอนคอรส์บัลเล่ตเด็กที่ตัวเองเปิดสอนด้วย ถึงทาเคมิจจิจะขี้เกียจแต่พอได้ยินจำนวนเงินค่าขนมเขาก็มีลูกฮึดทันที ข้อเสนอดีแบบนี้ใครจะไม่ทำกัน!!

เพราะงั้นแล้วทาเคมิจิก็ไม่นับว่าเลิกเรียนแบบร้อยเปอรเซนละมั้ง?
ตอนที่ไปช่วยสอนก็ยังต้องไปฝึกพื้นฐานบ่อยๆ เอาเหอะ ยังไงมันก้ไม่เหนมีปัญหาอะไรเลย แถมเรียนบัลเล่แล้วทาเคมิจิเลยตัวอ่อนสุดๆไปเลย

"เอาล่ะ คาบพละวันนี้เราจะเล่นซอฟบอล ไปจับคู่แล้วอบอุ่นร่างกายก่อนนะ"

"ทาเคมิจิจับคู่กัน"

"เอาสิทาคุยะ"

พอจับคู่กับเพื่อนสมัยเด็กแล้วพวกเขาก็ไปยืดเส้น
ยืดสายก่อนเริ่มเรียน ทาคุยะนั่งบนพื้นโดยมีทาเคมิจิช่วยดันหลัง

"ทาคุยะนายตัวแข็งไปไหม! แทบไม่ขยับไปด้านหน้าเลย"

"ช่วยไมาได้นี่นา โอ้ยๆๆ พอแล้วทาเคมิจิหลังฉันจะหักแล้ว!!"

"นายต้องออกกำลังกายเยอะๆหน่อยนะ มาดันหลังให้ฉันหน่อย"

"ครับๆ"

ทาคุยะได้แต่ยิ้มแห้งกับความตัวแข็งของเขา
ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา แล้วทาเคมิจิจะดีกว่าเขาสักแค่ไหนกัน ผู้ชายเหมือนๆกันก็ต้องหลังแข็งเป็นธรรมดาสิ!

ร่างของทาเคมิจินั่งลงบนพื้น ทาคุยเอามทอวางไว้ก่อนจะค่อยๆกดหลังเพื่อนผมทองให้โน้มลงไป

โน้มลงไป

โน้มลงไปอีก

เอ๊ะ ยะยังโน้มลงไปไดีอีกหรอ

ดะ เดี๋ยวสินี่มันโน้มเยอะไปหน่อยไหม
"กดแรงๆได้เลยน่าทาคุยะ มันยังโน้มได้อีก"

เพื่อนสมัยเด็กผมสีฟางกลืนน้ำลาย เอาก็เอา เขาจัดการใช้แรงทั้งหมดดันหลังทาเคมิจิจนโน้มจนหน้าแนบไปกับพื้น

โอ้วชิบละ นะนะนะนี่เขากดหลังแรงไปจนเพื่อนสมัยเด็กตัวหักแล้ว!!!

"เห็นไหมมันยังโน้มได้ ทาคุยะ ทาคุยะ?"

เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย
ทาเคมิจิเลยหันหลังกลับไปมอง ก็เห็นทาคุยะหน้าซีด สติสตังและวิญญาณหลุดจากร่าง คนผมทองรีบหันขวับไปหาอาจารย์ทันที

"อาจารย์!!! ทาคุยะเป็นลมไปแล้ว!!!"

"ยังไม่ทันเริ่มคาบเรียนเลยนะ! เป็นลมตั้งแต่อบอุ่นร่างกายได้ไง!!"

...

"ไหวไหมทาคุยะ"

"ยังไหวน่าทาเคมิจิ ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ"
หลังจากทาคุยะเป็นลมในคาบพละ เพื่อนสมัยเด็กผมสีฟางคนนี้ก็โดนหิ้วปีกเข้าห้องพยาบาลทันที ให้ตายสิทำเอาทาเคมิจิใจหายใจคว่ำหมด ก็รู้ว่าร่างกายอ่อนแอแต่ไม่คิดว่าช็อคแล้วจะเป็นลมได้ขนาดนี้

"เฮ้อ นายจำไม่ได้หรอว่าฉันเรียนบัลเล่ตั้งแต่เด็กน่ะ จะตัวอ่อนแบบนั้นก็ไม่แปลก"

"ก็คนมันลืมนี่"
"แต่สุดยอดเลยนะทาคุยะ เป็นลมตั้งแต่อบอุ่นร่างกาย อจตกใจกันหมด"

"หนวกหูน่ายามากิชิ"

"ฮ่าๆๆ แต่ว่านะทาเคมิจินายเคยเรียนบัลเล่ด้วยหรอ"

"เคยสิอั๊คคุง แต่ตอนนี้เลิกไปแล้วล่ะ ไม่ใช่ทาง"

พอได้ยินคำตอบนั้นอัตสึชิก็ตาวาว ไม่เคยรู้ด้านนั้นของทาเคมิจิมาก่อนเลยแฮะ อยากเห็นหมอนี้ตอนเต้น
บัลเล่จังเลยนะ

"อยากเห็นนายตอนเต้นบัลเล่จัง" คนผมแดงสะดุ้งโหยงตกใจนึกว่าตัวเองหลุดปากพูดที่ไหนได้ยามากิชิพูดแทน

"ที่บ้านทาเคมิจิน่าจะมีรูปกับวิดีโออยู่ ดูไหม"

"ดู!!"

"ไม่! ไม่มีทาง!! มันตั้งแต่เด็กๆแล้ว น่าอายจะตายไป!!"

"ไม่เห็นเป็นไรเลยยย"

"ไม่-มี-ทาง! นี้คือคำขาด!!"
คนผมทองจัดการไล่เตะตูดยามากิชิกับมาโคโตะที่ดึงดันจะไปดูรูปให้ได้แบบไม่คิดจะยอมแพ้ สุดท้ายพอโดนตื้อทาเคมิจิเลยต้องจำใจพาเหล่าแก๊งมิโซจูมาดูอัลบั้มรูปตอนเด็กๆ

"ฮ่าๆๆๆ ทาเคมิจิตอนเด็กๆแก้มเยอะชะมัด ยังกับมารชเมลโล่ว!!"

"เหมือนกระรอก ไม่สิแฮมสเตอร์ที่เอาอาหารไว้ตรงแก้มมากกว่า"
"เงียบน่า! ถ้าพวกนายจะมาหัวเราะรูปฉันตอนเด็กๆก็กลับบ้านไปไม่ต้องมาดูฉันตอนเรียนบัลเล่เลบ"

"โอ้ย ขอโทษ อย่าโกรธกันน่าทาเคมิจิ ขอดูหน่อยนะ นะๆๆๆ"

"ฉันให้อั๊คคุงดูคนเดียว"

"ม่ายยยย ไม่งอนเส้ทาเคมิจิ!"

