#ไฮทานิทาเค ทาเคมิจิ 20 ไฮทานิ 13-14 (ไม่ได้พรากผู้เยาว์ เปโด หรืออะไรทั้งนั้น ไม่ชงส่อกับเด็กด้วย ฟีลไอ้พวกตัวแสบมันชอบเขาอยู่ฝ่ายเดียว)

Auทาเคมิจิเป็นนักศึกษาของสถาบันประกอบอาหาร เรียนอยู่แผนกเบเกอรี่ ก็คือน้องอยากเป็นเชฟทำขนมนั่นแหล่ะ
เรียนมาได้สองปีอีกปีเดียวจะจบหลักสูตรแล้ว และเพราะสถาบันมันตั้งอยู่ที่รบปงงิทาเคมิจิเลยต้องมาหาห้องพักอยู่แถวนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่เพราะเน้นถูกเป็นหลัก สภาพแวดล้อมก็เลยได้ตามราคาไปด้วย
แต่อยู่มาได้สองปีก็ไม่มีอะไรนะ มาวันนี้นี่แหล่ะดันกลับบ้านดึกเพราะอบขนมเพลินเลยบังเอิญเจอกับพวกแก็งค์นักเลงเข้า

ตอนแรกก็ตกใจวิ่งไปหลบหลังเสา โชคดีที่พวกมันไม่ได้ทันสังเกตเห็นเขาเพราะกำลังมุงดูอะไรสักอย่างอยู่
ทาเคก็ไม่ได้สนใจอะไรไม่อยากหาเหาใส่หัว หันหลังกะเดินอ้อมกลับห้องพักเอาแล้วกัน แต่ลูกตาเจ้ากรรมมันดันเหลือบไปเห็นเด็กตัวเล็กสองคนที่ยืนอยู่กลางวงล้อมนักเลงนั่นเข้าให้น่ะสิ

คนนึงเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักถักผมเปียรูปร่างบอบบางกำลังยืนนิ่งจ้องพวกที่เข้ามาหาเรื่องด้วยใบหน้าเรียบเฉย
ส่วนอีกคนนึงเป็นเด็กผู้ชายมัดจุกใส่แว่นกลมๆหน้าตาเคาะออกมาจากพิมพ์เดียวกันกับคนข้างๆแต่ตัวเล็กกว่าหน่อยให้เดาคงเป็นน้องชาย

เห็นเด็กน้อยสองคนกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้วมีหรือเลือดฮีโร่ในกายมันจะไม่พุ่งพล่าน

ถ้าจะต่อยก็มาต่อยกับคนที่มันตัวเท่าๆกันสิวะ มารีดไถเด็กม.ต้นมันใช่เรื่องไหม
เหมือนเห็นภาพตัวเองเมื่อก่อนที่ถูกพวกเด็กเกเรในโรงเรียนรังแกซ้อนอยู่ในเด็กสองคนนั้น เลยเลือดขึ้นหน้าไปนิดเท้าเผลอวิ่งไปโดดเตะนักเลงคนนึงร่วงกลางวง

เวลานั้นไม่ได้มีแค่พวกนักเลงที่เหวอ รันกับรินโดที่ว่าจะซ้อมพวกแม่งสั่งสอนซะหน่อยก็เหวอไปด้วย
สองพี่น้องยืนนิ่งมองแขกไม่ได้รับเชิญฟัดกับนักเลงอีกสองคนแบบทุลักทุเลจนสุดท้ายก็ได้ชัยชนะมาแบบหอบแฮก สภาพยับเยินยิ่งกว่าไอ้พวกที่ลงไปนอนกลิ้งซะอีก

“เป็นอะไรไหม?”

ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหน้ามาถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยพวกเขาทั้งที่เลือดกับเหงื่อเปรอะหน้าไปหมด
รินโดขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ที่โดนเข้ามาจุ้นจ้าน ส่วนรันก็ไม่ได้ตอบอะไร เดินเข้าไปใกล้คนที่เท้าเข่าหอบหายใจเหนื่อยเงียบๆ

“นี่— พี่ชาย”

เสียงนุ่มยังไม่แตกเนื้อหนุ่มเอ่ยเบาๆ ไม่ทันให้ทาเคมิจิเงยหน้าขึ้นมาตอบรับก็โดนกระชากคอเสื้อลงมาใกล้ใบหน้าเกลี้ยงเกลา
“!?”

ตกใจที่เด็กผู้หญิงเดี๋ยวนี้แรงเยอะจัง หรือเพราะเขาพึ่งไปซัดกับพวกนักเลงมากันนะ

“ดันมาสอดไม่เข้าเรื่องแบบนี้ก็น่าเบื่อแย่น่ะสิ”

ใบหน้าน่ารักเอียงคอแววตาสีสวยเยียบเย็นจนน่ากลัว

“แบบนี้พวกเราคงต้องเล่นกับพี่ชายแทนแล้วล่ะ...เนอะรินโด?”

เอ๋ ตะกี้คือเล่นกันอยู่เหรอ
แสดงว่าที่นอนอยู่บนพื้นก็นักเลงปลอมน่ะสิ! นี่เขาเข้ามายุ่งการละเล่นของเด็กๆเหรอเนี่ย

ก็พอเข้าใจได้ ทาเคมิจิเมื่อก่อนก็มีเล่นพวกบทบาทสมมุติบ่อย แบบเล่นพ่อแม่ลูกอะไรแบบนั้น

จะว่าไปเด็กสมัยนี้เล่นอะไรแปลกจัง ฮิตบทบาทนักเลงเนี่ยนะ
“ข ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าพวกเธอกำลังเล่น–” “ช้าไปแล้วล่ะพี่ชาย”

สะดุ้งโหยงเมื่อเอวถูกแขนของเด็กผู้ชายใส่แว่นล็อคเอาไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหน กระพริบตาหันมามองอีกคนที่ยิ้มหวานให้ทว่าดันกำคอเสื้อเข้าไว้แน่นจนรู้สึกอึดอัด

“เอ่อ…”

