#นาโอทาเค #LuminaTRFanfic รีเควสฟิค2000ฟอล🎉 ของคุณ @ShoyoNanata ค่า

Senior and junior

ทาจิบานะ นาโอโตะ อายุ25ปี อาชีพเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตอนนี้กำลังป่วยเป็นไมเกรนและเครียดลงกระเพาะ

เจ้าสาเหตุอาการป่วยนี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลตัว ก็ตำรวจชั้นรุ่นพี่อย่างฮานากาคิ ทาเคมิจินะสิ!!
"ทาเคมิจิคุง!! ก็บอกแล้วไงว่าอย่าเอาตัวเองไปเสี่ยง!!!"

นาโอโตะตะโกนออกมาพร้อมเอามือคลึงขมับ ส่วนคนื่โดนดุได้แต่ยิ้มแห้งๆ

"ฉันจะพยายามนะ..."

"ไม่ใช่'จะพยายาม' แต่ต้อง'ทำให้ได้ครับ!!"

ทาเคมิจิก้มหน้างุดนั่งพับเพียบทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมอยู่บนพื้นพยายามทำตัวให้ลีบที่สุดเท่าที่จะทำได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นภายในสน.หันมามองภาพตรงหน้าอย่างชินตา เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นเจ้าหน้าที่ฮานากาคิโดนผู้เป็นรุ่นน้องดุจนตัวลีบหดเหลือสองเซนแบบนี สภาพตอนนี้ทำให้แยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นรุ่นพี่ใครเป็นรุ่นน้องกันแน่ ถ้าคนตาฟ้าไม่ได้เข้ามาก่อนทุกคนคงคิดแล้วว่าทาจิบานะ
เป็นรุ่นพี่อีกฝ่ายแน่ๆ

หลังจากที่โดนคนอายุน้อยกว่าดุต่อเนื่องเป็นเวลานานในที่สุดนาโอโตะก็หยุดบ่น คนผมสีดำเอื้อมมือมานวดขมับเบาๆ

"คราวหน้าอย่าทำอีกนะครับ ผมยังไม่อยากหัวใจวายตายก่อนวัยอันควร"

"นาโอโตะพูดเหมือนคนแก่เลย"

"แล้วใครเป็นคนทำให้ผมเป็นแบบนี้เล่า! อยู่กับทาเคมิจิคุงก็+
รู้สึกเหมือนแก่ขึ้นสิบปีเลยนะ"

"แฮะๆ ขอโทษนะนาโอโตะ"

ทาจิบานะ นาโอโตะมองผู้เป็นรุ่นพี่ด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย สุดท้ายเขาก็ได้แค่ถอนหายใจ ถึงจะบ่นปากเปรยกปากแฉะแค่ไหนแต่คนคนนี้ก้จะยังเอาตัวไปเสี่ยงอยู่กีแหละ พูดิดไรไปคงไม่ฟังหรอก

"เฮ้อ ช่างเถอะ วันนี้ไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนดีกว่า"
"ไปร้านราเม็งของสไมลลี่กับแองกรี้คุงกันไหม!"

"เอาสิครับ ตามใจคุณเลย"

ทั้งๆที่เพิ่งโดนดุมาแต่พอคุยเรื่องข้าวเที่ยงก็กลับมาร่าเริงได้ เชื่อเขาเลยนะ ทาเคมิจิคุงไม่เปลี่ยนไปจากตอนม.ต้นสักนิด ขนาดตอนนี้26ปีแล้วก็ยังเหมือนเดิม โดยเฉพาะใบหน้าที่เหมือนโดนหยุดเวลาไว้ตอนอายุ14 หน้าเด็กจน
ตอนที่เข้ามาใหม่ๆมีแต่คนเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กมาตามหาผู้ปกครองด้วยซ้ำ(อันนี้เพื่อนของทาเคมิจิคุงเล่าให้เขาฟัง ตอนได้ยินครั้งแรกเขาก้หลุดหัวเราะออกมายกใหญ่เลย)

แต่ใครจะไปคิดว่าฮีโร่ขี้แยในวันนั้นจะกลายมาเป็นตำรวจในวันนี้กัน นาโอโตะนึกย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อนที่ทาเคมิจิคุงอยู่ม.ปลาย
และเขาอยู่ม.3 วันนั้นที่เขานั่งอ่านหนังสือแบบปกติอยู่ๆคนผมทองก็รีบรุดเข้ามาในบ้านทาจิบานะพร้อมบอก

'นาโอโตะ ฉันจะไปเป็นตำรวจล่ะ!'