พอเห็นภาพตรงหน้าแล้วทาคุยะก็หลุดหัวเราะออกมา ให้ตายสิทำตัวเป็นเด็กกันทุกคนเลย
สุดท้ายพวกแก๊งมิโซจูได้ยลภาพทาเคมิจิในวัยเด็กสมัยเรียนบัลเล่ได้ในที่สุด อั๊คคุงคือต้องเสหน้าไปทางอื่นเลย ให้ตายสิหมอนี้ตอนเด็กๆน่ารักชะมัดหัวใจจะวาย

"โหหหห สุดยอด นายกระโดดอย่างสูง"

"เรียนบัลเล่ก็ต้องกระโดดแบบนั้นให้ได้สิ"

"นายยังทำได้อยู่ไหม?"

"ได้นะ"

"เชดเข้โคตรเท่เลย!"
ทั้งๆที่มาโคโตะจะกระตือรือร้นเฉพาะเรื่องผู้หญิงเท่านั้นไม่รู้มำไมหมอนั้นถึงดูสนใจเรื่องที่เขาเรียนบัลเล่ขนาดนี้

"จะว่าไปทาเคมิจิ"

"ว่าไงยามากิชิ"

"ถ้นายเรียนบัลเล่ตั้งแต่เด็ก แปลว่านายตัวอ่อนมากๆ ขาก็ต้องมีแรงโดดมากๆด้วยนะสิ"

"ก็ใช่?"

บัลเล่ต์เป็นการแสดงที่ต้องใช้ขาเป็นหลัก
ไม่แปลกที่นักบัลเล่ต์จะมีแรงขาที่มาก นอกจากนี้ทั้งความยืดหยุน การสปริงตัว แรงกระโดดเหล่าบัลเลริน่าก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร

"ถ้าอย่างนั้นทำไมตอนที่นายต่อยตีนายถึงใช้หมัดไม่ใช่ลูกเตะแทนล่ะ"

"ฮะ??" ทั้งสามคนหันมามองยามากิชิเป็นตาเดียว

"คือนายตัวอ่อน กระโดดก็สูง แรงที่ขาก็เยอะแทนที่+
จะใช้หมัดเพียวๆนายไม่ลองใช้ลูกเตะแทนละ"

"แบบไมกี้คุงนะหรอ?"

"ใช่! แบบไมกี้เลย ถ้านายใช้ลูกเตะนักบัลเล่ต์มันจะต้องสุดยอดมากแน่!"

ทาเคมิจิก้มหน้าครุ่นคิด ไอเดียนั้นก็ไม่แย่แต่ทำไมเขาไม่นึกถึงมาก่อนนะ ทั้งแรงถีบ แรงโดดและพลังขาของเขาก็ไม่ได้น้อยหน้าใครเลย มันเอามาเป็นไม้ตายได้!!
"แต่ให้ตายสิ นี้เป็นครั้งแรกเลยที่ยามากิชิพูดอะไรฉลาดๆ!"

"ฝนตกแน่ๆ ไม่สิพายุหิมะเลยล่ะ!!"

"ฉันเตรียมเข้าหลุมหลบภัยดีกว่า

"พวกนายยยยยยย"

เสียงหัวเราะดังคึกคักไปทั่วบ้านฮานากาคิ เจ้าของบ้านมองยามากิชิกำลังไล่ฟาดปากพวกคนปากเสียด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าเมื่อไรก็ทำตัวเป็นเด็กๆตลอดเลบ
หฃังจากวันนั้นทาเคมิจิก็ไปฝึกการต่อสู้แบบใช้ขามากขึ้น คำแนะนำของยามากิชิเรียกได้ว่ามีประโยชน์มากพอได้ลองใช้ลูกเตะแล้วมันถนัดกว่าต่อยตั้งเยอะ!! ถึงจะไม่เก่งเท่าไมกี้คุงแต่มันก็เรียกได้ว่าสุดจ๊าบ! แถมตอนฝึกก็ช่วยคุณแม่สอนเด็กๆในคลาสได้เงินค่าขนมมาอีกหนึ่งกรุบ จะทางไหนก้ดีทั้งคู่เลย
"ช่วงนี้ดูอารมณ์ดีจังนะคู่หู"

"อื้ม! ฉันเพิ่งเจอวิธีต่อยตีแบบที่ถนัดน่ะ! ฮึๆๆ"

"โฮ งั้นสงครามแก๊งครั้งต่อไปจะตั้งตารอดูเลยล่ะ" บาจิพูดพร้อมเดินมากอดคอทาเคมิจิโดยที่คาสึโทระก็เดินขนาบข้างมายืนใกล้ๆ

"เดี๋ยวพวกนายได้ตาค้างแน่!"

"รอชมเลยล่ะ"

"เฮ้ พวกนายอย่าจิ๊กสมาชิกหน่วยอื่นไป
สิ ทาเคมิจจิอยู่หน่วยฉันนะ"

"มิทสึยะขี้งกจังนะ"

"ฉันไม่ได้งก แต่ทั้งพวกนายทั้งไมกี้เอาแต่ฉกทาเคมิจจิไปทางนู้นทีทางนี้ทีจนคนในแก๊งจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าหมอนี้อยู่หน่วยฉัน"

"ใช่ๆทากะจังพูดถูก!"

หัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยสองเดินมาดึงคนตัวเล็กผมทองที่ชอบโดนคนอื่นลากไปมาตามใจ
ทาเคมิจจิหัวเราะแห้ง หลังจากศึกฮาโลวีนโชกเลือดบาจิคุงกับคาสึโทระก้ชอบมาแวะมาวนเวียนอยู่รอบๆเขาตลอดเลย จิฟุยุผู้สถาปนาตัวเองเป็นคู่หูปกติก็ตัวติดกันอยู่แล้วยิ่งติดหนักกว่าเดิม แถมยังโดนสามคนนี้ลากไปไหนมาไหนบ่อยมาจนตอนนี้สมาชิกในโตมันได้แต่มึนงง หมอนี้อยู่หน่วย2หรือหน่วย1กันแน่
ตอนแรกบาจิกับคาสึโทระก้ไปขอไมกี้ให้ทาเคมิจจิย้ายมาหน่วยตัวเอง แต่เพราะเหตุผลหลายๆอย่างของไมกี้ เพื่อนใหม่ผมทองคนนี้เลยยังอยู่ที่หน่วย2เหมือนเดิม แน่นอนว่าการตัดสินใจนั้นทำให้มิทสึยะอยากบะเหมาไทยากิมาประเคนให้หัวหน้าหมดเลย เป็นครั้งแรกเลยที่หมอนี้ทำตัวฉลาดไม่งอแงเหมือนเด็ก!
แต่ถึงอีกฝ่ายจะไม่ได้ย้ายมาพวกบาจิก็ไม่ถอดใจยังติดทาเคมิจจิหนึบยังกับหมากฝรั่งที่มิทสึยะและฮัคไคต้องมาตามแงะ(?)จากตัวสมาชิกหน่วยตัวเอง

