แบบที่ผมพูดหลายทีแล้ว การที่เรามีข้อมูลผู้ติดเชื้อไม่ดีทำให้เราไม่รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่จุดไหนของการระบาดแล้ว (รูป 1 และ 2) กราฟเราพุ่งขึ้นชน celing แล้วสั่นไปตามแนวปะทะที่ 2 หมื่นกว่าๆในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านขึ้นไปเป็นพีคสวยงามแล้วกลับหัวลง เค้ารู้ว่าตอนนี้เค้าอยู่ตรงไหน 1/ 
แต่เราไม่รู้เลยว่าอยู่ตรงไหนของการระบาด เรียกได้ว่าปิดสวิตซ์ไฟคลำไปเรื่อย บางคนอาจเถียงว่าก็ดูอัตราการตายสิ มาครับมาดูกัน ดูไม่ออกเหมือนกันเพราะเราขึ้นไปเรื่อยๆ สูงที่สุดในกลุ่มแล้วไม่ว่าเป็นยอดผู้เสียชีวิต หรือค่าที่หารด้วยประชากรล้านคน (รูป 3 และ 4) ผมเคยเดาว่าถ้าการระบาดเรา 2/
เหมือนประเทศอื่น เราจะกลับหัวลงมาภายในอาทิตย์ที่สามของเดือนเมษา (ตั้งแต่เชื้อ BA.2 ยังไม่มา) ตอนนี้บ้านเราน่าจะมี 2 เวฟซ้อนกันอยู่ (เรียกว่าต้องเดาเพราะไม่มีข้อมูล) ได้แก่ เวฟ BA.1 ที่น่าจะลงตามตามที่ผมว่าและมี BA.2 เข้ามาซ้อน ลองดูสหราชอาณาจักร BA.1 เริ่มเดือนธันวาต้นเดือน 2/
ของเค้ามีเว้นช่วงนิดนึงก่อน BA.2 จะมา แต่สังเกตดีๆการติดเชื้อต่อวันเค้าก็ไม่ได้ลงไปต่ำกว่า 20,000 ต่อวันเลย และมี BA.2 พีคที่วันที่ 26 มีนาคม รวมๆระยะ BA.1 ถึงพีค BA.2 นี่เกือบ 4 เดือนเลย และถ้าให้การติดลงไปต่ำกว่า 20,000 นี่คือ 5 เดือนเลยทีเดียว ถ้าไทยเริ่มมี #โอมิครอน ระบาด 3/
ปลายมกรา กว่าถึงพีค BA.2 นี้คงประมาณพฤษาคม และกว่าจะลงต่ำกว่า 20,000 คนจริงๆก็คงมิถุนา (กราฟเราคงยึกๆแถว 2 หมื่นกว่าไปอีกระยะนึง) ถ้ามาดูการตาย เวฟ #โอมิครอน ของ สหราชอาณาจักร*ตายมากกว่า* #เดลตา เสียอีก ของเค้าเห็นแยกกันเป็น BA.1 และ BA.2 ชัดเจน ในขณะที่ของเรายังไม่แยก 4/
นี่เป็นอีกตัวอย่างนะครับที่แสดงในเห็นว่า #โอมิครอน ดุร้ายแม้ในประเทศที่ฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมแบบอังกฤษยังตายขนาดนี้ และตายมากกว่าเดลตาที่เราคิดว่าดุร้ายมากเสียอีก โอมิครอนไม่กระจอกนะครับ แต่ล่าสุดเราเหมือนแซงสหราชอาณาจักรแล้วถ้านับ 2 โดส แต่คนรับเข็มบูสเรายังต่ำมาก ต้องไปบูสกัน 5/
แต่ไม่ว่าบูสดียังไงก็ติดเชื้อได้นะครับ และถ้าติดมากโรงพยาบาลรับไม่ไหวก็ตายได้มากเช่นกันแบบที่เกิดในเกาหลีใต้ ดังนั้น ควรไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นระยะ 12 -16 สัปดาห์ (แล้วแต่อายุและสุขภาพคุณ) และป้องกันตัวเอง สวมมาสก์ หลีกเลี่ยงที่แออัด พยายามทานข้าวคนเดียว รักษาระยะ ล้างมือ 6/6
• • •
Missing some Tweet in this thread? You can try to
force a refresh
