1/ คุยกับลูกค้า/เพื่อนนักลงทุนหลายคนช่วงนี้
ทำให้มีความคิดที่เชื่อมั่นมากๆว่าใครถือคริปโตอยู่ตอนนี้กำลัง #HODL รอเงินในระดับมหาศาลที่จะเทเข้ามาในอีกไม่นาน เรายังเร็วมากๆอยู่ครับ และมันจะทำให้เราได้เห็นเศรษฐีถูกสร้างดันอีกรอบเหมือนยุคเศรษฐี #BTC ที่ #DiamondHands มาตั้งแต่แรก
2/ บางคนยังคิดว่าเงิน Fiat เราแบ็คโดยทองคำอยู่/NFT คือ JPEG/คริปโตใช้ซื้อบ้านได้แต่ก็ไม่กี่ที่ๆรับ/เหรียญน้องหมาคือสแกม/ไม่เข้าใจบล็อคเชนคืออะไร/ว่ามันแฮ็คยากแค่ไหน

การลงทุนมีความเสี่ยงทั้งนั้นครับ แม้แต่หุ้นการบินไทยซื้อไว้ 20 ปี ไม่มีไรเลย

ขอ Thread นี้ชี้แจง ขอเตือนอันนี้ยาว
3/ ++Web 2 - Platform Economy ++ รูปแบบการเข้าสู่ข้อมูลคือ Pay-2-Use แพล็ทฟอร์มต่างๆที่เราใช้ Facebook, Google, Spotify, YouTube, Line เป็นต้น