สงครามแก๊งครั้งต่อมามาเร็วกว่าที่คิด แก๊งโตมันเดินเข้ามาในลานกว้างที่ถูกทิ้งร้างพร้อมอีกแก๊งที่เดินเข้ามาประจันหน้า คู่ต่อสู้ของพวกเขาครั้งนี้
เป็นแก๊งบ้าบิ่นไม่กลัวตายแก๊งหนึ่งที่ชื่อไททัน และสมาชิกในกลุ่มล้วนมีแต่เด็กม.ปลายร่างสูงใหญ่กล้ามล่ำบึกสมชื่อแก๊ง

พอทุกคนในโตมันประจำตำแหน่งมิทสึยะก็รีบดึงทาเคมิจจิไว้ใกล้ตัวก่อนจะโดนพวกอีแร้ง(?)โฉบสมาชิกผมทองคนนี้ไปอีก หน่วย1สมาชิกก็มีตั้งเยอะยังจะมาแย่งคนหน่วยเขาอีก!
"อยู่ใกล้ๆพวกฉันไว้นะทาเคมิจจิ" เดี๋ยวพวกอีแร้งมาฉกนายไปอีก

"ไม่ต้องห่วงหรอกมิทสึยะคุง ฉันไม่โดนฃ้มง่ายๆหรอกรอบนี้!"

"ฮึดดีจังน้าทาเคมิจจิ~"

ฮัคไคยิ้มพร้อมโถมตัวไปพิงคนผมทองจนเกือบล้มหน้าทิ่ม สูงจะตายอยู่แล้วยังจะมาพิงอีก!

"อย่าพิงสิฮัคไคจะล้มแล้ว!!"

"ฮ่าๆ นายตัวจิ๋วจริงๆ"
ไม่รู้ทำไมแต่ตอนนี้หน่วยสองกลับมีบรรยากาศนุ่มนิ่มลอยฟุ้งออกมาจนดูไม่เหมือนแก๊งนักเลง เหมือนครอบครัวสุขสันต์ออกมาปิกนิกกันจนคนอื่นรู้สึกมึนงง หัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยหนึ่งได้แต่กัดผ้าเช็ดหน้า อ๊ากก อิจฉาโว้ย!

ไมกี้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าก้ชอบหันหลังมามองบรรยากาศนุ่มฟูของหน่วย2บ่อยๆ
จนโดนดราเค่นเขกหัวใส่ คู่ต่อสู้อยู่ด้านหน้าโว้ย! หันไปมองด้านหน้า!!

ผู้เฝ้ามองในศึกครั้งนี้ก็มีสองพี่น้องเจ้าเสน่ห์แห่งรปปงหงิอยู่ด้วยเหมือนเคย เมื่อสมาชิกครบทุกคนแล้วศึกระหว่างแก๊งก็ได้เริ่มขึ้น!

ไมกี้วิ่งนำไปจัดการบอสก่อนคนแรกพร้อมกับคนอื่นที่พุ่งไปต่อยตีกับสมาชิกของอีกแก๊ง
ทาเคมิจจิเองก็พุ่งไปต่อยตีด้วย แต่ให้ตายสิ! อีกแก๊งคือสูงเป็นบ้าเลยเขาตัวแค่นี้จะไปต่อยถึงได้ยังไง หมัดก้ไม่ค่อยจะแม่น งั้นก้คงช่วยไม่ได้สินะ!

คนผมทองถอยหลังกลับมาตั้งตัว ฝ่าเท้าซ้ายยันพื้นทรงตัวให้มั่น ใส่แรงลงไปบนพื้น เท้าขวายกขึ้นสูงกระโดดเตะเสยปลายคางหนึ่งในสมาชิกแก๊งไททัน
พั๊ว!!

ลูกเตะแรงๆของทาเคมิจจิประเคนเข้าที่ปลายคาง อีกฝ่ายเซถอยหลังไป เจ้าของฝ่าเท้าเมื่อครู่ได้แต่ลุ้นว่าจะล้มไหม ลูกเตะนั้นเต็มแรงเขาแล้วนะ

โครม!

และมันก็เป็นไปตามที่หวัง หนึ่งในสมาชิกแก๊งล้มลงไปนอนกองบนพื้นหลังจากโดนเสยปลายคาง ถึงจะไม่สลบแต่ก็ทำเอาอีกฝ่ายตาลอยมึนงงไปไม่เป็น
เยี่ยม! ลูกเตะได้ผล!! ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ตั้งตัวทันทาเคมิจจิก็ประเคนเข่าเข้าที่หน้าอีกรอบจนสลบเหมือด

ยามากิชิพูดถูก พลังขาของเขามีเยอะมากกว่าหมัด การหันมาใช้ลูกเตะแบบนี้มันดีกว่าเยอะ

เมื่อเห็นแบบนั้นทาเคมิจจิก็ยิ้มร่า วิ่งโร่ไปจัดการสมาชิกอีกแก๊งทันที แต่เพราะยังไม่ชำนาญเท่าไร
เลยทำให้โดนสวนกลับหลายรอบอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความอึดถึกทนของเขาทำให้ไม่ร่วงไปง่ายๆและยังสามารถจัดการพวกนั้นได้ด้วยลูกเตะแรงๆอีกด้วย

ทาเคมิจจิทั้งหมุนตัวกระโดดถีบยอดหน้า เตะเสยปลายคาง ฉีกขาก้มตัวลงไปหลบหมัดและลูกเตะได้อย่างงดงาม พื้นฐานบัลเล่ต์ที่เคยเรียนมาไม่เสียเปล่าแม้แต่นิด!
เส้นผมสีทองปลิวสไวไปทุกการเคลื่อนไหว ฝ่าเท้าขยับย่างก้าวออกไปอย่างชำนาญ ร่างกายโอนอ่อนหลบการโจมตีได้อย่างงดงาม ขาที่บอบบางแต่แข็งแกร่งก็ตวัดเตะแหวกสายลมออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าฉีกยิ้มกว้างออกมา ร่างของสมาชิกหน่วยสองที่ร่ายรำอยู่ในลานกว้างดึงดูสายตาของนักเลงรอบนอกให้มองเป็นตาเดียว
ราวกับลานกว้างที่เต็มไปด้วยฝูงชายฉกรรจ์ทั้งหลายกลายเป็นเวทีแสดงโชว์ขนาดใหญ่ ร่างของคนผมทองที่ตวัดขาเตะก็เห็นเป็นภาพของนักบัลเล่ต์ที่กำลังร่ายรำอยู่บนนั้นโดยมีแสงสปอร์ตไลท์ฉายลงมายัง เสียงต่อยตีก็เหมือนได้ยินเสียงเครื่องดนตรีวงออเครสตร้าบรรเลงแทนเสียแบบนั้น