“มาสนุกกันเถอะ~”
แขนขวาถูกง้างขึ้นตรงหน้า ถึงจุดนี้ทาเคมิจิก็เริ่มลังเลแล้วว่าเขาควรเล่นไปตามน้ำกับเด็กๆหรือว่าทำทีแกล้งขัดขืนดี

เล่นอะไรแบบนี้ไม่เก่งซะด้วยสิ แถมเจ็บแผลที่พึ่งได้มาอีกต่างหากอยากรีบกลับบ้านไวๆแล้ว

ค่อยมาเล่นด้วยไถ่โทษทีหลังแล้วกัน
ดูเหมือนจะเหม่อครุ่นคิดกับตัวเองมากไปหน่อยในวินาทีที่กำปั้นเหวี่ยงลงมาจะปะทะเข้าหน้าจังๆดวงตากลมก็เลยยังคงจ้องอยู่ที่คนหมายปองร้ายตนจริงๆชนิดที่ว่าไม่กระพริบ

นั่นทำให้รันเลือกจะหยุดหมัดไหว้เฉียดใบหน้าร่างสูงกว่าไปหวุดหวิด

“พี่?”

“เห…”
ไม่ทันจะได้เปิดปากพูดอะไรต่อสองพี่น้องก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อเจ้าคนที่ยืนนิ่งเป็นตอไม้จู่ๆก็ขยับตัวมาแกะแขนรอบเอวออกอย่างนุ่มนวล หันไปล้วงกระเป๋าเป้แล้วหยิบถุงกระดาษมาวางบนมือพวกเขาด้วยสีหน้าจริงจัง

“ไว้มาเล่นกันวันหลังนะ วันนี้ผมยุ่งมากเลย”
“อันนี้ของไถ่โทษ ผมต้องขอโทษจริงๆนะที่มาขัดเวลาสนุกของพวกเธอ”

“แล้วทีหลังเป็นเด็กผู้หญิงก็อย่าเอาหน้าไปใกล้คนอื่นขนาดนี้นะรู้ไหม โดยเฉพาะผู้ชายน่ะมันเป็นสัตว์ป่าทุกคนนั่นแหล่ะ”
ดวงตาสีกล้วยไม้เบิกกว้างคล้ายไม่เชื่อหูในสิ่งที่ได้ยิน ไม่รู้จะอึ้งที่โดนสั่งสอนเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กผู้หญิงหรืออึ้งที่เจ้านี่มันซื่อบื้อซะจนคิดว่าพวกเขากำลังเล่นอยู่จริงๆกันแน่

หันไปมองน้องชายที่หันหน้าหนีกลั้นขำจนไหล่สั่นแล้วคิ้วก็ยิ่งกระตุก

“เธอก็ด้วย”
“อย่าไปกอดใครซี้ซั้วแบบนี้สิ มันอันตรายนะ”

คราวนี้เป็นตาไฮทานิคนน้องสะดุ้งน้อยๆเมื่อโดนเรียก หันขวับอ้าปากจะเถียงแต่ก็โดนสายตาดุๆหยุดไว้

ไม่รู้ทำไม รู้สึกเหมือนกำลังถูกแม่ดุอยู่เลย

“นี่ก็ดึกแล้วด้วยพวกเธอกลับไปเถอะ เดี๋ยวผมดูแลเพื่อนๆให้เอง”

“เพื่อนๆ?”
นี่มันแต่งเป็นเรื่องเป็นราวแล้วโว้ย555 หยุดเด๋วนี้ตัวฉัน แค่เวิ่นพอ ต่อไปนี้จะเป็นเวิ่นนะคะ ขี้เกียจแล้ว
ทั้งสองถึงกับบางอ้อเมื่อสายตากระอักกระอ่วนใจมองไปยังเศษซากบนพื้น สรุปคู่พี่น้องก็เลยบอกว่าไม่ต้องอ่ะเดี๋ยวจัดการเอง ทาเคก็เลยแค่ให้ค่ารักษาพยาบาลไปแล้วลากลับ แถมไม่ลืมย้ำให้เขากลับบ้านกันดีๆด้วย

พอร่างหายไปจากสายตารินโดก็มองพี่ชายแบบไม่เข้าใจเลย
มันแฮปปี้เกินไป ไหงพี่ยอมปล่อยไปง่ายๆมันหยามเราเป็นแค่เด็กเล่นต่อยตีเลยนะเว้ย

คนเป็นพี่ชายยักไหล่หมุนตัวเดินกลับพลางหยิกคุกกี้ในถุงกระดาษที่ได้รับมาโยนเข้าปาก

“ก็เจ้านั่นบอกจะมาเล่นด้วยวันหลัง”

“แล้วพี่ก็เชื่ออ่ะนะ?”

“อื้อ”

รันยิ้มขำเมื่อเห็นสีหน้าคนน้องคิ้วแทบผูกกันเป็นโบว์
“ทำไม?”

“คุกกี้อร่อยดีนะรินโด”

กรีดยิ้มร้ายบนริมฝีปาก ชูถุงกระดาษในมือขึ้นโบกไปมาให้น้องชายเห็นนึกชอบใจรสชาติของไถ่โทษพวกนี้อยู่ไม่น้อย

ก็ลองไม่มาดูสิ

ผิวปากเหลือบมองตราสถาบันประกอบอาหารชื่อดังในย่านนี้ประทับเด่นหราอยู่กลางถุง

“ถ้าน้องไม่ชอบพี่ขอน้า” “ไม่ ผมจะกิน”
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาทาเคมิจิก็มักจะเจอสองพี่น้องระหว่างทางกลับบ้านเสมอ แล้วก็โดนชวนไปเล่นแผลงๆอยู่ประจำ

อย่างไปดักตีคนนู้น ไปต่อยคนนี้ ไปกระทืบคนนั้น

ครั้งแรกไม่เท่าไหร่ พอมีสองสามสี่ห้าตามมาก็เริ่มแน่ใจแล้วว่าไอ้เด็กหน้าใสสองคนนี้มันเป็นนักเลงจริงๆแถมเก่งด้วย
ตอนนั้นแหล่ะถึงเริ่มหวาดๆขึ้นมา เหงื่อซึมเลยพอนึกว่าตัวเองทำอะไรไว้ตอนเจอกันครั้งแรก

