Thread by @PanasL27

1/#Web3 สรุป ครบ จบ #โพสต์เดียว พร้อมตัวเด็ด มาแรง!
Web3 เทรนด์มาแรง 2022!
มันคือการเปลี่ยนแปลงสู่ #democratized #Internet หรือการคืนผลประโยชน์ให้ #users มากขึ้น
.
🔥1. ต้นกำเนิด Web3
🔥2. Web3โอกาสใหม่สำหรับผู้ใช้งาน
🔥3. แล้วนำมาใช้จริงยังไง? ตัวอย่าง Web 3 เด็ดๆ
By #MetaMild

2/🔥#1ต้นกำเนิดWeb3
#WEB3 เกิดตั้งแต่ปี 2014 โดยผู้ร่วมก่อตั้ง #Ethereum &Gavin Woodผู้ก่อตั้ง #Polkadot

I think it would be possible for BitDNS to be a completely separate network & separate blockchain, yet share CPU power with Bitcoin. -Satoshi (2010)
bitcointalk.org/index.php?topi…

3/องค์กรให้บริการ #domainnames อย่างBitDNS สามารถเป็น #Decentralized Domain Name System(DNS)ที่ใช้เทคโนโลยี #บล็อกเชน จึงไม่รวมศูนย์อีกต่อไปได้
.
เนื่องจาก #เว็บไซต์ ต่างๆ มักถูกดูแล ควบคุม จำกัดสิทธิเสรีภาพ(#Centralized สูงมาก)ในการแสดงความคิดจากคนกลุ่มเดียว (unilateral control)

4/ อย่าง @wikileaks เว็บไซต์บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสงครามอิรัก อัฟกานิสถานที่ถูกปิดตัวลง โดย U.S Department of Commerce

เว็บไซต์จะถูก Censor หรือไม่ จะขึ้นอยู่กับผู้ควบคุมอย่างรัฐบาล หรือองค์กรต่างๆ เท่านั้น ซึ่งการกระทำไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมในทุกครั้งอย่างแน่นอน

5/โดย #Satoshi ผู้มาก่อนกาลจึงสร้าง #Namecoin หรือ .bit domain website แต่คือ ยุคนั้นมันเร็วเกิน ผู้คนยังไม่เข้าใจ การใช้งานที่ยุ่งยาก จึงยังไม่ประสบความสำเร็จเป็นที่แพร่หลาย

6/🔴 #อินเตอร์เน็ต เปลี่ยนโลก
ประโยคด้านบนไม่เกินจริงเลย
🔵#เศรษฐกิจ (#economy) อินเตอร์เน็ต Disruptสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับธรกิจeCommerceโดยเฉพาะปี 2017–2019 #หุ้น S&P500ที่เกี่ยวข้องกับเทคมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า และในปัจจุบันมีมูลค่าเทียบเท่า 25% ของตลาดหุ้น

7/
🔵#สังคม (#Social) เราติดต่อกันได้แค่ปลายนิ้ว
🔵 การเมือง วัฒนธรรม การเงิน และทุกด้าน

8/🔴 #Web1 (1991 -2000)
เว็บไซต์จะเป็นการให้บริการแบบ Passive คือ มีเนื้อหาตายตัว ผู้ใช้สามารถเข้าเว็บไซต์เพื่ออ่านเนื้อหาได้เพียงอย่างเดียว เป็นการสื่อสารทางเดียว นำเสนอข้อมูลแบบคงที่ (Static) ด้วย HTML, XML
ซึ่งเมื่อความเร็วอินเทอร์เน็ตพัฒนา จึงทำให้ Web 2.0 เกิดขึ้น

9/🔴 #Web2.0 : ตั้งแต่ปี 1999
สร้างเนื้อหาบนเว็บไซต์ สื่อสาร 2 ทาง ตอบโต้ระหว่าง Users
🔵เป็นยุครุ่งเรืองของ #ecommerce มีบริการ #socialmedia และ mobile apps เกิดขึ้น อย่าง #Facebook #Google #Amazon #Microsoft #Apple
🔵องค์ประกอบ #Web2 คือ Smart Phone, Social, Cloud (Centralized)