มันช่างงดงามเหลือเกิน
นี่มันการต่อยตีจริงหรือ ทำไมมันเหมือนกับมาดูการแสดงบัลเลต์ในโรงละครชั้นสูงก็ไม่ปาน สมาชิกหน่วยสองที่อยู่รอบนอกก็โดนการต่อสู้ของฮานากาคิดึงดูดสายตาไว้จนแทบลืมว่าตัวเองอยู่ในการต่อสู้อยู่

ส่วนทางด้านมิทสึยะและฮัคไคที่อยู่ใกล้ๆคนผมทองพอเห็นทาเคมิจจิออกฝีไม้ลายมือก็แทบจะหยุดหายใจ
ให้ตายสิ ทาเคมิจจิแอบไปซุ่มฝึกซ้อมมาตอนไหน! พอดูจำนวนคนที่อีกฝ่ายจัดการล้มได้แล้วก็ยิ่งทำให้พวกเขาขนลุกเกรียวและตาวาววับมากกว่าเดิม

ทาเคมิจจิไม่ใช่คนอ่อนแอพวกเขานั้นรู้ดี แต่ว่าหมอนั้นไม่เคยต่อสู้แบบนั้นมาก่อนเลย ปกติคนผมทองนั้นจะเน้นใช้หมัดในการต่อยตีมากกว่าเหมือนคนทั่วๆไป
แต่พอหมอนี้มาใช้ขาและลูกเตะนี่มันสุดยอดมาก มิทสึยะกลืนน้ำลายดังเอื้อกเมื่อเห็นเรียวขานั้นยกขึ้นมาสูงเตะก้านคอของนักเลงของอีกแก๊ง ให้ตายสิ หมอนี้แอบไปฝึกมาตอนไหนกัน

การเปิดตัวสไตล์การต่อสู้ใหม่ของทาเคมิจจิไม่ได้ดึงดูดสายตาคนหน่วย2เท่านั้น บาจิและคาสึโทระก็มองคนตัวเล็กตาเป็นมัน
โดยที่มือก้ยังคงต่อยคู่ต่อสู้โดยไม่ยั้งแม้แต่นิด ส่วนใบหน้านั้นหันมาจ้องคนผมทองเป็นตาเดียว จิฟุยุผู้สถาปนาตัวเองเป็นคู่หูก็ยังต้องอ้าปากค้าง อะไรเนี่ยคู่หู! ทำไมฉันไม่เห็นรู้มาก่อนเลย!! การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ทุกคนตกใจอย่างมากไม่เว้นแม้แต่ไมกี้

ทันทีที่เห็นลูกเตะสูงไมกี้ก็
ตาค้าง ใบหน้าแสดงความดีอกดีใจอย่างปิดไม่มิด ทั้งมือเท้าก็ยังกระทืบหัวหน้าของแก๊งไททันโดยไม่คิดจะปรายตามอง ถ้าไม่ติดว่าอยู่ระหว่างสงครามแก๊งนะไมกี้คงพุ่งไปหาเพื่อนผมทองทันทีที่อีกฝ่ายตวัดขาเตะไปแล้ว แต่หน้าที่มันค้ำบ่าทำให้ชายที่ถูกเรียกว่าไร้เทียมทานปลีกตัวไปไม่ได้ น่าหงุดหงิดชิบ
งั้นไม่อ้อมมือดีกว่า จะได้ไปหาทาเคมิจจิเร็วๆ เมื่อคิดแบบนั้นไมกี้ก้จัดการเข้าโหมดmassacre จัดการสมาชิกอีกแก๊งให้ราบเป็นหน้ากลองภายในเวลาอันรวดเร็วจนดราเค่นถึงกับอดอึ้งทึ้งไม่ได้ รู้ว่าหมอนี้ไร้เทียมทานแต่ว่าแบบนี้มันสุดยอดไปหน่อยไหม

หลังจากนั้นแก๊งไททันก็ประกาศขอยอมแพ้ สมาชิกใน
แก๊งต่างล้มหมอนนอนเสื่อกันราบคาบแบบนี้ไม่ประกาศยอมแพ้ก็กะไรอยู่ ทาเคมิจจิหายใจเข้าลึกๆ ไมกี้คุงสุดยอดเลยนะ จัดการคนตั้งเยอะด้วยตัวคนเดียว แต่ทำไมวันนี้ดูคึกแปลกๆ

"ทา-เค-มิจ-จิ!!!"

"เฮ้ยๆไมกี้นายคิดจะไปไห-- อย่าโดดกอดทาเคมิจจิแบบนั้นสิโว้ยเดี๋ยวล้มหน้าทิ่มทั้งคู่หรอกไอ้เจ้าบ้า!"
**นอกเรื่อง เราแต่งเรื่องนี้ต่อเรื่อยๆนะคะ มีลงช้าหน่อยเพราะติดงานมหาลัย การบ้านท่วมหัวแล้ววววว ไม่เทฟิคนี้แน่นอนค่า มะต้องห่วงงง**
เมื่อสิ้นคำพูดไมกี้ก้พุ่งกระโจนมาหาทาเคมิจจิจนอีกฝ่ายเซเกือบล้ม ถ้าไม่ได้มิทสึยะกับฮัคไคช่วยจับไหล่กับแขนไว้นะเขาว่าคงได้ล้มหน้าทิ่มสมพรปากดราเค่นคุงแน่ๆ

"ทาเคมิจจินายไปฝึกเตะสูงแบบนั้นตั้งแต่ตอนไหนทำไมไม่เห็นบอกฉันเลย!"

"ก็มันเป็นเซอรไพรส์นี่นา แฮะๆ ไมกี้คุงคิดว่าเป็นไงบ้าง?"
"สุดยอดมากเลย! ชอบมากๆ"

ไมกี้ยิ้มกว้างพร้อมรัดแขนกอดแน่นจนทาเคมิจจิหายใจหายคอไม่ออก

"พอได้แล้วไมกี้เดี๋ยวทาเคมิจจิขาดใจตายหรอก"

"ใช่ๆ พอได้แล้วน่า"

สองมังกรคู่แห่งโตมันต้องมาแงะหัวหน้าตัวเองจากทาเคมิจจิ นี่นายเป็นกาวรึไงทำไมตัวติดหนึบแบบนี้! พอแงะออกมาได้แล้วไมกี้ก้งอแงใหญ่
"ชิ แต่จะว่าไปทาเคมิจจิฉันไม่เห็นรู้เลยว่านายเรียนคาราเต้ด้วย!"

"ครับ?"

"อ้าวไม่ใช่หรอ เห็นนายเตะสูงแบบนั้นแล้วนึกว่านายเรียนพวกอะไรแบบนั้นสะอีก" ไมกี้เอียงคอ

"เปล่าครับผมไม่ได้เรียน"

"แล้วนายเรียนอะไรล่ะ เทควันโด"

"ไม่ใช่ครับดราเค่นคุง"

"มวย?"