แน่นอนว่าทั้งเขาและพ่อก็ตกใจจนอ้าปากค้าง พอสาวความก็ได้เรื่องว่าเพราะอยากปกป้องทุกคนในโตมันไม่ให้ไปทางผิดเลยจะอยู่ที่อดีตไม่คิดจะกลับอนาคต เขาจะได้
ช่วยดูแลทุกคนให้เดินไปในทางที่ถูกไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับโลกด้านมืดอีก และพอพูดถึงทางที่ถูกมันก็ต้องนึงถึงตำรวจอยู่แล้ว! ฮานากาคิ ทาเคมิจิเลยตัดสินใจที่จะมาเป็ยตำรวจ

และด้วยเหตุนี้ทั้งเขาและทาเคมิจิคุงจึงตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อสอบเข้าโรงเรียนตำรวจไปพร้อมๆกัน คุณพ่อที่ได้ยินว่าลูกชาย+
และแฟนลูกสาวอยากเป็นตำรวจจึงช่วยติวให้อย่างดี ทาเคมิจิคุงตั้งอกตั้งใจมากขนาดยอมย้อมผมกลับเป็นสีดำ จากตอนแรกที่เกรดไม่ดีก็ตั้งใจเรียนจนเกรดสูงขึ้น และเมื่อเรียนจบอีกฝ่ายก็สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทันที แน่นอนว่านาโอโตะก็สอบเข้าตามไปติดๆ ใครจะคิดล่ะว่าอดีตนักเลงอย่างทาเคมิจิคุงที่เรียน
ไม่ค่อยเก่ง ต่อยตีก็ไม่ได้ดีกลับสามารถสอบเข้าและจบออกมาเป็นตำรวจได้ คนอื่นๆในแก๊งก็ตกใจกันใหญ่ตอนได้ยินว่าฮีโร่ขี้แยสอบติด

หลังจากตอนนั้นก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ทั้งเขาและทาเคมิจิคุงก็ได้มาเป็นตำรวจประจำสน.แห่งหนึ่งในโตเกียว อ้อ แล้วก็พี่สาวเขาเลิกกับทาเคมิจิคุงแล้วด้วย ถึงจะบอกว่า
เลิกกันแล้วแต่ทั้งสองคนจบลงด้วยดีจนนาโอโตะยังแปลกใจเลย ทั้งๆที่รักมากถึงขนาดนั้นแต่ทำไมถึงเลิกกันนะ ทาเคมิจิคุงได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะเบาๆ พอเป็นผู้ใหญ่แล้วอะไรๆมันก้เปลี่ยนน่ะ

แต่สำหรับนาโอโตะแล้วถึงจะโตถึงจะผ่านมานานแค่ไหนเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปตามที่ทาเคมิจิคุงพูดเลย เพราะเขาก็
ยังรักทาเคมิจิคุงเหมือนเมื่อก่อนไม่เปลี่ยนเลย

ทาจิบานะ นาโอโตะแอบหลงรักแฟนของพี่สาวตั้งแต่ตอนอยู่ม.ต้น มันเป็นรักแรกที่เขาก็ยังรู้สึกรักมาจนถึงทุกวันนี้ ยิ่งได้รู้จัก ได้พบเจอได้พูดคุยมากขึ้นเท่าไรเขาก็ยิ่งตกหลุมรักฮานากาคิ ทาเคมิจิมากขึ้นเท่านั้น เพียงแต่ติดอยู่อย่างเดียว
นั้นคือทาเคมิจิคุงเป็นแฟนของพี่สาวเขา

อีกฝ่ายมีคนรักแล้ว เพราะแบบนั้นความรักของนาโอโตะจึงไม่ได้เบ่งบาน เขาไม่เคยสารภาพความรู้สึกของตัวเองออกมาแม้แต่สักครั้งเดียว เขาแค่อยากเห็นคนที่ตัวเองรักทั้งสองมีความสุข เพราะงั้นทาจิบานะคนน้องจึงยอมถอยห่างออกมา พยายามที่จะตดใจแต่ก้ไม่สามารถ
เลิกรักอีกฝ่ายจริงๆได้เลยสักครั้ง ยิ่งได้ใช้เวลาด้วยกันมาก ยิ่งได้เห็นรอยยิ้ม หยาดน้ำตา ได้ยินเสียงหัวเราะและทุกๆอย่างของอีกฝ่ายทำให้คนอ่อนกว่าตกหลุมรักมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม

แต่ตอนนี้อีกฝ่ายเลิกรากันแล้ว เขาคิดว่าน่าจะมีโอกาสที่จะสารภาพความในใจออกไป แต่ว่านาโอโตะกลับไม่กล้า
ชายหนุ่มกลัว สถานะตอนนี้ระหว่างเขากับทาเคมิจิคุงนั้นก็ดีอยู่แล้ว ได้อยู่เคียงข้างอีกฝ่าย เป็นคนที่ใกล้ชิดมากที่สุด ถ้าหากสารภาพออกไปความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนมันจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้