“ทาเคมิจิ~ วันนี้ทำขนมอะไรมาให้พวกเราเหรอ”

“หยุดสะดีดสะดิ้งได้แล้วน่าพี่ น่าเกลียด”

พอมองไปยังคนที่เข้ามาออดอ้อนด้วยดวงตาใสแจ๊วเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆแล้วใจคิดหนีก็พาลอ่อนยวบทันใด
ไม่ล่ะ ไม่มีทาง รันกับรินโดเป็นเด็กดี นักเลงอะไรกันมันก็แค่ภาพลวงตา เขาคงจะหลอนไปเองทั้งนั้น

“กิ๊ฟหลุดหมดแล้ว”

“งั้นเหรอ? ติดให้หน่อยสิ”

“ทาเคมิจิ แว่นตาล่ะ”

“นี่ครับ”

อีกอย่างไฮทานิจิ๋วทั้งสองนั้นชอบขนมของเขามากๆ เด็กที่กินด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยได้ขนาดนั้นไม่มีทางเลวร้ายหรอก
“มีทาเคมิจิอยู่ใกล้ๆนี่ดีจังน้า”

“อืม นั่นสิ”

ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีบลอนด์ทองต่างทรงเอนซบไหล่ของคนอายุมากกว่าตรงกลางคนละข้าง

สวนสาธารณะที่พวกเขาชอบมาประจำนั้นเงียบสงบจนแทบได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน

“เหมือนได้กลับบ้านเลย”
บางครั้งทั้งสองก็ดูเหงาเหมือนต้องการบางสิ่งมาห่มกอดเอาไว้

ทาเคมิจิเดาว่ามันคือความเอาใจใส่ของผู้ใหญ่สักคน คงไม่มีพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกได้ดีที่ไหนปล่อยให้ลูกออกมาต่อยตีไม่เว้นวันแบบนี้

แล้วผู้ใหญ่สักคนคนนั้นตอนนี้ก็เป็นเขา
แม้ไม่ได้เลี้ยงดูอะไรมากมายแต่ก็อยากให้เติบโตมาอย่างแข็งแรงและมีความสุข

มีอนาคตที่ดีกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่

เพราะทั้งสองเนื้อแท้แล้วเป็นเด็กดี ทาเคมิจิเชื่อมั่นแบบนั้นจริงๆ

จนมาวันนี้…ความมั่นใจทั้งหมดนั้นได้กลายเป็นเพียงปราสาททรายที่ถูกคลื่นซัดสลายหายไปแค่ชั่วพริบตา
“—รัน…รินโด?”

“อ้าว ทาเคมิจิออกมาซื้อวัตถุดิบเหรอ”

ในหูอื้ออึงไปด้วยเสียงไซเรนแผดสนั่นแต่สุรเสียงนุ่มติดทีเล่นทีจริงนั่นกลับชัดเจนจนน่าใจหาย ใบหน้าแสนคุ้นเคยท่ามกลางหมู่คนในชุดเครื่องแบบที่เดินวุ่นวายทำนักศึกษาหนุ่มชาวาบไปทั้งตัว

“โทษทีนะ พวกเราคงไม่ได้อยู่กินมันสักปีสองปี”
“พวกเธอ…ทำอะไรลงไป”

เสียงสั่นเทาคล้ายจะร้องไห้ ขอบตาร้อนผ่าวอยากจะหลอกตัวเองเหลือเกินว่าที่อยู่บนข้อมือของเด็กที่เขาเฝ้าดูแลมาไม่ใช่อุปกรณ์จับกุมและร่างท่วมเลือดที่โดนหามออกไปเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ยังมีลมหายใจ

“เหมือนจะเผลอฆ่าคนไปซะแล้วน่ะ”

“ช่วยไม่ได้ มันดันอ่อนแอเอง”
ราวกับโลกหยุดหมุนและถล่มลงมาในวินาทีนั้น

“ทำไมถึงดูไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ…”

“ต้องรู้สึกอะไรด้วยเหรอ?”

ริมฝีปากเม้มแน่นจนได้กลิ่นคาวสนิม แก้วตาสั่นไหวสะท้อนภาพใบหน้าไม่สะทกสะท้านของไฮทานิคนพี่

ไม่นานก็เอ่อล้นไปด้วยหยาดฝนจนทุกอย่างพร่ามัว
สองพี่น้องเบิกตากว้างใจกล่นวูบเมื่อเห็นภาพธารน้ำที่ร่วงหยดลงจากดวงตาที่พวกเขามักจะชมมันบ่อยครั้งว่าสวยเหมือนกับท้องฟ้า

ท้องฟ้ากำลังร้องไห้

ทำไมล่ะ…

อย่าร้องเลยนะ เพราะพวกเรางั้นเหรอ
ไม่เหลือเวลาให้แม้แต่จะเอ่ยคำลา ร่างทั้งสองถูกดันให้เข้าไปในรถตำรวจ ภาพสุดท้ายที่ดวงตาสีดอกไม้ได้เห็นมีเพียงใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาและแววตาโศกเศร้า

อย่าทำหน้าเหมือนกับว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันจริงๆสิ…

“พี่…ทำยังไงดี”
น้ำเสียงร้อนใจจากน้องชายไม่ได้ดังผ่านโสตประสาทของรัน ดวงตาคมกริบเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ภาพสายตาผิดหวังของชายหนุ่มที่ตนเผลอตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวราวถูกกรอซ้ำไม่รู้จบเหมือนสัญญาณขัดข้อง

ปึก!!
รินโดสะดุ้งเฮือกเมื่อคนข้างกายเอาหน้าผากกระแทกกระจกอย่างแรง กระแทกซ้ำๆจนต้องลุกขึ้นเบียดตัวเองเข้าไปแทรกระหว่างกระจกกับพี่ชาย

“ทำบ้าอะไรของพี่เนี่ย!?”

