1. ห้ามเข้างานสาย ไม่ว่าจะมีเหตุใดก็ตาม
2. ตอบเมลกลับภายใน 24 ชม.
3. หัดตั้งคำถาม why? ว่าทำงานละอย่างเพื่ออะไร
4. งานง่ายให้หัดคิด “ทำให้เป็นระบบ” หรือคิดซะว่า “กำลังเล่นเกมอยู่”
5. ถ้าได้รับโอกาสให้เรียนรู้งานกับคนเก่งๆ ให้รีบคว้าโอกาสนั้นไว้ ทั้งความคิดและวิธีการทำงาน
.
2. ตอบเมลกลับภายใน 24 ชม.
3. หัดตั้งคำถาม why? ว่าทำงานละอย่างเพื่ออะไร
4. งานง่ายให้หัดคิด “ทำให้เป็นระบบ” หรือคิดซะว่า “กำลังเล่นเกมอยู่”
5. ถ้าได้รับโอกาสให้เรียนรู้งานกับคนเก่งๆ ให้รีบคว้าโอกาสนั้นไว้ ทั้งความคิดและวิธีการทำงาน
.
6. งานจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ 5 นาทีสุดท้ายของแต่ละ Job 5 นาทีสุดท้ายหัด “สรุป” “เขียนมันออกมา” “ตรวจสอบอีกที”
7.ทุกครั้งที่มีการประชุม ให้แบ่งเวลาตามนี้ เตรียมประชุม 3 ส่วน : เวลาประชุม 3 ส่วน : ทบทวน 3 ส่วน
8. หากสงสัยอยากตั้งคำถามให้โชว์โน้ตที่จดไว้พร้อมถามไปด้วย
7.ทุกครั้งที่มีการประชุม ให้แบ่งเวลาตามนี้ เตรียมประชุม 3 ส่วน : เวลาประชุม 3 ส่วน : ทบทวน 3 ส่วน
8. หากสงสัยอยากตั้งคำถามให้โชว์โน้ตที่จดไว้พร้อมถามไปด้วย
9. งานคือการทบทวน ฉะนั้น ทำงานเสร็จอย่าลืม ทบทวน! ทบทวน! ทบทวน!
10. ไม่มีใครขอ ก็หัดบันทึกการประชุมไว้ (มันได้กับตัวเราเอง เพราะการบันทึกจะช่วยจัดระเบียบความคิดให้เราด้วย)
11.พยายามคิดอยู่เสมอว่า เราจะสร้างประโยชน์ได้อย่างไรบ้างกับสังคมและคนรอบข้าง (นี่คือกฎในการอยู่ในสังคม)
.
10. ไม่มีใครขอ ก็หัดบันทึกการประชุมไว้ (มันได้กับตัวเราเอง เพราะการบันทึกจะช่วยจัดระเบียบความคิดให้เราด้วย)
11.พยายามคิดอยู่เสมอว่า เราจะสร้างประโยชน์ได้อย่างไรบ้างกับสังคมและคนรอบข้าง (นี่คือกฎในการอยู่ในสังคม)
.
12. ให้ออกไปดูหน้างานจริงเยอะๆ เช่น ถ้า Salesman ก็ออกไปหาลูกค้าบ่อยๆ ถ้าเป็นผู้บริหารก็เข้าโรงงานบ่อยๆ
13. ช่วงเช้าให้ทักทายผู้คนเสียงดังฟังชัด โอฮาโยโกไซมัส
14.ถ้าต้องรีบกลับบ้าน ให้บอกเจ้านายแต่เนิ่นๆ (คนญี่ปุ่นชอบทำงานดึก อย่ามัวเกรงใจ ไม่ยอมบอก)
.
13. ช่วงเช้าให้ทักทายผู้คนเสียงดังฟังชัด โอฮาโยโกไซมัส
14.ถ้าต้องรีบกลับบ้าน ให้บอกเจ้านายแต่เนิ่นๆ (คนญี่ปุ่นชอบทำงานดึก อย่ามัวเกรงใจ ไม่ยอมบอก)
.