แต่เดิมทีการที่น้องชายของแฟนเก่ามาแอบชอบตัวเองตั้งแต่ม.ต้นนี้มันก็ฟังไม่ดีเลย
แถมเขาไม่รู้ด้วยว่าทาเคมิจิคุงโอเคกับการรักเพศเดียวกันเหมือนเขาไหม ถ้าหากสารภาพไปแล้วโดนเกลียดขี้หน้าโดนขยะแขยงล่ะ ถึงจะเป็นชายหนุ่มอายุ25ปีแล้วแต่ยังกลัวโดนเกลียดนี่มัน น่าสมเพชชะมัด

"นาโอโตะ? ฮัลโหล?? โลกถึงนาโอโตะครับ?"

"ว่าไงครับทาเคมิจิคุง"

คนผมดำหลุดจากภวังค์เมื่ออีกฝ่าย
เรียกชื่อเขา คนตาฟ้าเงยหน้าขึ้นมามองอย่างเป็นห่วงเป็นใย

"ถึงร้านของพวกสไมลี่คุงแล้วนะ อยู่ๆนาโอโตะก็เหม่อไป เป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายหรอ?"

"ผมสบายดี งั้นก็เข้าไปในร้านเถอะครับ"

ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่คนแก่กว่าก็ยังทำสีหน้ากังวลอยู่ดี นาโอโตะยิ้มจางๆก่อนจะเอื้อมมือไปตบหลังเบาๆ
"ผมแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อนเท่านั้นเอง ไม่ต้องกังวลหรอกครับ"

ถึงจะบอกว่าไม่ต้องกังวลแต่ใบหน้าของคนแก่กว่าก็ยังมีเค้าลางของความเป็นห่วงอยู่ดี นาโอโตะเห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มจางๆ อ่า อ่อนโยนจริงๆเลยนะครับทาเคมิจิคุง

ร่างของตำรวจผมดำทั้งสองเดินเข้าไปในร้านราเม็ง ถึงทาเคมิจิจะยังเป็นกังวล
อยู่แต่ถ้าอีกฝ่ายบอกไม่เป็นไรจริงๆเขาก็จะเชื่อสิ่งที่พูดออกมา พอเข้าร้านพวกเขาทั้งสองก็ไปนั่งตรงเคาน์เตอรืทักทายเพื่อนเก่าที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าของร้านไปแล้ว

"แล้วช่วงนี้ทั้งสองคนเป็นไงบ้างครับ สบายดีไหม"

"สบายดี กิจการก็ดีตามที่เห็นล่ะทาเคมิจจิ"

สไมล์ลี่พูดพร้อมยิ้มกว้างโดยที่
มือก็ยังขยับลวกเส้นทำออดเดอรืถัดไป คาวาตะคนน้องเดินมารับเมนูของพวกเขาสองคน

"ไม่ได้เห็นหน้าตั้งนานเลย งานหนักหรอทาเคมิจจิ?"

"หนักครับ เฮ้อ ก็รู้ว่าตำรวจงานหนักแต่ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้!"

"เอาหน่า นายเลือกงานนี้เอง โทาใครไม่ได้หรอกนะ~"

"เอาจริงๆพวกฉันยังประหลาดใจอยู่เลยที่นาย+
เลือกเป็นตำรวจ" แองกรี้พูดขึ้นมา

"นั้นสิ ตอนนั้นทั้งไมกี้ ดราเค่น มิทสึยะฮัคไคตกใจตาแตกกันหมดเลย น่าแปลกที่จิฟุยุไม่ตกใจนะ?"

"ฉันบอกจิฟุยุก่อนที่จะไปบอกทุกคนน่ะ"

"อภิสิทธิ์ของการเป็นคู่หูสินะ"

ก็ว่าแล้วว่ามันแปลกๆที่จิฟุยุเป็นคนที่ดูนิ่งที่สุดตอนได้ยินทาเคมิจจิประกาสว่าจะไป
เป็นตำรวจ แน่นอนว่าพวกเขาทุกคนต่างสนับสนุนในความฝันของเพื่อนอยู่แล้ว แต่มันแค่ประหลาดใจนิดหน่อยที่คนขี้แยอยากจะมาทำอาชีพนี้ ก้แหม่ อดีตนักเลงมาเป็นตำรวจนี้ใครๆก็ประหลาดใจทั้งนั้น

"เมื่อวานไมกี้กับดราเค่นก็เพิ่งมาที่ร้านบ่นว่าไม่ได้เจอนายตั้งนานแล้ว ไปให้พวกนั้นเห็นหน้าบ้างสิ"
"ไว้จะลองหาเวลาว่างดูละกันน"