“รินโด—”

แม้ริมฝีปากจะแย้มยิ้มบางส่งมาให้แต่รินโดรู้ดีว่าในแววตาลุ่มลึกนั้นกำลังเจ็บปวด

“ดูเหมือนพวกเราจะโดนเกลียดซะแล้วล่ะ”
เอาแล้วนะครับท่านผู้อ่าน มาถึงเกมทางเลือกแล้ว คิดว่าตอนจบจะเอาแบบไหนดีครับ
ผลโหวตออกมาแล้ว สรุปเข้ารูทพี่รู้พี่มันเลวนะคะ/ซับหัวตา

เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกลายเป็นแผลฝังใจทาเคมิจิจนทำไม่เป็นอันกินอันนอนไปเกือบครึ่งปี

เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะลืมทุกๆอย่างเกี่ยวกับรันและรินโด ทุ่มเทให้การเรียน หางานพิเศษทำจนไม่มีเวลาว่างเว้นให้คิดอะไรในหัว
ทว่า…ยิ่งอยากลืมมันกลับยิ่งชัดเจนจนน่าใจหาย

ไหล่ดูจะเบาไปถนัดตาเมื่อไม่มีแขนของไฮทานิคนพี่มาพาดมาก่ายเล่น ทางเดินกลับบ้านนั้นเงียบเหงาชวนวังเวงเมื่อไร้เสียงบ่นงึมงัมจากเจ้าของแว่นตาทรงกลม

ไม่มีเด็กน้อยสองคนที่นั่งรอลุ้นขนมในแต่ละวันด้วยดวงตาเป็นประกาย

ไม่มี
หรือความจริงแล้วมันอาจจะไม่ควรมีตั้งแต่แรก

บางครั้งทาเคมิจิก็เผลอคิดขึ้นมาว่าถ้าเขาห้ามทั้งสองคนตั้งแต่แรกและชี้แนะในทางที่ถูกเรื่องทุกอย่างคงไม่จบลงแบบนี้

ถ้าเขามั่นใจในตัวเองอีกสักหน่อยและใจแข็งอีกนิดล่ะก็—

มีแต่คำว่า‘ถ้า’ผุดขึ้นมาเต็มไปหมดในเวลาที่สายเกินไปแล้ว
5ปี 10ปี 14ปี ฤดูผันเปลี่ยนไปพร้อมกับเรื่องราวอันขมขื่นที่ฝากรอยแผลเป็นเด่นชัดทิ้งไว้ในความทรงจำ

ทาเคมิจิเรียนจบอย่างที่หวังและได้ย้ายกลับมาอยู่ที่ชิบุย่าตามภูมิลำเนาเดิมของตัวเอง หุ้นกับเพื่อนในสถาบันคนนึงเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตามที่ใฝ่ฝันไว้
ก็ไม่ถึงกับทำได้อย่างที่ฝันไว้ทั้งหมดหรอก

ในเวลาว่าง…บ่อยครั้งที่ทาเคมิจิจะเผลอเหม่อมองไปยังโต๊ะตัวนึงภายนอกร้านอยู่เสมอ

มันเป็นขนาดโต๊ะเล็กสำหรับนั่งกินกาแฟตามประสาร้านเบเกอร์รี่ทั่วไป มีเก้าอี้ขนาบข้างสองตัวเหมือนกับตัวอื่นๆไม่ผิดเพี้ยน
แตกต่างแค่ตรงมันคือโต๊ะกิตติมศักดิ์ของลูกแมวจรสองตัว ที่เป็นขาประจำร้านอาหารฝั่งตรงข้าม

ลูกแมวขนฟูสีขาวตัวนึงหูพับอีกตัวนึงหูตั้ง ทั้งสองมักจะมานอนอาบแดดยามเช้าและตากลมยามเย็นตรงนั้นเสมอ

เจ้าลูกแมวสองตัวนั้นหน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ ชนิดที่ว่าถ้านอนซุกกันจะเห็นเป็นตัวเดียวได้เลย
ทำเอา…อดคิดถึงไม่ได้

จะยังสบายดีกันอยู่ไหมนะ ป่านนี้คงเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว

ถ้าเกิดยังอยู่ด้วยกันก็คงดี…รินโดน่ะขี้เหงาจะตายถ้าไม่มีพี่สาวล่ะก็จะเอาแต่เก็บตัวไม่ไปไหนเลย เพราะฉะนั้นขาดรันไม่ได้หรอก

แต่รันเนี่ยสิจะทิ้งน้องไปต่อยตีที่ไหนรึเปล่า
พอคิดเยอะๆเข้าโรคคุณแม่ก็ชักกำเริบขึ้นมา ต้องเบี่ยงเบนความสนใจลุกไปยืนจัดขนมปังแทนเหมือนทุกที เลยมีโอกาสได้เห็นภาพดีๆอย่างคนที่แวะผ่านไปมาหยอกล้อเล่นกับเจ้าแมวหน้าร้านอย่างสนุกสนานเป็นภาพที่ชวนให้อมยิ้มตามไม่น้อย

“อ๊ะ ตรงนี้มีลูกแมวด้วยล่ะ”
“อย่าไปจับสิพี่ เดี๋ยวขนก็ติดเสื้อหรอก”

“แหม นิดๆหน่อยๆเองน่า”

คราวนี้เป็นหนุ่มหล่อสองคน เกิดเป็นแมวนี่ดีจริงๆนอนเฉยๆก็มีคนมาเอ็นดูไม่ขาด

“สกปรก”

เขาเห็นด้วยกับคนผมยาวนะ เล่นใส่สูทเต็มยศขนาดนั้นมาคลุกกับเจ้าพวกก้อนขนคงไม่ดีเท่าไหร่

“ดูสิ เจ้าพวกนี้น่าจะเป็นพี่น้องกันแน่เลย”
“รู้ได้ยังไง”

ลูกแมวหูตั้งถูกจับขึ้นมาชูขาหน้าขึ้น ชายหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีไลแลเซ็ตอย่างดีหัวเราะเบาๆยามจับเท้าเล็กๆโบกไปมาให้ชายอีกคนตรงหน้า พลางเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆขณะเหลือบมองไปทางลูกแมวหูพับที่กำลังขู่ฟ่อใส่คนที่จับตัวเพื่อนไป

“ก็เหมือนพวกเราเปี๊ยบเลยนี่”
.
.
.

“ไม่คิดแบบนั้นเหรอ ทาเคมิจิ”

!!!