15. การทำงานคือการทำอะไรบางอย่างภายในเวลาที่จำกัด ถ้าอยากทำงานราบรื่น ต้องหัดประสานงานล่วงหน้ากับผู้เกี่ยวข้อง รู้จักปูทางในการทำงาน
16. เห็นใครทำงานเก่ง ให้ลอกเลียนสกิลนั้นๆ มาเป็นของตัวเราเอง
17. อย่าเชื่อทุกข้อมูลที่ฟังมา ให้ค้นหาความจริงอยู่เสมอ
.
16. เห็นใครทำงานเก่ง ให้ลอกเลียนสกิลนั้นๆ มาเป็นของตัวเราเอง
17. อย่าเชื่อทุกข้อมูลที่ฟังมา ให้ค้นหาความจริงอยู่เสมอ
.
18.งานคือการทำงานร่วมกันเป็นทีม
19. การสื่อสารที่ดีของคนทำงานยุคนี้ ไม่ใช่โทรศัพท์หรือส่งเมล เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นไปได้ให้ทำทุกอย่างเป็นเซต สื่อสารหนึ่งเรื่อง = โทรศัพท์ + เมล
20. เวลาอ่านหนังสือ ไม่ต้องรีบอ่าน ค่อยๆ อ่านก็ได้ เอาสักหนึ่งอย่างจากหนังสือหนึ่งเล่มมาใช้จริง
19. การสื่อสารที่ดีของคนทำงานยุคนี้ ไม่ใช่โทรศัพท์หรือส่งเมล เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นไปได้ให้ทำทุกอย่างเป็นเซต สื่อสารหนึ่งเรื่อง = โทรศัพท์ + เมล
20. เวลาอ่านหนังสือ ไม่ต้องรีบอ่าน ค่อยๆ อ่านก็ได้ เอาสักหนึ่งอย่างจากหนังสือหนึ่งเล่มมาใช้จริง
21. ไม่ต้องจัดระเบียบไฟล์ ไม่ต้องใส่ bookmarks ก็ได้ ถ้ารู้ว่าข้อมูลนั้นจะไม่ได้ใช้อีก การจัดเก็บข้อมูลจะสำคัญต่อเมื่อเราจะใช้ข้อมูลนั้นๆ อีก
22. อันดับแรก พยายามอ่านภาษาอังกฤษให้ได้ เคล็ดลับในการเก่งภาษาอังกฤษ = ให้เวลากับมัน
.
22. อันดับแรก พยายามอ่านภาษาอังกฤษให้ได้ เคล็ดลับในการเก่งภาษาอังกฤษ = ให้เวลากับมัน
.
23. หัดคิดงานด้วยมุมมองเจ้าของ หรือผู้ประกอบการ อย่ามองแต่งานที่อยู่ตรงหน้าอย่างเดียว ให้มองงานในภาพใหญ่ ถ้าเราเป็นเจ้าของบริษัทเราจะทำแบบนั้น แบบนี้
24.เรื่องที่แนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมสำหรับคนทำงาน “เศรษฐศาสตร์” “การเงิน” “การค้าขาย”
25.จุดมุ่งหมายการเรียนรู้ของคนทำงานคือ OUTPUT
24.เรื่องที่แนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมสำหรับคนทำงาน “เศรษฐศาสตร์” “การเงิน” “การค้าขาย”
25.จุดมุ่งหมายการเรียนรู้ของคนทำงานคือ OUTPUT
26. ใช้สมองให้เยอะๆ ในทุกการเรียนรู้
27. คอยมองหาอาจารย์ของตัวเราเอง ที่เราอยากจะเป็นเหมือนเขา และเป็นในแบบที่เราชอบด้วย
28.ระหว่างทำงานก็หาโอกาสสอบวุฒิต่างๆ เพิ่มเติมด้วย (ที่ญี่ปุ่นมีวุฒิต่างๆ ให้สอบเยอะมาก) พอมีเป้าหมายว่าจะสอบ เราจะตั้งใจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมมากขึ้น
27. คอยมองหาอาจารย์ของตัวเราเอง ที่เราอยากจะเป็นเหมือนเขา และเป็นในแบบที่เราชอบด้วย
28.ระหว่างทำงานก็หาโอกาสสอบวุฒิต่างๆ เพิ่มเติมด้วย (ที่ญี่ปุ่นมีวุฒิต่างๆ ให้สอบเยอะมาก) พอมีเป้าหมายว่าจะสอบ เราจะตั้งใจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมมากขึ้น
29. อ่านข่าวให้รู้เท่าทันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น (วันนึงอย่างน้อยให้อ่านให้ได้มากกว่า 2 หน้า)
30.ลองทานมื้อกลางวันกับคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องงานเรา ทุกมื้อกลางวันจะกลายเป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้และได้ยินเรื่องใหม่ๆ (มาต่อยอดในเรื่องการงานได้)
.