"พงกนั้นคิดถึงนายมากนะ จิฟุยุกับฮัคไคก้เอาแต่บ่นหานายจนพวกฉันเบื่อที่จะฟังแล้วเนี่น"

ทาเคมิจิหัวเราะเบาๆ ได้ยินแบบนั้นแล้วคนผมดำก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมา

เมื่อสิบปีก่อนเขาสามารถดึงไมกี้คุงกลับมาได้ ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นสืบทอดโดโจตระกูลซาโนะต่อจากคุณปู่
ดราเค่นคุงกับอินุปี้ก้ทำอู่เหมือนเดิมโดยที่มีไมกี้คุงเป็นหุ้นส่วนเพิ่มอีกคนด้วย ส่วนคนอื่นๆก็ทำงานตามความฝันของตัวเองเหมือนเมื่อคราวก่อน

ทุกคนมีความสุข มีชีวิตที่ดีมาก แน่นอนว่าทาเคมิจิเองก็มีความสุข เขาไม่อยากให้เพื่อนคนไหนของเขาต้องเดินมนทางที่ผิด ทางที่โดดเดี่ยวแบบไมกี้คุง
"เป็นอนาคตที่ดีเลยนะครับ ทาเคมิจิคุง"

"อื้อ ดีมากเลยล่ะ"

มันดี ดีมากๆจนเหมือนความฝันเลยล่ะ รอยยิ้มจางๆระบายบนใบหน้าอ่อนเยาว์ ก่อนที่ทาเคมิจิจจะขอตัวไปห้องน้ำก่อน นาโอโตะหันไปมองตามอย่าเป็นห่วง สายตาเมื่อครู่มัน...

"แล้ว ทาจิบานะคนน้อง เมื่อไรจะคบกับทาเคมิจจิล่ะ"

พรูด!!
นาโอโตะถึงกับสำลักน้ำที่ดื่มอยู่เมื่อได้ยินคำนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเงยหน้าขึ้นมามองคาวาตะคนพี่

"แค่ก คุณไปเอามาจากไหนครับ!"

"ก็นั้นสิ ตั้งแต่ตอนที่นายสอบเข้าตำรวจตามทาเคมิจจิละมั้ง?"

"นั้--" ผมตั้งใจจะสอบเข้าก่อนอีก! ทาเคมิจิคุงต่างหากที่ตามมา

"ไม่ต้องแก้ตัวหรอกน่า ทุกคนเขารู้
กันหมดแล้วว่านายชอบทาเคมิจจิ"

นาโอโตะสะอึก ใบหูขึ้นสีแดง ทั้งๆที่เขามั่นใจว่าตัวเองปิดมิดแล้วแท้ๆ สไมล์ลี่หัวเราะโดยที่น้องชายกระทุ้งศอกเข้าที่ท้องจนร้องโอดโอย

"เฮ้อ ทุกคนที่ว่านี้..."

"ก็ทุกคนแหละ ยกเว้นทาเคมิจจิแหละ"

รอบนี้แองกรี้ตอบพร้อมเสิร์ฟราเม็งที่พวกเขาสั่งลงข้างหน้า
"ก็ไม่แปลกใจเท่าไรครับ" ชายหนุ่มถอนหายใจ

"เอาจริงๆนะพวกนายก็รู้จักกันมาตั้งนาน นายอยู่ข้างทาเคมิจจิเสมอ ทำไมไม่เดินหน้าจีบจริงๆสักที"

คำพูดนั้ยของแองกรี้แทงใจดำนาโอโตะแบบสุดๆ จริงอย่างที่คาวาตะคนน้องบอก ทั้งๆที่เขามีโอกาสมากกว่าคนอื่นแต่ทาจิบานะคนน้องกลับไม่เคยรุกจริงๆจังๆ
"ถ้าไม่รีบจีบเดี๋ยวพวกนั้นก็แย่งไปหรอก"

"พวกนั้น...?"

"ก้พวกไมกี้ จิฟุยุ อินุปี้ คาคุโจและคนอื่นๆไง"

พอได้ยินแบบใบหน้าของคนอ่อนกว่าก็ดำทะมึนไปครึ่งแถบ อ้อ จริงด้วย ยังมีคนอื่นที่มาชอบทาเคมิจิคุงของเขาตั้งเยอะเลย

"นั้นสินะครับ... คงต้องเริ่มทำคะแนนจริงๆจังๆได้แล้วสินะ..."
"คุยอะไรกันอยู่หรอ?"

"ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่คุยกันเรื่อยเปื่อย"

ทาเคมิจิที่เพิ่งกลับมาจากห้องน้ำพยักหน้าพร้อมนั่งลง เขาเริ่มทานราเม็งของตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย ชายหนุ่มกินจนแก้มป่องเหมือนแฮมสเตอร์ นาโอโตะที่เห็นแบบนั้นก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้

"ปากเปื้อนครับทาเคมิจิคุง"
เขาหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาซับมุมปากของคนแก่กว่า

"อื้อๆ ออบอุนนะ!"