ใบหน้าฉายความตื่นตระหนกหันขวับไปทางต้นเสียงทันที แววตาไหววูบเมื่อสบเข้ากับเฉดสีอันคุ้นเคยในดวงตาทั้งสองคู่

“ไง ไม่ได้เจอกันตั้งนานดูไม่เปลี่ยนไปเลยนะ”

เหมือน…

เหมือนมาก แต่ก็แตกต่างจนน่าสับสน
“อ เอ๊ะ เรารู้จักกันด้วยเหรอครับ”

สิ้นประโยครอยยิ้มละไมพลันหายจากใบหน้าดูดีไปชั่ววูบ ก่อนจะกลับมาเป็นแบบเดิมทันทีที่อีกคนส่งเสียงไม่สบอารมณ์ขึ้นขัดบรรยากาศอึดอัด

“เหอะ นี่ถึงกับลืมกันเลยเหรอเนี่ย ใจร้ายเป็นบ้า”

ยิ่งทำให้เขาเริ่มลังเลเมื่อสัมผัสได้ถึงกระแสความน้อยใจอย่างชัดเจน
เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้ แอ่ก
“อย่าไปถือสาเลย ก็ผ่านมาตั้งนานแล้วนี่นา”

หัวใจสั่นระริกยามร่างสูงกว่าเกือบหนึ่งช่วงหัวเยื้องย่างเข้ามาใกล้ เจ้าของใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นอีกคนถอยหนีอย่างหวาดระแวงไปหลายก้าว

แตะปลายนิ้วลงบนคางทำทีท่าว่ากำลังครุ่นคิดบางอย่างขณะไล่สายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“อืม— งั้นถ้าทำแบบนี้จะจำได้รึเปล่า”

เครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมาบนหัว พริบตาต่อมาก็พลันกระจ่างทันทีที่คนสูงกว่าก้มรวบต้นขาเขายกขึ้นมาอุ้ม ทาเคมิจิเผลอหลุดร้องเสียงหลงคว้าไหล่อีกฝ่ายไว้แน่น ก้มมองเจ้าคนเล่นแผลงๆด้วยสีหน้าตื่นตกใจ

“ทำบ้าอะไรของคุณเนี่—!?”

“มาเล่นกันเถอะ~ พี่ชาย”
ทุกการกระทำพลันชะงัก แก้วตาไหวระริกเช่นเปลวเทียนต้องลมหยุดนิ่งมองใบหน้าคมคายที่เกยอยู่บนอก ภาพสอนทับของเด็กคนนึงที่มักเข้ามาออดอ้อนเขาด้วยวิธีนี้ฉายชัดเข้ามาในหัว

“พี่ชายตัวเบาจังเลย ไม่ยอมกินข้าวให้ตรงเวลาอีกแล้วใช่ไหมคะ”

เสียงนุ่มทุ้มติดแหบพร่าฟังดูแฝงความซุกซน
แววตาพราวระยับ ท่าทางทีเล่นทีจริง ถึงจะไม่เหมือนกับเมื่อก่อนซะทีเดียวแต่สีของดวงตาคู่สวยนั่นก็ยืนยันได้เป็นอย่างดี

“รัน?”

“ปิ๊งป่อง— ถูกต้อง”

ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง มือที่ยึดเกาะไหล่กว้างอยู่ต้องเปลี่ยนมาคว้าหมับใบหน้าร่าเริงก้มมองจนตาแทบถลน

“??”

“ไหงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ!?”
ฝ่ายโดนโพล่งคำถามใส่ยิ้มงุนงง

“แล้วพี่ชายคิดว่าฉันต้องเป็นแบบไหนล่ะ?”

เมื่อโดนถามกลับบ้างสายตาจึงเบี่ยงไปทางอีกคนที่ยืนกอดอกอยู่ด้านหลังเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ

“อะไร ฉันไม่เคยพูดสักหน่อยว่าพี่เป็นผู้หญิง”

รินโดยักไหล่เป็นเชิงไม่รู้ไม่ชี้ โต้ตอบพร้อมรอยยิ้มยียวน
ก็ทาเคมิจิตอนโดนพี่รันเข้าไปอ้อนจนหน้าแดงไปหมดมันตลกดีนี่นา เรื่องอะไรจะบอกล่ะ

“เห เข้าใจผิดนี่เอง ตกใจหมดเลย”

อย่างกับว่าภาพนางฟ้าตัวน้อยแตกดังเพล๊งต่อหน้าต่อตา หน้าซีดค่อยๆก้มมองเจ้าของรอยยิ้มหวานหยดที่ค่อยๆวางเขาลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล

“รินโด พี่ตัดสินใจได้แล้ว”
ยืดตัวเต็มความสูง จัดสูทบนตัวให้เข้าที่เข้าทางโดยไม่ลืมจะคว้าข้อมือคนตัวเล็กไว้ไม่ให้หลบหนี

“โทรไปยกเลิกนัดเลย วันนี้เราจะไปสนุกกัน”

ได้ยินเช่นนั้นดวงตาของไฮทานิคนน้องก็เกิดประกายความยินดีระริก ยิ้มกว้างเห็นเขี้ยวน่าเอ็นดู ทำเอาทาเคมิจิที่กำลังจะโวยวายปฏิเสธยังงับปากลงแทบไม่ทัน
“คงตอบตกลงใช่ไหม”

สายตาตาคาดหวังไม่ปิดบัง มาถึงขนาดนี้แล้วถ้าตอบว่าไม่คงตองมีใครตรงนี้ร้องไห้แน่ๆ

“ไถ่โทษที่ทิ้งพวกเราไว้เป็นสิบปีไง แค่เที่ยวด้วยกันนิดหน่อยไม่เสียหายหรอกเนอะ”

เหมือนโดนเอามีดมาสะกิดแผลเก่า รันพูดถูกทุกอย่างจนเขาสะอึกเถียงไม่ออก
พวกเราสบตากันอยู่นานและดูท่าเจ้าหนุ่มหล่ออดีตเด็กน้อยน่ารักจะไม่ยอมลามือไปง่ายๆ