30.ลองทานมื้อกลางวันกับคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องงานเรา ทุกมื้อกลางวันจะกลายเป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้และได้ยินเรื่องใหม่ๆ (มาต่อยอดในเรื่องการงานได้)
.
31. ไม่ต้องหาชุดสูทแพงๆ มาใส่ ให้หาชุดสูทที่พอดีตัว (สำคัญกับบุคลิก คนอื่นมองเข้าแล้วดูดี ปล.ที่ญี่ปุ่นซาลารี่แมนนิยมใส่สูท)
32. ฝึกแสดงความคิดเห็น ยิ่งมีโอกาสได้ถกเถียงเรื่องงาน ยิ่งเป็นโอกาสที่ดี
33. หัดใช้คำสุภาพให้เป็นนิสัย (ที่ญี่ปุ่นจะมีการใช้คำสุภาพสำหรับการทำธุรกิจ)
.
32. ฝึกแสดงความคิดเห็น ยิ่งมีโอกาสได้ถกเถียงเรื่องงาน ยิ่งเป็นโอกาสที่ดี
33. หัดใช้คำสุภาพให้เป็นนิสัย (ที่ญี่ปุ่นจะมีการใช้คำสุภาพสำหรับการทำธุรกิจ)
.
34.แม้สนิทกันแค่ไหน แต่ก็ต้องรู้จักการเว้นระยะห่างระหว่างกัน ไม่ล่วงเกินกันนะ
35. เคารพคนที่อาวุโสกว่า ให้มองหาข้อดีของเขา เพราะมีข้อดีอยู่แน่นอน
36.อย่าลังเลที่จะกล่าวขอบคุณคนอื่น ถ้ารู้สึกขอบคุณ ให้บอกขอบคุณออกไปเลย
.
35. เคารพคนที่อาวุโสกว่า ให้มองหาข้อดีของเขา เพราะมีข้อดีอยู่แน่นอน
36.อย่าลังเลที่จะกล่าวขอบคุณคนอื่น ถ้ารู้สึกขอบคุณ ให้บอกขอบคุณออกไปเลย
.
37. ใส่ใจ ให้ความสำคัญในการ Feedback งานกับหัวหน้า/เจ้านายเสมอ
38. หากผิดพลาด ให้คิดหาวิธีแก้ไขทันที (ป้องกันไม่ให้สิ่งผิดพลาดเกิดซ้ำอีก)
39. การโดนว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ การถูกว่า ถูกดุมีความหมายเสมอ ให้พยายามหาความหมายของมัน
.
38. หากผิดพลาด ให้คิดหาวิธีแก้ไขทันที (ป้องกันไม่ให้สิ่งผิดพลาดเกิดซ้ำอีก)
39. การโดนว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ การถูกว่า ถูกดุมีความหมายเสมอ ให้พยายามหาความหมายของมัน
.