รอยยิ้มอ่อนโบนระบายบนใบหน้าของคนอ่อนกว่า สองแฝดคาวาตะได้แต่มองบรรยากาศสีชมพูด้วยสีหน้าปลาตาย คบๆกันไปเถอะขนาดนี้แล้ว

"จะว่าไปทาจิบานะคุง ทาเคมิจจิตอนทำงานเป็นยังไงบ้างหรอ"

"เป็นยังไงนี่ยังไงหรอครับ?"
"ก็ทำงานดีไหม หรือไปป่วนจนทำงานล่มไรงี้"

"เฮ้ๆสไมล์ลี่คุงเวอร์ไป ผมไม่ได้แย่จนาดนั้นสะหน่อย! ใข่ไหมนาโอโตะ!"

"เรื่องงานก็พอไหวครับ แต่ก็มีหลายครั้งที่ชอบเอาตัวไปเสี่ยง"

นิสัยชอบเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงๆของอีกฝ่ายนี้ยังไงก็ไม่สามารถแก้หายได้จริงๆ ตั้งแต่สมัยก่อนยัน
ปัจจุบัน ซึ่งทาเคมิจิก็ปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเขาทำแบบนั้นจริงๆ...

ทาเคมิจิเป็นตำรวจแปลกๆที่มักจะเป็นที่ถูกใจของพวกนักเลง แถมยังสนิทกับคนอื่นง่ายด้วย เพราะงั้นเขาจึงมีพวกแหล่งสายข้อมูลข่าวสารกว้างไกลมาก ถึงอีกฝ่ายจะเผลอไปมีคอนเนคชั่นแบบงงๆก็เถิะ แต่ข้อมูลที่ทาเคมิจิคุงหามา
ล้วนมีประโยชน์ต่อคดีไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งอย่างมาก ด้วยบุคลิคดูไม่มีพิษไม่มีภัยเลยทำให้หลายๆคนเชื่อใจคนผมดำ ข้อมูลบางส่วนที่คนในพื้นที่ไม่อยากบอกตำรวจแต่ถ้าเอาฮานากาคิเข้าไปคุบด้วยพวกเขาก็จะยอมให้ความร่วมมืออย่างดี ปฏิเสธไม่ได้เลนว่าคนคนนี้ค่อนข้างเก่งเรื่องการเจรจาพอตัวเลย
แต่เพราะแบบนั้นแหละเจ้าตัวจึงชอบเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการมา หลายครั้งที่ถ้าหากนาโอโตะไม่ได้เป็นแบ็คอัพทาเคมิจิคุงก็อาจจะหายไปจากสารระบบก็เป็นได้

ทาจิบานะคนน้องก็ดุแล้วดุอีก ดุจนปากเปียกปากแฉะแต่คนผมดำก็ยังชอบเอาตัวเข้าแลกทำให้เขาชวนหัวใจวายตายตลอดเลย
ถึงแม้ว่านาโอโตะอยากให้ทาเคมิจิคุงเลิกทำงานแบบนี้มากแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะข้อมูลที่อีกฝ่ายหามาล้วนเป็นข้อมูลสำคัญที่หาได้ยากยิ่ง มันเลยไม่มีทางที่พวกหัวหน้าจะปล่อยเพชรน้ำดีอย่างฮานากาคิให้หลุดมือ หน้าทีด้านการรวบรวมข่าวสารส่วนใหญ่จึงตกเป็นหน้าทีของอีกฝ่ายไปในบันดล
"เป็นไปได้ผมอยากให้ทาเคมิจิคุงรู้ตักห่วงตัวเองมากกว่านี้นะครับ"

"ฉันก็ห่วงตัวเองนะนาโอโตะ!"

"ฉันไม่คิดนะ ขนาดตอนม.ต้นนายโดนยิงที่เท้า โดนเอาปืนจ่อหัวยังไม่สะทกสะท้านเลย"

นาโอโตะหันขวับมาจ้องเขม่งเมื่อได้ยินเรื่องนั้น อีกฝ่ายก็หันหน้าหนีไม่สบตา

"ที่แองกรี้ซังพูดหมายถึงอะไรกัน+
ครับ ทา-เค-มิ-จิ-คุง"

"กะกะก้ศึกตอนเทนจิคุไง ตะแต่มันผ่านไปตั้งนานแล้วนะ! ไม่ต้องสนใจหนอก"

"ไม่สนใจได้ไงครับ!! แล้วทำไมผมถึงได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกครับเนี่ย!"