คนอายุมากกว่าหลุบตาลงความรู้สึกหลากหลายตีกันวุ่นวายในหัว เขาก็ไม่ได้อยากปฏิเสธหรอกแค่ต้องการเวลาจัดเรียงความคิดก็เท่านั้น

ทั้งสับสน ห่วงใย ตกใจ ลังเล ทุกอย่างมันปนเปกันมั่วไปหมด
สิ่งที่ชัดเจนมีเพียงความรู้สึกยินดีที่เห็นทั้งสองเติบโตมาได้อย่างไม่เจ็บป่วยเท่านั้น

“พวกเธอนี่มันจริงๆเลย…”

ดูสิ…มือที่เคยเล็กนิดเดียวตอนนี้กลับกำแขนเขาได้ซะรอบ ผิวนุ่มนิ่มก็ติดสากขึ้นนิดหน่อยอย่างคนทำงานที่ต้องใช้มืออยู่บ้าง
เมื่อก่อนสูงแค่ประมาณอกแท้ๆ ไปกินอะไรกันมานะถึงได้ตัวใหญ่ขนาดนี้

โครงหน้าที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่างหล่อเหลากับงดงามพวกนั้นก็ช่างชวนเข้าใจผิดจริงๆนั่นแหล่ะ โดยเฉพาะเมื่อก่อนที่มันดูน่ารักกว่านี้เยอะเลย

“จะไม่ไปจริงๆเหรอ?”
เป็นเสียงทุ้มแผ่วของคนเด็กที่สุดในตรงนี้ที่เป็นฝ่ายขยับเข้ามาอ้อนบ้าง มือที่ขนาดไม่ต่างจากพี่ชายนักเกี่ยวชายเสื้อยืดของทาเคมิจิช้อนตาเศร้าๆมองอย่างตัดพ้อ

แพ้ ทาง สุด สุด

มีแต่รินโดสินะที่ยังน่ารักไม่เปลี่ยน
แทบจะกุมอกทรุดลงกับพื้น ขนาดนี้แล้วถ้าเขายังตอบว่าไม่คงต้องกัดลิ้นตัวเองตายแล้วล่ะ

“ผมขอไปปิดร้านก่อนนะครับ”

เมื่อได้รับคำตอบที่พอใจรันจึงยอมปล่อยให้พี่ชายคนโปรดของพวกตนไปเก็บข้าวของแต่โดยดี หันมายิ้มกริ่มกับน้องชายโดยไม่ลืมจะเอ่ยแซว

“ทีกับพี่ล่ะไม่เห็นเคยอ้อนแบบนี้บ้างเลย”
ดัดเสียงแสร้งเป็นน้อยอกน้อยใจจนคนน้องมองด้วยสายตาเย็นชาใส่

“พี่ชื่อฮานะกาคิ ทาเคมิจิป่ะล่ะ”

“สรุปใครเป็นพี่ชายรินโดกันแน่เนี่ย”

“พี่รันไง”

พูดจบแก้วตาสีช่อหลงต่านวาววับก็หันไปจับจ้องแผ่นหลังแคบในร้านขนมเล็กๆที่กำลังขยับเก็บนู่นเก็บนี่อย่างคล่องแคล่ว
“แล้วก็ไม่ได้อ้อนเพราะอยากได้เป็นพี่ชายสักหน่อย”

พึมพำกับตัวเองแต่ได้ยินเต็มสองรูหูคนข้างๆ แน่นอนว่ารันที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างตาเป็นเสี้ยวอดจะเอ็นดูน้องชายตัวเองไม่ได้

ไฮทานิคนสุดท้องนี่ก็ร้ายเชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ

ผิวปากอารมณ์ดีเมื่อในที่สุดคนตัวเล็กก็กลับออกมายืนตรงหน้า
““ไปกันเถอะ””

ผสานเสียงกันพร้อมยื่นมืออกมาคนละข้าง ส่งผลให้ทาเคมิจิชะงักไปเล็กน้อย

“ต ต้องจับมือด้วยเหรอ”

เหงื่อตกมองมือทั้งคู่สลับกันอย่างไม่แน่ใจ

“เมื่อก่อนก็ทำออกจะบ่อยนี่?”

ก็นั่นมันเมื่อก่อนที่พวกเธอยังเป็นเทวดากับนางฟ้าตัวน้อยๆไม่ใช่หนุ่มหล่อมาดนายแบบแพรวพราวแบบตอนนี้!
ทำใจอยู่นานสุดท้ายก็พ่ายแพ้เมื่อโดนกดดันทางสายตา

ให้ตายเถอะเจ้าพวกเด็กแสบ

“ดีใจจังที่ได้จับมือกันอีก”

มือที่กุมเอาไว้ฝั่งไฮทานิคนพี่ถูกบีบเบาๆ สองแก้มของคนที่กล่าวขึ้นมาลอยๆแดงระเรื่อผลิยิ้มละไมบนมุมปาก
สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเช่นนั้นราวกับคนข้างๆได้กลายเป็นรันคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก

“อุ่นจัง”

เสียงงึมงำแผ่วเบามาพร้อมกับแรงกระชับบนฝ่ามืออีกข้าง แม้ใบหน้าของไฮทานิคนน้องจะเรียบนิ่งแต่แววตานั้นทอประกายอ่อนโยนจ้องมองมือที่แนบแน่นเข้าหากันเหมือนเด็กๆตอนกำลังดีใจที่ได้ของขวัญ
แล้วเขาจะทำเป็นใจร้ายมองไม่เห็นมันได้ยังไง…

“ถึงปากหวานไปผมก็ไม่มีขนมให้หรอกนะครับ”

หรือความจริงที่ติดค้างอยู่ในใจมานับสิบปีจะเป็นสิ่งนี้กันนะ

ลึกๆแล้วทาเคมิจิก็เคยคิดอยากจะลองให้โอกาสทั้งสองคนได้เปลี่ยนแปลงตนเองดูสักครั้งเหมือนกัน

“ตอนนี้พวกเราก็ไม่ได้อยากได้ขนมอีกแล้วล่ะ”
คงจะดีถ้าฮานะกาคินั้นซื่อบื้อน้อยกว่านี้อีกสักหน่อยจนสามารถเข้าใจประโยคที่รันบอกใบ้และสายตาที่เปลี่ยนไปเพียงชั่ววูบของรินโดได้

แต่สำหรับไฮทานิแล้วเพราะทาเคมิจิเป็นเช่นนี้นั่นแหล่ะถึงได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายคนโปรดของพวกเขา

พี่น้องไฮทานิไม่ใช่เด็กดี— ไม่เคยเป็นตั้งแต่แรก
ก็แค่ตีหน้าซื่อหลอกให้คุณเชฟทำขนมฝึกหัดตายใจยอมกระโดดลงเหวมาโอบกอดพวกเขาด้วยตัวเองก็เท่านั้น

ก็เด็กๆน่ะต้องการความรักนี่นา…จริงไหมล่ะ?