40. เวลามีงานเลี้ยงสังสรรค์ กิจกรรมอะไร ให้อาสาเป็นคนประสานงาน นี่คือโอกาสที่เราจะได้ความไว้วางใจจากเจ้านาย และคนรอบข้าง
41. มีงานสังสรรค์เมื่อไหร่ ให้จัดเต็ม! เวลาสนุกก็สนุกให้เต็มที่
42.การนอนหลับให้เพียงพอ ถือเป็นงานอย่างหนึ่ง
41. มีงานสังสรรค์เมื่อไหร่ ให้จัดเต็ม! เวลาสนุกก็สนุกให้เต็มที่
42.การนอนหลับให้เพียงพอ ถือเป็นงานอย่างหนึ่ง
43.นักธุรกิจคือนักกีฬา ควรให้ความสำคัญกับ “อาหาร” และ “การออกกำลังกาย”
44. ไม่ชอบใคร ก็ให้หาจุดดีของเขาให้เจอ ให้อภัยและรู้จักชื่นชม
45.เข้าใจตัวเอง รู้ว่าเวลาไหน สภาพร่างกายแบบไหนที่จะช่วยให้เราทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด
44. ไม่ชอบใคร ก็ให้หาจุดดีของเขาให้เจอ ให้อภัยและรู้จักชื่นชม
45.เข้าใจตัวเอง รู้ว่าเวลาไหน สภาพร่างกายแบบไหนที่จะช่วยให้เราทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด
46. ที่ญี่ปุ่นเข้าบริษัทใหม่จะมีเพื่อนร่วมรุ่น (โดกิ) อย่ามัวแต่อยู่กับเพื่อนร่วมรุ่นจนมากเกินไป เพราะมีข้อเสียคือ
- จะทำให้เรามีมุมมองความคิดค่อนข้างแคบ อยู่ในวงแคบๆ
- จะทำให้เรามีนิสัยเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนรุ่นเดียวกันจนมากเกินไป
- จะทำให้เรามีมุมมองความคิดค่อนข้างแคบ อยู่ในวงแคบๆ
- จะทำให้เรามีนิสัยเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนรุ่นเดียวกันจนมากเกินไป
47. ถ้ามีเรื่องกังวล ทุกข์ใจใดๆ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว ให้ลองปรึกษากับคนที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนั้นๆ อาจจะได้มุมมองดีๆ ก็ได้
48. ตอนเย็นให้ไปดื่มสังสรรค์กับคนบริษัทอื่น (กับคนบริษัทเดียวกันไม่ต้องไปดื่มก็มีวิธีที่จะทำให้สนิทสนมอีกเยอะแยะ)
.
48. ตอนเย็นให้ไปดื่มสังสรรค์กับคนบริษัทอื่น (กับคนบริษัทเดียวกันไม่ต้องไปดื่มก็มีวิธีที่จะทำให้สนิทสนมอีกเยอะแยะ)
.
49.รู้จักออมเงิน และมีความฉลาดด้านการเงิน (เค้าเรียกว่า Money Literacy) เริ่มต้นจากการออมเงินก่อนได้เลย
50.ให้ฝึกคำนวณค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เป็นรายปีดู เช่น ค่าใช้จ่ายวันละ 300 เยน 1 ปีก็ 109,500 เยน หรือ 30,000 บาท เราจะเข้าใจคุณค่าของเงินมากขึ้น
จบแล้วหวังว่าจะได้ประโยชน์นะ
50.ให้ฝึกคำนวณค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เป็นรายปีดู เช่น ค่าใช้จ่ายวันละ 300 เยน 1 ปีก็ 109,500 เยน หรือ 30,000 บาท เราจะเข้าใจคุณค่าของเงินมากขึ้น
จบแล้วหวังว่าจะได้ประโยชน์นะ
• • •
Missing some Tweet in this thread? You can try to
force a refresh