"ก็ไม่อยากให้นาโอโตะเป็นห่วงนี่หนา!"

คนผมดำเอามือกุมขมับ ให้ตายสิอยู่ๆก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเลย ตอนม.ต้นยังขนาดนั้น
เลยให้ตายสิ เขาหันไปมองคนแก่กว่าที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย ฝ่ามือหนายกขึ้นมาจับใบหน้าทาเคมิจิคุง ก่อนที่อีกฝ่ายจะจัดการยืดเจ้าแก้มย้วยๆของคนแก่กว่าจนมันยานเหมือนโมจิ

"โอ๊ยๆๆๆ เอ๊บอะอาโอโอะ!!!"

"เจ็บก็ดีครับ รู้จักเป็นห่วงตัวเองมั้ง! อย่าเอาแต่ห่วงว่าคนอื่นจะ+
รู้สึกยังไง สนใจตัวเองเยอะๆหน่อยสิครับ!" ทาจิบานะคนน้องถอนหายใจก่อนจะปล่อยมือออกจากแก้มช้ำๆของอีกฝ่าย

"หัดรู้จักรักตัวเองบ้าง"

ได้ยินคำพูดนั้นทาเคมิจิก็ชะงักไป คนแก่กว่าได้แต่หลุบตาต่ำลง

"ขอโทษนะนาโอโตะ"

"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ เอ้ารีบกินเร็ว เดี๋ยวเส้นอืดหมดหรอกทาเคมิจิคุง"
"รู้แล้วๆ อ๊ะ นายคีบเนื้อให้ฉันทำไม?"

"มันเยอะไปครับ"

สไมล์ลี่ที่แอบฟังก็ยกยิ้มกรุ่มกริ่ม เขาก็ให้หมูชาชูเท่าๆกันทุกชามนะ แค่อยากแบ่งก้พูดออกมาตรงๆจะดีกว่านะทาจิบานะคนน้อง

หลังจากที่ทั้งสองทานข้าวเที่ยงเสร็จก็กลับมาที่สถานีตำรวจต่อ พวกเขายังมีงานเอกสารเหลือให้จัดการอีกบานตะไท
เลย ช่วงนี้พวกเขายังไม่มีงานออกนอกสนามสักเท่าไร เพราะคดีล่าสุดที่ไปทำกันมานั้นทำให้ทั้งเขาและทาเคมิจิคุงเข้าโรงพยาบาลยาว พวกเขาจึงโดนสั่งให้ทำงานนั่งโต๊ะอย่างเดียวไปช่วงหนึ่งเลย คนอื่นอาจจะโอดครวญแต่สำหรับนาโอโตะเขารู้สึกว่ามันดีมากเพราะจะได้ไม่ต้องกังวลว่าคนแก่กว่าเอาตัวไป
เสี่ยงอีก ถึงล่าสุดจะเอาไปเสี่ยงก้เถอะแต่เขาก้ดุไปแล้ว ชายหนุ่มหันมามองคนผมฟูที่เอาหน้าจุ่มกองเอกสารอย่างหมดอาลัยตายอยาก

"ทาเคมิจิคุงอย่าเพิ่งตายครับ มาทำงานก่อน"

"แต่ฉันเกลียดงานเอกสารนี่~~ นาโอโตะทนนั่งทำงานเอกสารนานๆได้ไง"

"ก้มันเป็นงานนี่ครับ" เขาหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็น
ใบหน้าบู้บี้ของอีกฝ่าย ทาเคมิจิบ่นอุบก่อนจะลุกขึ้นมาทำงานเอกสารต่อ แต่พอทำไปได้สักพักอีกฝ่ายก้เอาหน้าจุ่มโต๊ะเหมือนเดิม ทาเคมิจิคุงไม่ถูกฉโลกกับงานเอกสารจริงๆนะ

"มาครับ เดี๋ยวผมช่วย"

"นาโอโตะ! นายมันพระมาโปรดดดด"

"อย่าเวอร์ครับ ถ้าปล่อยให้คุณทำงานแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆหัวหน้าคงลง+
มาดุเรื่องความล้าช้าแน่ๆ ให้ผมช่วยแต่เนิ่นๆดีกว่า" เขาเอื้อมมือไปหยิบเอกสารบางส่วนบนโต๊ะของทาเคมิจิคุงมา

"แล้วงานนาโอโตะละ?"

"ผมทำเสร็จเกือบหมดแล้วครับ ไม่ต้องห่วง"

คนผมฟูได้แต่ทำหน้าเหวอ ทั้งๆที่ได้ทำงานเอกสารพร้อมๆกันแต่ทำไมนาโอโตะถึงทำเสร็จเกือบหมดก่อนเขาละ! เขายังทำได้ไม่
ถึงครึ่งเลยนะ!!