ใครจะรู้ว่าในวันที่หน้ากากหลุดออก นกตัวน้อยในกำมือจะเตลิดหนีหายไปเป็นสิบปี
อุตส่าห์วางใจแล้วแท้ๆว่าล่ามไว้ด้วยสิ่งที่เรียกว่าสายสัมพันธ์อย่างแน่นหนา แต่แค่นั้นดันไม่พอซะได้

“งั้นไปคาราโอเกะกันไหม? รู้จักร้านดีๆแถวนี้อยู่”

“แถมข้าวอร่อยด้วยพวกเราแนะนำเลย”

ส่งยิ้มสดใสให้แก่ร่างตรงกลางที่หลับตาเอียงคอครุ่นคิดตาม ท่าทางน่ารักแบบนั้นแทบทำทั้งสองอดใจไม่ไหว
สัมผัสไออุ่นของเนื้อหนัง กลิ่นแป้งขนมอ่อนจางบนผิว น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบหลอมละลายกำแพงน้ำแข็งในใจให้สิ้นได้

“เอาสิครับ ตามใจพวกเธอเลย”

เป็นของพวกเรา ของพวกเราทั้งหมด

“ต้องงี้สิ”

“มื้อนี้พวกเราเลี้ยงเอง”

อ่า— ไม่ได้มีความสุขขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
ความรู้สึกที่ค้นเจอตุ๊กตาตัวโปรดที่หายไปนานคงจะประมาณนี้ล่ะมั้ง

“จะว่าไปตอนนี้พวกเธอทำงานอะไรกันอยู่? เล่นแต่งสูทเดินไปเดินมาในวันหยุดแบบนี้ออกมาทำโอทีเหรอ”

ดวงตาสีเดียวกันแต่ต่างเฉดประสานสายตาชั่วครู่ก่อนฝ่ายอายุน้อยกว่าจะเป็นคนอ้าปากตอบก่อน

“ก็…ประมาณนั้น”
“พวกเราเป็นพนักงานบริษัทน่ะ”

“ใช่ ทำหลายอย่างเลย ติดต่อซื้อขายโภชนาภัณฑ์กับต่างประเทศ ขายอุปกรณ์นู่นนี่ แล้วก็มีบริการส่งเข้าโล- แฮ่ม นอนสำหรับคนนอนหลับยาก”

“ฟังดูดีนะครับ”

“คงงั้น”

ภาพในหัวทาเคมิจิตอนนี้บริษัทที่ถูกกล่าวมาข้างต้นถูกจัดอยู่ในหมวดการแพทย์เรียบร้อยเสร็จสรรพ
ส่วนรันนั้นก็ได้แต่กลั้นขำการโกหกที่ไม่เหมือนโกหกของน้องชายจนโดนรินโดถลึงตาใส่ไปหนึ่งที

“ทาเคมิจิไม่ต้องห่วง พวกเราก็ไม่ได้อยากนอนในคุกไปจนแก่หรอก”

ใช่ เพราะฉะนั้นถึงได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในขั้วอำนาจที่แม้แต่ตำรวจก็แตะต้องไม่ได้ยังไงล่ะ

• • •

Missing some Tweet in this thread? You can try to force a refresh
 

Keep Current with Radish 🍙 เข็นฟิคขึ้นภูเขา

Radish 🍙 เข็นฟิคขึ้นภูเขา Profile picture

Stay in touch and get notified when new unrolls are available from this author!

Read all threads

This Thread may be Removed Anytime!

PDF

Twitter may remove this content at anytime! Save it as PDF for later use!

Try unrolling a thread yourself!

how to unroll video
  1. Follow @ThreadReaderApp to mention us!

  2. From a Twitter thread mention us with a keyword "unroll"
@threadreaderapp unroll

Practice here first or read more on our help page!

More from @Radish_88

Nov 10, 2021
อันเก่าไม่จบแต่จะเปิดอันใหม่แล้ว #ออลทาเค แบล็คดราก้อนทาเค

au ทาเคมิจิรุ่นเดียวกับชินอิจิโร่

*ทาเคมิจิจะนิสัยแบบเดียวกับตอนอายุ27 ไม่ย้อมผมไม่เป็นนักเลง

________

ฮานะฮาคิ ทาเคมิจิ ไม่ใช่คนที่มีเพื่อนเยอะนัก

โดยเฉพาะตั้งแต่ขึ้นมัธยมปลายมา เรียกได้เลยว่าน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทาเคมิจิจะจดจำเรื่องราวของเพื่อนแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ แม้บางเรื่องไม่อยากจะจำเท่าไหร่ก็ตาม

แต่ถึงแม้จะน้อยนิด ในบรรดารายชื่อนั่นก็มีอยู่คนนึงที่พิเศษยิ่งกว่าใครๆ

ซาโนะ ชินอิจิโร่

ชายหนุ่มตัวสูงที่มักจะมาพร้อมกับบรรยากาศสบายๆและรอยยิ้มไร้พิษภัย
พินิจดูกี่ทีรูปลักษณ์ก็ช่างขัดแย้งกับตำแหน่งหัวหน้าแก็งซิ่งขาใหญ่ของเจ้าตัวเหลือเกิน