"นั้นก้ไม่ใช่นะจิฟุยุ"
"ยิวยิทสึ!"

"ไม่ใช่ครับบาจิคุง"

"คาโปอะไรสักอย่าง?"

"คาโปเอร่า แต่นั้นก็ไม่ใช่เหมือนกันครับคาสึโทระคุง!"

"กังฟู"

"ยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลยนะ!!"

"งั้นนายเรียนอะไรล่ะ พวกฉันจนปัญญาแล้วนะ"

ฮัคไคเอามือเกาหัว ที่พูดๆมาไม่มีอันไหนถูกเลยสักอัน แล้วหมอนั้นไปเรียนลูกเตะสูงมาจากไหนกันเนี่ย
"บัลเลต์รึเปล่าทาเคมิจจิ"

มิทสึยะที่เงียบมานานเอ่ยปากพูดออกมา ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน บัลเลต์? แต่มันไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้สะหน่อย

"เรียนบัลเล่ต์? ไม่น่าเป็นไปได้นะ ปกติมีแต่ผู้หญิงเรียนนี่"

"นักบัลเลต์ชายก็มีนะบาจิ"

"อ้าวหรอ"

"ก็ใช่นะสิ" คนผมสีไลแลคกลอกตามองบน
แต่ถึงยังไงเรียนบัลเล่ต์แล้วเอามาใช้ต่อยตีเนี่ยนะมันฟังดูเหลือเชื่อไปหน่อย พอไมกี้หันมาหาทาเคมิจจิอยู่ๆก็ชะงักค้างไป ทุกคนพอเห็นหัวหน้าโตมันเครื่องค้างไปก้หันไปมองคนผมทองกันเป็นตาเดียว

ใบหน้าของฮานากาคิตอนนี้คือหน้าแดงไปถึงใบหู ดวงตาสีฟ้าสวยสั่นระริก ปฏิกิริยาแบบนี้มันหรือว่า!!
"มิทสึยะคุงรู้ได้ไง..."

เสียงแผ่วเบาดังมาจากริมฝีปากแต่มันก็ดังมากพอที่ทุกคนจะได้ยินชัดแจ๋วเลย ทุกคนในที่นี้คือตาค้างหนักกว่าเดิม

"คือผม เอ่อผม"

ทาเคมิจจิละล่ำละลั่กไม่รู้จะพูดยังไงดี ตอนนี้ความคิดในหัวมันตีกันหมดจนยุ่งเหยิง รู้อีกคนตาฟ้าก็มีน้ำตาก็คลอเบ้าเต็มหน่วยเสียแล้ว
(ด้านบนลืมเขียนว่าทั้งสองแก๊งแยกย้ายจากสถานที่หมดแล้วเพราะตำรวจมา ตอนนี้พวกไมกี้มาแหมะกันอยู่ที่ศาลเจ้า)

สรุปพวกหัวหน้าหน่วยแต่ละคนต้องวิ่งแจ้นมาปลอบทาเคมิจจิกันจ้าละหวั่น พอคนผมทองใจเย็นลงแล้วก็มานั่งจับเข่าคุยกัน

"เอ่อ ขอโทษที่ร้องนะครับ..." ทาเคมิจจิก้มหน้างุด

"ไม่เป็นไรๆ"
ถึงดราเค่นคุงจะบอกไม่เป็นไรแต่เขาก็รู้สึกผิดไม่ได้อยู่ดี ดันสติแตกร้องไห้ไปสะได้ มันน่าอายสุดๆ

"แล้วเอ่อ ทาเคมิจจิที่มิทสึยะบอกว่านายเรียนบัลเล่ต์นี่จริงไหม"

"จริงครับ..."

คนผมทองตอบอุบอิบเสียงเบา ทุกคนหันมามองแบบไม่กะพริบตา โอ้ย อย่าจ้องเขาเป็นตาเดียวกันสิ! มันเขินนะรู้ไหม!!
"นายเรียนตั้งแต่ตอนไหน"

"ตั้งแต่จำความได้ครับ"

"แล้วตอนนี้ยังเรียนอยู่ไหม"

"ไม่ครับ แต่ก็มีไปช่วยคุณแม่สอนเด็กๆในคลาส"

"แม่นายสอนบัลเล่ต์? งั้นก็ไม่แปลกที่นายจะได้เรียนตั้งแต่เด็ก"

"แล้วทำไมนายไม่เคยบอกพวกเราล่ะคู่หู?"

"มัน อ่า" ทาเคมิจจิเอามือเกาแก้มเบาๆ "มันเขินนี่"
พวงแก้มนิ่มขึ้นสีแดงจางๆ คนผมทองสะบัดหน้านีไปทางอื่นอย่างเขินอาย มือก้ยกขึ้นมาปืดหน้าแต่บังใบหูแดงแจ๋ไม่ได้ ท่าทีนั้นทำเอาทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าน่ารัก

"ไม่เห็นน่าอายตรงไหนเลยสุดยอดจะตายคู่หู! เอาบัลเล่ต์มาใช้ประยุกต์ใช้กับการต่อยตีนี่นายสุดยอด!!"

"เอ๊ะ อะ-- เอ่อขอบคุณ+
เอาจริงๆมันเป็นไอเดียยามากิชิด้วย” เขาเอามือเกาแก้ม พอโดนชาแบบนี้แล้วเขินชะมัด

“ยามากิชิ? เดี๋ยว พวกมิโซจูรู้หรอว่านายเคยเรียนบัลเล่ต์”

“ทาคุยะรู้ตั้งนานแล้วเพราะเป็นเพื่อนสมัยเด็ก พวกแก๊งมิโซจูเพิ่งรู้ไม่นานมานี้เอง”

ไมกี้ได้ยินแบบนั้นแล้วขมวดคิ้ว มิโซจูมีสิทธิ์รู้ก่อนเขา!
ไม่เห็นยุติธรรมเลย!! ดราเค่นที่เห็นอาการหวงแบบเด็กๆของไมกี้แล้วได้แต่ถอนหายใจ สู้ๆนะทาเคมิจจิเรื่องนี้ฉันช่วยไม่ได้

“ไม่แฟร์เลยทาเคมิจจิ! ทำไมบอกพวกฉันช้ากว่าพวกนั้นอะ!”