ข้อที่ ๑ เริ่มต้นจากการที่เราต้องมี Username/Password สำหรับทุกบัญชี และข้อมูลนั้นก็จะถูกบันทึกไว้ในรูปแบบดิจิทอลบนเซอเวอร์ของบริษัทนั้น
4/ และเมื่อเซอเวอร์นั้นถูกแฮ็ค ข้อมูลของคุณและทุกคนก็จะถูกเปิดเผยไป นอกจากจะยุ่งยากในการจำ ยังไม่ปลอดภัยพอในยุคดิจิทอลที่ข้อมูลสำคัญๆของคุณล้วนอยู่บนอินเตอร์เน็ทบนเซอเวอร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง เนื่องจากความยุ่งยาก เราก็เลยได้เห็น Social Sign-On
5/ ซึ่งคือการที่เรามี Username/Password เดียวสำหรับหลายๆแพล็ทพอร์มผ่านตัวตนของเราบน Google/Facebook/Twitter/Apple ID ที่ท้ายสุดก็เก็บข้อมูลในที่เดิม บน Centralized Servers อยู่ที่เดียวอยู่ดี แฮ็คครั้งเดียวได้หมดในทุกกรณีที่กล่าวมา และการครอบครองข้อมูลส่วนตัวก็เกิดขึ้นได้ (Meta?)
6/ ข้อดีอย่างนึงคือหากแฮ็คแบบแหล่งข้อมูลกลางก็มี เช่นการแฮ็คองค์กรรัฐบาลและเปิดโปงสิ่งแย่ๆที่เขาทำ อย่างที่ Wikileaks ของ Julian Assange ได้นำคลิปจากส่งคราม Iraq อันน่าหดหู่ให้เราได้ดู ว่าคนร้ายคือใครในโลกจริง ทุกวันนี้ #FreeJulianAssange จนต้องแต่งงานในคุก
7/ ข้อที่ ๒ Verification สำหรับแต่ละแพล็ทพอร์มเกิดขึ้นได้เฉพาะบนนั้น เช่น คุณซื้อตั๋วคอนเซิร์ทจาก Ticket Master ไอ้เจ้ารหัส Ticket ก็จะอยู่บนเซอเวอร์ของเขา ไม่ได้โปร่งใสให้ทุกคนเช็คได้ ซื้อบ้านผ่าน Agency และสำเนาอยู่กับ Land Registry ข้อมูลนั้นๆก็ต้องผ่านการยืนยันโดยคนเหล่านั้น
8/ ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมากมายในการจัดเก็บและยุ่งยาก/ล่าช้า/แพงในการเข้าถึง นั่นเป็นสิ่งที่บล็อคเชนกำลังจะเปลี่ยนครับ เพราะบนบล็อคเชนทุกอย่างสามารถให้ทุกคน Verify ได้ด้วยตัวเองผ่านการเช็ค Contracts บน Etherscan เช่น (ถ้า Ticket Master เลือกที่จะ move ข้อมูลและการทำงาน on-chain)
9/ ทุกคนที่จะซื้อตั๋วมือสอง ก็จะสามารถเช็คได้เองว่าตั๋วนี้ออกโดย Ticket Master จริงๆและข้อมูลเกี่ยวกับคอนเซิร์ทก็จะอยู่ on-chain หมด ที่ทุกๆคนเช็คได้ สิ่งที่ต้องพัฒนาคือ User Interface ทำให้เราเข้าถึงมันง่ายขึ้น ว่าง่ายๆก็คือมีคนทำ App/Dapps ขึ้นมาให้คนใช้มากขึ้นและง่ายขึ้น
10/ ถ้าเป็นอย่างนั้นเมื่อไร Web 3 จะมาในรูปแบบเต็มตัว ทุกๆวันนี้ การเข้าถึงข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เราเพิ่งพาศูนย์กลางของการจัดเก็บข้อมูลพวกนั้นอยู่ และองค์กรใหญ่ๆก็ได้เขมือบซื้อข้อมูลพวกนี้แลกเปลี่ยนกันมาเป็นเวลานานแล้ว ในระดับที่มี Monopoly! การเข้าสู่ข้อมูลในแบบนั้น
11/ มันเหมือนการที่เรามี Access สู่ฐานข้อมูลหลายๆแห่ง (และบางแห่งต้องจ่ายค่าสมาชิคด้วย) ที่ข้อมูลต่างๆนั้นยังถูกดูแลไม่ดีพอ แทนที่จะมีแหล่งข้อมูลฟรีๆที่เดียวที่ดูแลข้อมูลในนั้นในแบบที่ดีและโปร่งใสที่สุด การเปิดเผยข้อมูลที่ควรจะฟรี เป็นสิ่งที่ Aaron Swartz ได้พยายามจะทำในปี 2011
12/ ผ่านการดาวน์โหลด academic journals จากฐานข้อมูล JSTOR ผ่านคอมพิวเตอร์ของ MIT (Swartz "แขวนคอตาย" 2 วันหลังศาลตัดสินที่รวมโทษมากสุดคือการปรับ $1ล. จำคุก 35 ปี + ยึดทรัพย์สิน + การปล่อยตัวแบบควบคุม ใครที่พยายามจะเปลี่ยน เจอไล่ล่าทุกคน คนนี้น่าเสียดายมากที่โลกเราเสียเขาไป) #RIP
13/ ++Web 3 - Token Economy++ เป็นระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่ Framework ถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่น/มอบผลตอบแทน/ส่งแรงจูงใจให้ทุกคนในเศรษฐกิจช่วยกันพัฒนาและปกครองรักษามันไว้ มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้เพราะบล็อคเชนและ Public Key Cryptography ซึ่งเป็นการเข้ารหัสที่มีการวิจัยและ