"คนฉลาดนี่ดีจังนะ.."

"อย่าเอาแต่บ่นครับ มือน่ะทำงานด้วย" ฝ่ามือหนาเอื้อมไปเคาะหัวคนแก่กว่า ทาเคมิจิทำหน้าบี้

"ฉันไม่ใช่เด็กนะ!"

"ครับๆ"

ทั้งท่าทีฮึดอั้ดตอนไม่สบอารมณ์กับสีหน้าบู้บี้แบบนั้นดูยังไงก็เหมือนเด็กจะตายไป นาโอโตะหลุดหัวเราะฮึออกมา
จะกี่ปีผ่านไปคนคนนี้ก้ไม่เปลี่ยนแม้แต่นิดจริงๆ ทาเคมิจิคุงก็ยังเป็นทาเคมิจิคุงที่เขาตกหลุมรักมาตลอด และความรู้สึกที่เขามีให้อีกฝ่ายก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงแม้แต่นิด

เพียงแต่ว่ามันจะไม่ได้เก็บไว้แค่ในใจอย่างเดียวอีกต่อไป เขาเนื่อยกับการเก็บซ่อนความรู้สึกนี้นี้อีกแล้ว เขาอยากจะให้
ทาเคมิจิคุงรับรู้ถึงใจจริงของเขา ถึงแม้เมื่อก่อนจะขลาดกลัว แต่ตอนนี้มันไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ตราบใดที่เขามีทาเคมิจิคุง ทาจิบานะ นาโอโตะก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

อนาคตต่อไปมันจะดีหรือจะร้าย ก็คงต้องแล้วแต่โชคชะตาละนะ แต่ถึงจะดีหรือร้ายยังไง เขาก็จะยังรักคนคนนี้ต่อไป

--

เย้ๆเสจแล้วค่ะ!
หลังจากเขียนแบบเต่าคลานฮือ55555555 เดะรีเควสที่สองจะตามมาในเร็ววันค่ะ!

@threadreaderapp unroll plz

• • •

Missing some Tweet in this thread? You can try to force a refresh
 

Keep Current with 🍀🎒Lumina Luceat | มามะมาแต่งฟิคบดตับกัน🎍🎋

🍀🎒Lumina Luceat | มามะมาแต่งฟิคบดตับกัน🎍🎋 Profile picture

Stay in touch and get notified when new unrolls are available from this author!

Read all threads

This Thread may be Removed Anytime!

PDF

Twitter may remove this content at anytime! Save it as PDF for later use!

Try unrolling a thread yourself!

how to unroll video
  1. Follow @ThreadReaderApp to mention us!

  2. From a Twitter thread mention us with a keyword "unroll"
@threadreaderapp unroll

Practice here first or read more on our help page!

More from @Lumina_Luceat

15 Nov
ห้อยขาเปิดครบแล้วยี่สิบห้าเงา เอาวะ แป้งอยากได้ทันกับคานา เปิดตั้เองดีไหม/ขึม
คือแบบเยอะจัด ละต้องหาคนช่วยกันเกบเยอะด้วยอะ ขายเปนคู่ๆดีมะ… ImageImageImageImage
ImageImageImage
Read 4 tweets
28 Sep
คนเราจะเอาเนกไทตลคเพื่อไรคะ/กดตุ่มโอน Image
สีแบบ ทาเคอยู่สลิท ไม้/เค่นอยู่กริฟ/ไม่ก้เดิร์มแสตรง บาจิศังอยู่เร พี่มิทฮัฟ จิฟุอยู่โบซบาตง
น้องอยุ่สลิทได้ไงถามก่อน555555 สลิทผ่าเหล่าอะค่ะ น้องน่าจะไปอยู่กริฟ😂
Read 5 tweets
23 Sep
เหนลูกเตะสูงอันนี้แล้วอดคิดไม่ได้ว่าน้องน่าจะตัวอ่อนมากแน่ๆ งั้นลองให้น้องเปนนักบัลเล่ตกันหน่อยไหม😳 #ออลทาเค #LuminaTRFanfic

ทาเคมิจจิเริ่มเรียนบัลเล่มาตั้งแต่ก่อนจำความได้เสียอีก

นั้นก็เพราะคุณแม่ของเขาเป็นอดีตนักบัลเล่ต ไม่แปลกที่เธออยากจะให้ลูกของตัวเองได้ลองฝึกสิ่งที่ชอบ Image
ส่วนตัวทาเคมิจจอก็ไม่ได้รู้สึกแย่หรือรู้สึกดีอะไร ไม่ได้มีแพชชั่นแบบสานต่อเป็นอาชีพของคุณแม่ แต่ก็ไม่ได้เกลียดแบบโดนบังคับเรียน เขาแค่รู้สึกเฉยๆเหมือนได้ประสบการณ์ในชีวิตเพิ่มเท่านัน