“ก็มันเป็นเซอร์ไพรส์ไงครับไมกี้คุง ถ้าบอกก้ไม่สนุกสิ”

ถึงจะได้ยินว่ามันเป็นเซอร์ไพรส์แต่ไมกี้ก้ยังไม่หายงอน
อยู่ดี ทาเคมิจจิค่อจนปัญญาทำไมถึงไม่หายงอนสักทีเนี่ย

“โถ่ ผมอุตส่าห์เก็บเป็นความลับเพราะนึกว่าไมกี้คุงจะชอบที่ผมเปลี่ยนสไตล์การต่อยตีแบบเดียวกับไมกี้คุงสะอีก”

“เมื่อกี้นายว่าไงนะทาเคมิจจิ”

ไมกี้ตาวาวหันขวับมาหาเพื่อนผมทองจนคอแทบหัก ทาเคมิจจิสะดุ้งตกใจ หวาอะไรเนี่ย ทำไมอยู่ๆถึง
ตื่นเต้นล่ะเนี่ย ชักเริ่มไม่เข้าใจความคิดไมกี้คุงแล้วนะเนี่ย

“ก็ปกติไมกี้คุงใช้ลูกเตะนี่ และบัลเล่ต์ที่ผมเรียนมามันเหมาะมาประยุกต์กับการเตะมากกว่า ผมเลยเปลี่ยนสไตล์ต่อยตีเป็นแบบเดียวกับไมกี้คุงไง”

เปลี่ยนสไตล์การต่อยตีเป็นแบบเดียวกับเขา กับเขา กั บ เ ข า (เสียงเอคโค่ยาวๆไป)
ไมกี้ที่ตอนแรกงอนตุ๊บป่องกลับมายิ้มแป้นแล่นจนแก้มแทบฉีก เหล่าสมาชิกรุ่นก่อตั้งเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วรู้สึกขนลุกเหงื่อตกกันเป็นแถบๆ เกิดมาไม่เคยเห็นไมกี้กลมันยิ้มแบบนั้นเลยนะเว้ย!!

“งั้นหรอๆ~~ อื้ม~~”

“ไม่โกรธแล้ว.. ใช่ไหมครับ?”

“ใครโกรธกันทาเคมิจจิ!! ไม่มี๊! ฉันไม่เคยโกรธนายเลย!”
ตอแหล ทุกคนในที่แห่งนี้นึกกันเป็นคำเดียวกัน เมื่อกี้ใครกันยังงอนเป็นเด็กประถมฮะ ก็นายไงไมกี้! เปลี่ยนสีไวกว่ากิ้งก่าอีก แต่ทาเคมิจจิที่เห็นว่าไมกี้คุงไม่โกรธแล้วก็ยิ้มกว้าง

“จะว่าไปทาเคมิจจิ นายมีพวกรูปหรือวิดีโอตอนเรียนบัลเล่ต์ไหม?”

มิทสึยะที่เงียบมาตั้งนานเอ่ยถามขึ้นมา
พอได้ยินคำถามนั้นคนผมทองก็ยิ้มแห้ง ถามเหมือนพวกมิโซจูตอนรู้ว่าเขาเรียนบัลเล่ต์เลย มันน่าสนใจตรงไหนเนี่ย!!

“มีครับ แต—”

“โอเควันนี้ไปนอนบ้านทาเคมิจจิกันเถอะ”

“ผมไม่ได้บอกสักคำเลยว่าจะให้ดู!!”

“ไม่ทันแล้วล่ะทาเคมิจจิ” จิฟุยุเดินมาตบไหล่ทุกคนในที่นี้คือขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์เตรียม
บึ่งไปบ้านเขาทันที สมาชิกหน่วยสองได้แต่น้ำตาตกใน ทำไรไม่ได้เลย

พอทุกคนขับมาถึงบ้านก็รีบคะยั้นคะยอให้ทาเคมิจจิเอารูปมาโชว์ทันที คนแบบเขามีหรือจะปฏิเสธได้ เจ้าของบ้านตัวน้อยก็มีแต่ต้องเอาอัลบั้มกับวิดีโอเก่าๆมาเปิดฉายให้ทุกคนดู เอออยากดูก็ดู ดูให้หนำใจจนตาแฉะกันไปข้างเลย!!
“ทาเคมิจจิตอนเด็กๆน่ารัก! ตัวเล็กนิดเดียวเองงง”

ไมกี้ยิ้มร่ามองรูปอัลบั้มด้วยสีตาเอ็นดูขั้นสุด แน่นอนว่าทาเคมิจจิตอนนี้ก็น่ารักแต่ตอนเด็กๆมันน่ารักมากๆ! ผมสีดำฟูๆนุ่มนิ่ม ตาสีฟ้าโต แก้มป่องน่าจิ้ม แถมอยู่ในขุดบัลเล่ต์อีก น่ารักสุดๆไปเลยยย

แน่นอนว่าทุกคนในที่นี้ก็ไม่ได้เห็นต่าง
พวกเขาบอกเป็นคำเดียวว่าทาเคมิจจิตอนเด็กๆน่ารักมาก ถ้าเกิดมาดูรูปภาพของรุ่นก่อตั้งตอนเด็กๆไม่มีทางหลุดคำว่าน่ารักออกมาจากปากเด็ดขาด แต่คนผมทองนะไม่ใช่ มันน่ารักน่าเอ็นดูมากจนอยากมุดเข้าอัลบั้มไปอุ้มกลับบ้านเลย

“แต่แค่บัลเล่ต์อย่างเดียวทำให้นายมีแรงขาเยอะขนาดนั้นจริงดิทาเคมิจจิ”
“จริงครับบาจิคุง ทำไมหรอ”

“เปล่า ฉันแค่รู้สึกมันไม่น่าเชื่อน่ะว่าแค่บัลเล่ต์จะทำให้ต่อยตีแบบเดียวกับไมกี้ได้”

ทาเคมิจจิได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มค้าง แค่บัลเล่ต์งั้นหรอ เส้นเลือดบนหัวของเขาปูดโปน ออร่าพิโรธแผ่ออกมาเต็มที่จนทุกคนขนหัวลุก อะไรเนี่ย! ทะทาเคมิจจิ กะกำลังโกรธงั้นหรอ?
“แค่ยัลเล่ต์ มันทำไมหรอครับบาจิคุง”

ทาเคมิจจิพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ เขากำลังรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมากกำคำว่าแค่บัลเล่ต์เมื่อครู่นี้

“ไม่เอ่อ คือมัน แบบ ยังไงดีละ”

“บาจิคุงไม่คิดว่านักบัลเล่ต์จะมีแรงมากพอๆกับคนที่เรียนศิลปะการต่อสู้เลยสักนิดหรอครับ ฮืม?”

“มันก็…”
“การแสดงบัลเล่ต์ไม่ได้เป็นการแสดงง่ายๆแบบใครที่ไหนไม่รู้มาแสดงก็ได้นะครับ พวกเราต้องฝึกกันหนักแค่ไหนรู้ไหม ทั้งต้องฝึกความคล่องตัว ร่างกายต้องมีความยืดหยุ่น แรงกระโดดเราก็ต้องมีมากกว่าคนทั่วๆไปด้วยซ้ำ”

รอยยิ้มหวานๆระบายบนใบหน้า แต่น้ำเสียงไม่ได้หวานตามเลยแม้แต่นิด ส่วนคนปากพล่อย
แบบบาจิได้ตัวหดเหลือสองเซนแล้ว ไม่เคยเห็นทาเคมิจจิด้านนี้มาก่อนเลย นะนะน่ากลัวชิบหาย!/สั่นหงั่กๆ

“ฉะฉันไม่ได้พูดด้านนั้นทาเคมิจจิ! แค่แบบมันทึ่งอะ! ฉันใช้คำผิด!!”