14/ นำมาใช้เป็นเวลานานแล้ว แต่ไม่ได้รับการใช้งานมาก เพราะความซับซ้อนและการที่ไม่ได้มีแรงผลักดันมากนัก (โดยเฉพาะทางการเงิน...ที่จริงแรงผลักดันที่ว่า เราจะได้รับอิสรยะภาพทางข้อมูลและความเป็นส่วนตัว มันควรจะมากพอแล้วอย่างที่ @Snowden กล่าว และทุกวันนี้เขาก็ต้องหลบหนีอำนาจเบื้องหลัง)
15/ เทคโนโลยีนี้เลยไม่ได้เกิดการนำมาใช้ การมี Public/Private Key Pair สามารถทำให้เราส่งข้อมูลที่ Encrypted ให้ที่อยู่ Public โดยที่ผู้ที่มี Private Key เป็นผู้เดียวที่จะสามารถเข้าสู้ข้อมูลได้ (ต่างกับเมื่อก่อนที่ผู้รับข้อมูลต้องรู้วิธีแก้รหัส ตัวอย่างของข้อเสียการเข้ารหัสสมัยก่อน
16/ ยุคส่งครามโลกที่สองที่เครื่องเข้ารหัส Cryptography ของฝ่ายเยอรมันโดน Codebreak ได้สำเร็จ ซึ่งช่วยฝ่ายพันธมิตรแกะข้อมูลลับและได้ใช้ข้อมูลนั้นเพื่อช่วยในการรบ) ซึ่งก็ต้องขอบคุณ Satoshi ที่เริ่มด้วยการนำ Public/Private Key Pair มาให้เราใช้ในระดับที่กว้างขวางขึ้นผ่าน $BTC
17/ แต่ Web 3 ที่ผมพูดถึงนั้น กำลังถูกสร้างขึ้นบน $ETH ผ่าน Ethereum Sign-On คือสิ่งที่กำลังจะมาเปลี่ยนหลายๆอย่างในชีวิตเรา (มันก็คือ Wallet ประตูเข้าสู่บล็อคเชน ฟังในคลิปนี้ ) Private Key ของคุณ คือกุญแจที่สำคัญที่สุด มันเป็นสิ่งที่สร้างชึ้นมาผ่าน Computer
18/ ของโหนดต่างๆในระบบของ $ETH ที่ไม่เพิ่งศูนย์กลางในการจัดการ พอสร้าง Address และ Private Key ขึ้นมาแบบ Random (ที่เราจดใส่กระดาษในรูปแบบที่เราเข้าใจได้ที่เรียกว่า Seed Phrase) และทุกวันนี้ก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ทั้งในรูปแบบ Hardware (Cold Wallets ที่สามารถเก็บ Private Key
19/ ของคุณและในการใช้งานมันจะไม่ต้องเชื่อมกับเน็ทเลย ทำให้ปลอดภัยสุดๆ)/Software (Hot Wallets ที่ Private Key ถูกเก็บบนเครื่องที่ใช้) การมีกระเป๋าพวกนี้ทำให้เราเริ่มเข้าสู่ Web 3 ได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดก็มี $ENS ที่ทำให้สิ่งที่คริปโตแมนรอมานานเป็นจริง
20/ นั่นก็คือ Address ที่เราอ่านได้! ไม่ใช่ 0x07Rd...81F9! ขอเป็น cryptomancc.eth!
การเข้าสู่ Token Economy ทำให้เราต้องมีบัญชี (Wallet/Address) บนบล็อคเชนของ $ETH และการที่ธรรมชาติของบล็อคเชนนั้นมันโปร่งใสและตรวจสอบได้โดยทุกๆคนที่มีอินเทอร์เน็ท มันคือจุดเริ่มต้นที่บล็อคเชนจะ
21/ ลบล้างชื่อเสียงที่ไม่ดีที่เป็นที่รู้จักกันในเหล่านักลงทุนและผู้แนะนำทางการเงิน ว่ามันไม่โปร่งใส/ใครก็ไม่รู้คนที่โอนเงินจากกระเป๋านั้น/ฟอกเงินหรือเปล่า อย่าลืมนะครับว่าการฟอกเงินทุกวันนี้ก็เกิดขึ้นอยู่ และใช้ USD! ผมว่าความคิดแบบนั้นมันไม่แฟร์นัก
22/ ในอนาคตรู้สึกมั่นใจกับตัวเองว่า SEC ในแต่ละประเทศจะร่วมมือสร้าง Framework ที่กำหนดกำชับเรื่อง KYC คุมประตูทางเข้าออกของคริปโต นั่นก็คือคุมที่ EX ให้เคร่งครัดเรื่อง KYC (ท้ายสุดเงินมันต้องออกทางแบงค์อยู่ดีแม้แต่ DEX ก็ต้องเข้า EX ออกแบงค์) นั่นคือ middle ground ที่เราต้องยอม
23/ เพราะมันจะหยุด illegal activity หรือสกัดขัดขวางมันง่ายขึ้น ในรูปแบบที่ทุกคนไปเล่นบทนักสืบ ไล่ดูกระเป๋าต่างๆได้ แต่ถ้า SEC ทำงานได้ดี เขาก็จะรู้ว่าไอ้กระเป๋านี้ผูกกับใครในโลกจริงผ่าน EX/Bank และ KYC ตอนนี้เห็นหลายแบงค์และองค์กรการเงินเริ่มพากันเข้ามาแล้ว
24/ Mass adoption ต้องมาถึงแน่นอน ผ่าน Web 3