ชินอิจิโร่นั้นเรียนอยู่คนละห้องกับเขา แต่ชื่อเสียงด้านความโด่งดังของแก็งอันธพาลก็กระฉ่อนมาถึงหูทาเคมิจิอยู่บ่อยครั้งด้วยสื่อกลางอันเป็นเสียงซุบซิบนินทาจากคนในห้อง
Read 33 tweets
Oct 10, 2021
อร่อยมากเรือนี้ แนะนำให้ทุกคนลองชิมดูค่ะ #ฮาชิโทระ

ฮาชิดะ ฮารุกะเป็นคนอัธยาศัยดี

มนุษย์ประเภทเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุยสนุก เข้าถึงง่าย กว้างขวาง

บางครั้งก็ดูเรียบเฉื่อยเหมือนก้อนเมฆที่ลอยเอื่อยในวันฟ้าโปร่ง บางคราก็ดูลึกลับเช่นหลุมดำมืดใต้หุบเหวลึก

อ่านไม่ออก
ใต้เส้นโค้งของดวงตาที่หยีเป็นรอยยิ้มกำลังแฝงไว้ด้วยความประสงค์ใด คงมีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่จะล่วงรู้ว่าก้นบึ้งของความรู้สึกนั้นมีสีสันเป็นเช่นไร

“ยาโทระไม่เหนื่อยบ้างเหรอ”

วันหนึ่งในฤดูร้อนอบอ้าว หยดเหงื่อเม็ดกลมได้ไหลหล่นลงจากกรอบหน้าคมของเพื่อนร่วมคลาสคนหนึ่งในสถาบันเตรียมสอบ
ฮาชิดะนั้นชอบมองดูผลงานจากฝีแปรงของผู้อื่นเป็นที่สุด เพราะฉะนั้นก็เลยใช้เวลาพักไปกับการนั่งมองคนบ้าพลังจรดไส้ดินสอลงบนสมุดสเก็ตอย่างเพลิดเพลินตา

“หืม? ก็ไม่นะ สนุกดีออก”

“ดีจังน้า~ ฉันก็อยากขยันแบบนี้บ้าง”

“งั้นมาวาดด้วยกันสิ”
Read 16 tweets
Sep 23, 2021
มาแปะๆจองพล็อตไว้ก่อน #ออลทาเค

Auทาเคมิจิเป็นบอสบงเท็นแก๊งอาชญากรใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น คนภายนอกเนี่ยรู้จักทาเคมิจิจากชื่อเสียงด้านความโหดเหี้ยม เลือดเย็น และเด็ดขาด รูปลักษณ์ผุดผ่องใสซื่อเป็นเพียงเปลือกนอกของจิ้งจอกล่าเนื้อมากเล่ห์กล
ไม่ต่างจากแอปเปิ้ลอาบยาพิษอันหอมหวานที่ใครๆก็อยากลิ้มลองแม้สุดท้ายจะต้องดับดิ้น

แต่ในความเป็นจริงมันกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง

ทาเคมิจิเป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดาๆที่ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ เกลียดเหล้าแรง ตามคนไม่ทัน ทึ่มๆทื่อๆคิดอะไรเป็นเส้นตรงเหมือนไม้บรรทัด
ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์อะไรนั่นก็แค่ความพยายามจะคีพคูลสุดชีวิตแม้ในใจลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายกรีดร้องอยู่บนพื้นต่างหาก…

ซึ่งไม่มีใครรู้ความจริงข้อนี้เลยแม้แต่ระดับผู้บริหาร

พวกเขาต่างเข้าใจว่าทาเคมิจิเป็นบอสที่เพรียบพร้อมไปด้วยความสามารถและเด็ดเดี่ยวเช่นพายุหิมะในค่ำคืนที่ไร้แสงสว่าง
Read 28 tweets
Aug 19, 2021
#ออลทาเค auคุณมือสไนเปอร์ขี้กลัวกับแก๊งบงเท็น

“นี่น่ะเหรอพ่อสไนเปอร์มือดีที่เขาล่ำลือกัน”

“ตัวเล็กชะมัด”

กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เป็นคำอธิบายมี่ฟังดูดีที่สุดในตอนนี้สำหรับทาเคมิจิ

ลำคอแห้งผากนั่งตัวสั่นงั่นงกอย่างน่าสงสารขดตัวอยู่มุมกำแพงในห้องประชุมเย็นเยือกของแก๊งอาชญากรใหญ่
นึกย้อนทบทวนตัวเองอยู่หลายครั้งระหว่างทางถูกจับตัวมาที่นี่ว่าไปเผลอรับงานกระตุกหนวดเสือพวกนี้มาแบบไม่รู้ตัวรึเปล่า แต่จนแล้วจนรอดแทบจะขุดสมองออกมาแหวกดูก็ไม่เห็นจะนึกออก

ทาเคมิจิค่อนข้างมั่นใจในการกรองงานของตัวเองพอสมควร เขาเรื่องมาก ขี้ระแวง แถมค่าตัวก็สูง
น้อยมากจริงๆที่จะเอาตัวเองไปเสี่ยงในงานที่มีผลระยะยาว แล้วไหงถึงถูกตัวเบิ้มแห่งวงการโลกมืดหมายหัวได้ล่ะเนี่ย

คิดพลางทำตัวให้ลีบเล็กลงเข้าไปอีก กอดอาวุธคู่ใจในอ้อมแขนแน่นสายตากว่าเจ็ดคู่ที่จ้องเป๋งมาทางนี้ทำอยากจะกระโดดหน้าต่างหนีออกไปให้พ้นๆถ้าไม่ติดว่ามือเท้าถูกมัดอยู่ล่ะก็
Read 318 tweets

Did Thread Reader help you today?

Support us! We are indie developers!


This site is made by just two indie developers on a laptop doing marketing, support and development! Read more about the story.

Become a Premium Member ($3/month or $30/year) and get exclusive features!

Become Premium

Don't want to be a Premium member but still want to support us?

Make a small donation by buying us coffee ($5) or help with server cost ($10)

Donate via Paypal

Or Donate anonymously using crypto!

Ethereum

0xfe58350B80634f60Fa6Dc149a72b4DFbc17D341E copy

Bitcoin

3ATGMxNzCUFzxpMCHL5sWSt4DVtS8UqXpi copy

Thank you for your support!

:(