หัวหน้าหน่วยหนึ่งรีบแก้ตัวจนลิ้นพัน ให้ตายสิเขาไม่ชอบทาเคมิจจิตอนโกรธแบบนี้เลย น่ากลัวกว่าตอนแย่งไทยากิไมกี้อีก!!
ทุกคนที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่สวดภาวนาให้แก่เพื่อนผมดำคนนี้ ถึงจะพยายามแก้ตัวแบบข้างๆคูๆก็เถอะแต่ไม่น่ารอดแน่

“อ้าว งั้นหรอครับ?”

แต่บังเอิญทาเคมิจจิดันเป็นคนจำพวกที่ว่าเชื่อคนง่าย ต่อให้เป็นข้ออ้างที่แถสีข้างถลอกก็ยังเชื่อได้ บาจิ จึงยังมีชีวิตรอดได้หายใจบนโลกอยู่อีกหนึ่งวัน
“รอดไปนะบาจิ”

“เฮอะๆ” บาจิ เคย์สึเกะสาบานว่าต่อจากนี้จะไม่มีทางพูดพล่อยๆเกี่ยวกับบัลเล่ต์แบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง!

แต่เอาจริงๆแล้วที่ทาเคมิจจิโกรธเมื่อครู่ทำเอาพวกเจาตกใจไม่น้อยเลย ปกติหมอนี้ไม่ได้โกรธคนว่ายเสียหน่อย แต่พอพูดเรื่องบัลเล่ต์แล้วเหมือนไปสับสวิตช์อะไรแปลกๆเข้าให้
แต่มันค่อนข้างน่าประหลาดใจมากเลยนะที่ทาเคมิจจิโกรธคำพูดพล่อยๆของบาจิ ปกติคนผมทองแสดงอารมณ์แบบนี้บ่อยสะเมื่อไร ถึงจะเคยเห็นบ้างแต่ส่วนใหญ่แล้วอีกฝ่ายจะโกรธเพื่อคนอื่นไม่เคยโกรธเพื่อตัวเองสักครั้งเลยนะ พอเห็นแบบนี้เลยค่อนข้างแปลกใหม่เลย

"แฮะๆ ขอโทษที่เข้าใจผิดนะครับ แฮ่ม แบบว่า
มันชอบมีคนชอบพูดในทำนองไม่ดีบ่อยเลยเผลอ"

เขาเกาแก้มตัวเองเบาๆ เพราะตอนเด็กๆเคยโดนคนจำพวกนั้นพูดแบบกดมาข่มจนรู้สึกแย่มาก

ทั้งๆที่ไม่เคยรู้แต่ก็ดันเอาแต่ปากดีพูดนู้นพูดนี้ตามใจตัวเอง จนกลายเป็นว่าพอได้ยินคำพูดที่มันคล้ายๆกันทาเคมิจจิก็จะเผลอหลุดนิสัยแย่ๆแบบนี้ไป ช่วยไม่ได้คนมัน
ระแวงจนติดเป็นนิสัยแล้วนี่นา!

"ไม่ต้องขอโทษหนอกทาเคมิจจิ บาจิมันปากพล่อยจริงๆนี่"

"ใช่ๆ"

"แฮะ แต่ก่อนหน้านั้นผมอยากถามนานแล้วว่ามิทสึยะคุงรู้ได้ไงหรอครับว่าผมประยุกต์มาจากบัลเล่ต์"

"ก็น้องสาวฉันมานะกับลูนะช่วงนี้กำลังเห่อบัลเล่ต์น่ะ เลยได้นั่งดูโชว์เป็นเพื่อนน้องบ่อยๆ+
พอเห็นท่าเตะสูงนายแล้วก็นึกถึงขึ้นมาทันที"

"เป็นงี้นี้เอง"

ได้ยินแบบนั้นทาเคมิจจิก็หัวเราะแห้ง หลังจากนั้นพวกเขาก็นัพูดคุยอยู่ที่บ้านทาเคมิจจิอีกสักพักก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านกลับช่องของตัวเอง

พอทุกคนออกไปหมดแล้วเด็กหนุ่มก็ล้มตัวลงนอนลนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน เขาหมดแรงขนาดจะ
ส่งข้อความไปให้พวกมิโซจูยังขี้เกียจเลย ไว้พรุ่งนี้ก็ละกัน

และในวันรุ่งขึ้นทาเคมิจจิก็โดนไมกี้ลากมาที่บ้านของอีกฝ่ายแต่เช้าโดย และหลังจากวันนั้นสมาชิกหน่วย2ผมทองคนนี้ก็จะโดนหัวหน้าแก๊งโตมันลากไปที่โรงฝึกที่บ้านทุกวัน แถมไมกี้ยังช่วยทาเคมิจจิฝึกท่าเตะสูงด้วยตัวเองอีกต่างหาก
ถามว่ามันดีไหมก็ดี ได้ฝึกลูกเตะเพิ่มแบบนี้ดีจะตาย แต่จะดีกว่านี้มากถ้าไมกี้คุงเลิกติดหนึบขนาดนี้!

จบ

เยะจบแล้วค่ะะะ ไม่คิดว่าฟิคอันนี้จะแมสนะเนี่ย5555 อยากเหนทาเควัยเด็กในชุดบัลเล่ต์จังน้าาา
เพื่อใครนึกไม่ออกเรื่องนักบัลเล่ตชายแป้งเลยเอาคลิปที่เปนเรฟมาให้ดูค่ะ ดูจำนวนการกระโดดนั้นสิคะ ละทาเคก้แรงเยอะเอามาประยุกต์รวมกันอีกนี้คือออ สุดยอดยิ่งกว่าใครเลย!
@threadreaderapp unroll plz

• • •

Missing some Tweet in this thread? You can try to force a refresh
 

Keep Current with 🎒🍀Lumina Luceat | สริ่มBDเดนตาย BD FOREVER 🖤🐉

🎒🍀Lumina Luceat | สริ่มBDเดนตาย BD FOREVER 🖤🐉 Profile picture

Stay in touch and get notified when new unrolls are available from this author!

Read all threads

This Thread may be Removed Anytime!

PDF

Twitter may remove this content at anytime! Save it as PDF for later use!

Try unrolling a thread yourself!

how to unroll video
  1. Follow @ThreadReaderApp to mention us!

  2. From a Twitter thread mention us with a keyword "unroll"
@threadreaderapp unroll

Practice here first or read more on our help page!

