วิธีที่จะได้วัคซีนเพียงพอและยั่งยืนที่สุดคือการพัฒนาเอง ผลิตเอง ใช้เอง และที่เหลือส่งออก (แบบอเมริกา) ตอนนี้มี 2 ทางเลือกที่สำคัญคือ 1) ChulaCoV-19 vaccine ที่กำลังจะเริ่มเฟส 1 (วัคซีนที่จะใช้อยู่ที่ไทยแล้ว ฟังมาว่ามีข้อติดขัดในข้อกำหนดโน่นนี่ ถ้าท่านผู้มีอำนาจอนุเคราะห์ 1/
ให้ออกมา ASAP จะได้รีบทำ) ผลเฟส 1 ในอาสาสมัคร 30 กว่าคนจะเสร็จใน 2 เดือน ต่อเฟส 2 ควบ 3 (phase 2/3) ปลายปีจะมีวัคซีนใช้ อันนี้ของประเทศจริงๆ ไวรัสจะกลายพันธุ์ เราก็สามารถปรับได้และทันใช้ไม่ต้องเข้าคิวซื้อของ limited edition แบบทุกวันนี้ แน่นอนที่สุดมันไม่ทันใจ 2/
ไม่ใช่ไม่ทันใจเฉพาะคุณ มันไม่ทันใจผมด้วย ใครรู้จักผมก่อนหน้านี้ที่ผมพูดหาวัคซีนมาฉีดให้วันละ 3 แสนจะได้เปิดประเทศก่อนตุลา รับนักท่องเที่ยว ตอนนั้นกระแสการอยากได้วัคซีนยังไม่เหมือนวันนี้เลย วัคซีน ChulaCoV-19 เป็น mRNA vaccine ที่คล้าย Moderna มาก ถ่ายทอดจาก Prof Drew Weismann 3/
จาก U of Penn 2) วัคซีนขององค์การเภสัชกรรม เป็น protein vaccine ที่เค้าดัดแปลงโปรตีนของไวรัสให้เสถียรขึ้น (Hexapro) และกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น วัคซีนทั้งสองตัวผมว่าต้องใช้ (careful) fast-track approval ไม่อย่างนั้นกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ไปก่อน ผมว่าหน่วยงานของรัฐ 4/
ต้องจับเข่าคุยกับนักวิจัยทั้ง 2 โครงการนี้อย่างจริงจัง ว่าทำอย่างไรให้วัคซีนที่ปลอดภัยมาใช้ได้อย่างเร็วที่สุด อาจต้องมี Fast-track process ด้วย ผมไม่ได้พูดถึงวัคซีนของใบยานะครับ เค้าน่าจะยังไม่เข้าการทดสอบในมนุษย์ คราวนี้ระหว่างนี้ทำยังไงจะหาวัคซีนจากไหน เพื่อคนอย่างน้อย 5/
60 ล้านคน (รวมทุกคนที่อยู่ในประเทศ ไม่เฉพาะคนไทย)
ผมเดาว่า 1) ปล่อยอิสระให้เอกชนจับมือกับหน่วยงานของรัฐที่ท่านรองนายกฯยกตัวอย่างว่าสามารถนำเข้าวัคซีนเข้ามาเองได้ โดยไม่ต้องใช้บริการองค์การเภสัชกรรมอย่างเดียว ลดภาระให้เค้าด้วยจะได้ไปทำงานอื่น 2) เจรจากับบริษัทที่การทดสอบ 6/
ผมเดาว่า 1) ปล่อยอิสระให้เอกชนจับมือกับหน่วยงานของรัฐที่ท่านรองนายกฯยกตัวอย่างว่าสามารถนำเข้าวัคซีนเข้ามาเองได้ โดยไม่ต้องใช้บริการองค์การเภสัชกรรมอย่างเดียว ลดภาระให้เค้าด้วยจะได้ไปทำงานอื่น 2) เจรจากับบริษัทที่การทดสอบ 6/
ในมนุษย์ phase 3 หรือ phase 2/3 คัดตัวที่มีศักยภาพดีๆ ผมมองแว๊บๆก็เห็นอยู่ 2-3 ตัว เจรจาให้มาลงศึกษาในคนไทย หรือแก้ไขกฎหมายผ่านสภาให้สามารถใช้งบประมาณจองซื้อได้ นี่ผมเขียนเฉพาะ solution ที่เป็นไปได้นะครับ ไม่ได้เขียนว่าให้ไทยไปบีบคอบริษัทเอาวัคซีนเท่าโน้นเท่านี้มา 7/
ซึ่งผมคิดว่าเป็นไปได้ยาก เพราะเราไม่ได้ไปเข้าคิวมาตั้งแต่แรก เค้ามีคิวของเค้าอยู่แล้ว และที่สำคัญเค้าก็ให้ลำดับความสำคัญแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ‘inconvenient truth’ แต่ต้องยอมรับ ลองให้เอกชนคิดบ้างก็ดีนะครับ คิดนอกกรอบเผื่อได้ไอเดียดีๆแก้ไขปัญหาได้ 8/8
• • •
Missing some Tweet in this thread? You can try to
force a refresh