แต่ยังไงสายบัลเลต์ก็ไม่ใช่ทางของเขาจริงๆเลยเลิกเรียนไปตอนขึ้นม.ต้น คุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
เข้าใจว่าแต่ละคนมีสิ่งที่ถนัดหรือไม่ถนัด แต่บางทีเธอก็ชอบขอให้เขาไปช่วยสอนคอรส์บัลเล่ตเด็กที่ตัวเองเปิดสอนด้วย ถึงทาเคมิจจิจะขี้เกียจแต่พอได้ยินจำนวนเงินค่าขนมเขาก็มีลูกฮึดทันที ข้อเสนอดีแบบนี้ใครจะไม่ทำกัน!!

เพราะงั้นแล้วทาเคมิจิก็ไม่นับว่าเลิกเรียนแบบร้อยเปอรเซนละมั้ง?
Read 77 tweets
15 Sep
พุดคำเดียว วาคุอิคะ ทำไมอจไม่วาดให้ทาเคมิจจิๆไปกดแผลห้ามเลือดคะ!!!! ให้น้องถอดเสื้อแล้วเอาเสื้อไปห้ามเลือดก้ยังทัน!! ไม่ใช่ให้พี่เค่นเลือดไหลเป็นก็อกน้ำแบบเน้!! ยิ่งในตกเลือดยิ่งซึมเยอะด้วย ตั้งแต่บาจิละนะ วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเวลาโดนยิงหรือโดนแทงคือต้อง ห้าม เลือด โว้ย!!!!!!
*ฝนตก
ห้ามเลือดสิโว้ยไม่ใช่นั่งฟังคำสั่งเสีย หยุดหายใจก้ไปปั๊มหัวใจโว้บยยยยยย ฮืออออออออ
Read 4 tweets
14 Sep
นิโนะซังเปนหมอผี เนโครแมนเซ้อแน่ๆ!
ใดๆก้แล้วแต่โอซามุอันก่อนในธีมนี้คือน่ารักที่หนึ่งมาก
ปกติกุ้ดโอซาน้องจะค่อนข้างจืด แต่พอเปนธีมฮาโลสีนหรือแฟนตาซีน้องน่านะมากกกกก
Read 4 tweets
12 Sep
ส่วนใหญ่มีแต่คนแต่งทาเคสูบบุหรี่ ทำไมไม่มีไมกี้สูบบุหรี่บ้าง👀✨ #ไมกี้ทาเค #LuminaTRFanfic

ชินอิจิโร่เป็นคนติดบุหรี่เพราะงั้นแล้วไม่แปลกที่ห้องของพี่ชายคนนี้จึงมีบุหรี่ซุกซ่อนอยู่

ไมกี้มองห่อบุหรี่ที่ซ่อนอยู่ในห้องด้วยสายตาเบื่อหน่าย นี่พี่ของเขาสูบบุหรี่หรือกินเข้าไปกันเนี่ย
เก็บเท่าไรก็ไม่หมดสักที แต่เดิมทีแล้วจะซ่อนซองบุหรี่ไว้ทั่งห้องทำไม

ไม่สิ ชินอิจิโร่น่าจะวางทิ้งเรี่ยราดแล้วหาไม่เจอเลยซื้อห่อใหม่แน่ๆ เขาหัวเราะก่อนจะเก็บห่อบุหรี่เข้าไปฝนกระเป๋าตั้งใจจะเอาไปทิ้ง

"เฮ้ยไมกี้ เจอของหรือยัง จะถึงเวลาประชุมกันแล้วนะ"

"เจอแล้วเคนจิน กำลังไปหน่า!!"
ไมกี้เดินออกจากห้อง คร่อมบั๊บคู่ใจและโลดแล่นออกไปยังถนนยามค่ำคืน แสงไฟมากมายข้างทางส่องประกายงดงาม พวกเขาทั้งคู่ใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะมาถึงจุดหมาย

หัวหน้าแก๊งโตมันเดินขึ้นบันไดหินไปยังศาลเจ้าด้านบน สมาชิกมากมายยืนรอผู้เป็นหัวหน้าอย่างเป็นระเบียบ และการประชุมของแก๊งก็ได้เริ่มขึ้น
Read 20 tweets

Did Thread Reader help you today?

Support us! We are indie developers!


This site is made by just two indie developers on a laptop doing marketing, support and development! Read more about the story.

Become a Premium Member ($3/month or $30/year) and get exclusive features!

Become Premium

Too expensive? Make a small donation by buying us coffee ($5) or help with server cost ($10)

Donate via Paypal

Thank you for your support!

Follow Us on Twitter!

:(