#AlwaysBullish #EscapeVelocity #StrengtheningFoundations #ExpandingUtility

• • •

Missing some Tweet in this thread? You can try to force a refresh
 

Keep Current with 🇬🇧🇹🇭 CRYPTOMANCC.ΞTH

🇬🇧🇹🇭 CRYPTOMANCC.ΞTH Profile picture

Stay in touch and get notified when new unrolls are available from this author!

Read all threads

This Thread may be Removed Anytime!

PDF

Twitter may remove this content at anytime! Save it as PDF for later use!

Try unrolling a thread yourself!

how to unroll video
  1. Follow @ThreadReaderApp to mention us!

  2. From a Twitter thread mention us with a keyword "unroll"
@threadreaderapp unroll

Practice here first or read more on our help page!

More from @cryptomancc

13 Nov
1/ เปรียบเทียบจากประสบการณ์:
บ้านเรา เน้นเรียนเยอะ เรียนพิเศษเป็นเรื่องธรรมดา ปฏิบัติน้อย เน้นคะแนนสอบ จบมาไม่มีงานตรงกับที่เรียน
อังกฤษเน้นเรียนที่ต้องการเรียน ไม่มีเรียนพิเศษ ปฏิบัติเยอะ ให้ความสำคัญคะแนนปฏิบัติเยอะพอๆกับคะแนนเรียน ได้งานก่อนจบซะส่วนใหญ่เพราะ Placement
2/ ในฐานะอาจารย์สอนภาษาทั้งในไทยและอังกฤษ ได้เห็นตำรานักเรียนให้เปรียบเทียบเยอะ ทั้งระดับมหาลัยและโดยเฉพาะประถมในรร.เอกชนระดับแนวหน้าของประเทศ ตำราออกแบบมาแบบที่กล้าเรียกว่าขยะ จนแนะนำผปค.ให้ย้ายลูกซะ มันส่งผลที่ไม่ดีต่อความใส่ใจในการเรียน ข้อสอบที่ไม่มีคำตอบที่ถูกยังเจอมาแล้ว 🤔
3/ ระบบภาษีที่ UK มีค่าแรงขั่นต่ำรายชม.ตามภาพ และขึ้นทุกปีไม่เคยพลาด = ค่าครองชีพที่นี่ สมดุลกว่าบ้านเราเยอะ ค่าแรงขั้นต่ำบ้านเราชม.ละเท่าไรครับ ที่นี่ครล้างจานก็เข้า Starbucks ได้ มีเงินเก็บได้หากบริหารเป็น ภาษีหักจากเงินเดือนตามระบบเข้าแบงค์ เสียประกันสังคมเหมือนบ้านเรา
Read 5 tweets
11 Nov
1/ #เล็งเหรียญ หลังจากได้นั่งวิเคราะห์ตลาด Gaming และตลาด Metaverse เลยมานึกถึงเหรียญหนึ่งที่น่าจะมีอนาคตไกลเช่นกัน แต่ตอนนี้เหมือนยังไม่ได้มี Development ที่คืบหน้าซักเท่าไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะ #POLC อยู่ในเครือ #DOT ที่สร้าง Parachain เพื่อรับการพัฒนาจากโปรแกรมเมอร์ที่มี
2/ พื้นฐานภาษาโปรแกรมมิ่งที่ต่างกันไป เลยจะเน้นเป็นโปรเจ็คท์ Startup หลายๆตัวซะมากกว่าใหญ่ๆตัวเดียว (ผ่าน #KSM ที่เป็นเชนทดสอบ) แต่ที่สำคัญคือ ทั้งหมดจะเชื่อมเข้าด้วยกันทุกเชน ทำให้เป็น Cross-chain Ecosystem ของ Blockchain ที่สมบูรณ์ที่สุดหากทำได้สำเร็จ

3/ ด้วย M.Cap ที่เพียง $15ล. และ FDM.Cap $446ล. โอกาสขยาย 10x เกิดขึ้นได้ในเพียงไม่กี่วันในโลกคริปโต ตอนนี้เริ่มสะสมไว้เรื่อยๆแล้ว รอวันที่ยุคของ #DOT จะมาถึง คาดว่าต้องให้เวลา แต่ตอนนี้ใน #POLC มีโอกาสให้ลงทุนซื้อทรัพย์สินรับ Passive Income! เช่นการซื้อรถแท็กซี่/ปั๊มน้ำมัน/อื่นๆ Image
Read 7 tweets

Did Thread Reader help you today?

Support us! We are indie developers!


This site is made by just two indie developers on a laptop doing marketing, support and development! Read more about the story.

Become a Premium Member ($3/month or $30/year) and get exclusive features!

Become Premium

Too expensive? Make a small donation by buying us coffee ($5) or help with server cost ($10)

Donate via Paypal

Thank you for your support!

Follow Us on Twitter!

:(