More from @Lumina_Luceat

28 Sep
คนเราจะเอาเนกไทตลคเพื่อไรคะ/กดตุ่มโอน Image
สีแบบ ทาเคอยู่สลิท ไม้/เค่นอยู่กริฟ/ไม่ก้เดิร์มแสตรง บาจิศังอยู่เร พี่มิทฮัฟ จิฟุอยู่โบซบาตง
น้องอยุ่สลิทได้ไงถามก่อน555555 สลิทผ่าเหล่าอะค่ะ น้องน่าจะไปอยู่กริฟ😂
Read 5 tweets
15 Sep
พุดคำเดียว วาคุอิคะ ทำไมอจไม่วาดให้ทาเคมิจจิๆไปกดแผลห้ามเลือดคะ!!!! ให้น้องถอดเสื้อแล้วเอาเสื้อไปห้ามเลือดก้ยังทัน!! ไม่ใช่ให้พี่เค่นเลือดไหลเป็นก็อกน้ำแบบเน้!! ยิ่งในตกเลือดยิ่งซึมเยอะด้วย ตั้งแต่บาจิละนะ วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเวลาโดนยิงหรือโดนแทงคือต้อง ห้าม เลือด โว้ย!!!!!!
*ฝนตก
ห้ามเลือดสิโว้ยไม่ใช่นั่งฟังคำสั่งเสีย หยุดหายใจก้ไปปั๊มหัวใจโว้บยยยยยย ฮืออออออออ
Read 4 tweets
14 Sep
นิโนะซังเปนหมอผี เนโครแมนเซ้อแน่ๆ!
ใดๆก้แล้วแต่โอซามุอันก่อนในธีมนี้คือน่ารักที่หนึ่งมาก
ปกติกุ้ดโอซาน้องจะค่อนข้างจืด แต่พอเปนธีมฮาโลสีนหรือแฟนตาซีน้องน่านะมากกกกก
Read 4 tweets
12 Sep
ส่วนใหญ่มีแต่คนแต่งทาเคสูบบุหรี่ ทำไมไม่มีไมกี้สูบบุหรี่บ้าง👀✨ #ไมกี้ทาเค #LuminaTRFanfic

ชินอิจิโร่เป็นคนติดบุหรี่เพราะงั้นแล้วไม่แปลกที่ห้องของพี่ชายคนนี้จึงมีบุหรี่ซุกซ่อนอยู่

ไมกี้มองห่อบุหรี่ที่ซ่อนอยู่ในห้องด้วยสายตาเบื่อหน่าย นี่พี่ของเขาสูบบุหรี่หรือกินเข้าไปกันเนี่ย
เก็บเท่าไรก็ไม่หมดสักที แต่เดิมทีแล้วจะซ่อนซองบุหรี่ไว้ทั่งห้องทำไม

ไม่สิ ชินอิจิโร่น่าจะวางทิ้งเรี่ยราดแล้วหาไม่เจอเลยซื้อห่อใหม่แน่ๆ เขาหัวเราะก่อนจะเก็บห่อบุหรี่เข้าไปฝนกระเป๋าตั้งใจจะเอาไปทิ้ง

"เฮ้ยไมกี้ เจอของหรือยัง จะถึงเวลาประชุมกันแล้วนะ"

"เจอแล้วเคนจิน กำลังไปหน่า!!"
ไมกี้เดินออกจากห้อง คร่อมบั๊บคู่ใจและโลดแล่นออกไปยังถนนยามค่ำคืน แสงไฟมากมายข้างทางส่องประกายงดงาม พวกเขาทั้งคู่ใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะมาถึงจุดหมาย

หัวหน้าแก๊งโตมันเดินขึ้นบันไดหินไปยังศาลเจ้าด้านบน สมาชิกมากมายยืนรอผู้เป็นหัวหน้าอย่างเป็นระเบียบ และการประชุมของแก๊งก็ได้เริ่มขึ้น
Read 20 tweets
10 Sep
กล้ามวาดยากมาก อีกนิดจะไปเรียนอานาโตมี่แพทยดุเรื่องกล้ามเนื้อละ55555555
การบ้านมอให้สตัดดี้จากเรฟค่ะ อจ.ให้โจทยคือซุปเป้อฮีโร่ที่แบบกล้ามเยอะๆ เลยหวยออกที่คุณเคลาสสสสส /นั่งเปิดkekkai sensenดูไประหว่างทำ😂😂
ควรใส้เสื้อปกติ หรือใส่เสื้อกบ้าม หรือเปลื้องผ้าคุมเคลาส์ดี—-
Read 4 tweets
7 Sep
คนอื่นคิดด้วยซ้ำ อีกทั้งพวกเธอก็คลุกคลีกับงานแบบนี้ดราเค่นเลยเชื่อมากกว่าแล้ว

"แล้ว นายคิดจะทำยังไงต่อละทาเคมิจจิ"

"ผม ผมไม่รู้"

"เฮ้อ แล้วตอนนี้มีใครรู้บ้าง"

"มีแค่จิฟุยุ กับดราเค่นคุงครับ"

"ไม่บอกไมกี้หรอ?"

"ผมไม่กล้า" ทาเคมิจจิก้มหน้างุด เขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะเดินไป
บอกผู้เป็นหัวหน้าโตมันหรอก ถ้าเกิดบอกไปแล้วโดนไมกี้เกลียดขึ้นมาทำยังไง หรือถ้าอีกฝ่ายตีตัวออกห่างขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ

ดราเค่นที่เห็นใบหน้าแบบนั้นของทาเคมิจจิก็ถอนหายใจ มือก้ลูบหัวไปมา

"อย่าคิดมากน่า ไมกี้มันไม่ได้มีอคติอะไรกับโอเมก้าหรอก"

"ผมรู้น่า แต่มันก้..."

"เอาเถอะ มัน
ก็ต้องแล้วแต่ความพร้อมของนายนะ"

"แต่บอกไว้ก่อน ถ้านายเก็บไว้นานเท่าไรแล้วไมกี้มารู้ทีหลังคนสุดท้ายระวังโดนหมอนั้นงอนละ ฉันไม่ช่วยนะ"

"ฮะๆ จะจำไว้ครับ"

พอดห็นท่าทีแบบนั้นของดราเค่นทาเคมิจิก็รู้สึกโล่งอก ดีจังเลยที่อีกฝ่ายไม่ได้รังเกียจเรื่องที่เขาเป็นโอเมก้า
Read 7 tweets

Did Thread Reader help you today?

Support us! We are indie developers!


This site is made by just two indie developers on a laptop doing marketing, support and development! Read more about the story.

Become a Premium Member ($3/month or $30/year) and get exclusive features!

Become Premium

Too expensive? Make a small donation by buying us coffee ($5) or help with server cost ($10)

Donate via Paypal Become our Patreon

Thank you for your support!

Follow Us on Twitter!

:(