10/อินเตอร์เน็ต Web2 ยังถูกควบคุม บล็อก และถูกใช้เป็นเครื่องมือการตลาด ปลูกฝังแนวความคิดในทุกวินาที มี #ข่าวปลอม (#Fake News) แพร่กระจายที่ก่อเกิดการสูญเสียกว่า 78,000 ล้านดอลลาร์ ต่อเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งการสร้างตัวตนในโลกอินเตอร์เน็ต #เน็ตไอดอล โดย #AI

11/#ปัญหา ของ Web2
🔵เงินกระจุก
ธุรกิจขนาดเล็กอยู่รอดด้วยการยิง Ads Facebook โดย Social Media ต่างๆ ถูกควบคุมด้วยองค์กรเดียว ที่ centralized และยัง monopoly อีก ถ้าเค้าขึ้นราคา ธุรกิจขนาดเล็กจะไปรอดมั้ย

12/🔵ไหนจะเรื่อง #Data ที่ #Centralized สุดๆ ถูกควบคุมโดยองค์กรอย่าง Facebook, Google, Amazon, Alibaba สำหรับการทำการตลาด
(เคยรู้สึกมั้ย ทำไมพูดกับเพื่อนเรื่องนี้ สักพักโฆษณานั้นๆ เด้ง?!?)
ล่าสุด whatsapp ประกาศแชร์ Data กับบริษัทแม่อย่าง Facebook

13/🔵บริษัท และโปรเจ็ค Open Source ต่างๆ ต้องพึ่ง Github สำหรับการบริหาร Software และบันทึก code ต่างๆ
🔵ผู้พัฒนาแอพลิเคชั่นต้องพึ่ง Apple app store, Google store, Pinata
🔵ทุกอย่างขึ้นกับผู้ควบคุม และกฎต่างๆ ตลอดเวลา

14/🔥2. #Web3 โอกาสใหม่สำหรับผู้ใช้งาน
ในขณะที่ธุรกิจเป็นเสมือนสื่อกลางในการให้บริการในละด้าน ที่แต่ละบริษัท'ไม่'มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ #web3 เป็นอินเตอร์เน็ตยุคใหม่สำหรับผู้ใช้งานที่เปิดกว้าง(open protocols)สร้างบนเทคโนโลยี #บล็อกเชน ที่โปร่งใส (transparent blockchain networks)

15/#Web3 คือ ยุคที่นำความสามารถของ Web2 ที่สื่อสาร ปฏิสัมพันธ์ แต่ปรับให้คุณค่า มูลค่ามาอยู่ที่ผู้ใช้งานจริงๆ ก่อเกิด Decentralized Incentive Economy ที่ผลประโยชน์ส่วนมากกระจายศูนย์ มูลค่ากลับมาอยู่ที่ผู้ใช้งาน

16/🔵 #จุดเด่น คือ ความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันบนเครือข่ายโลกอย่างไร้ขีดจำกัด (Semantic Web) เปรียบเทียบง่ายๆ คือ ข้อมูลทั้งโลกอยู่รวมกันเป็น Database

17/
- #Web1 (เน้นอ่านข้อมูลอย่างเดียว)
- #Web2 (อ่าน สื่อสารและสร้างคอนเท้นท์)
ผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์สูงสุด คือ เจ้าของ Platform
- #Web3 (อ่าน สร้างคอนเท้นท์และมูลค่า ได้รับผลประโยชน์กลับมาสู่ผู้ใช้งาน!)

18/🔴 แล้วส่งผลยังไงกับเรา? #ข้อดี web3 ?
ทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้ว Google หาข้อมูล Spotify ฟังเพลง เท่ากับว่าในชีวิตประจำวันเราใช้บริการบริษัทอย่างหลากหลายมาก ต้องดาวน์โหลดแอพมากมาย
🔵 ถ้าสมมุติว่า ทุกบริษัท ทุกแอพเชื่อมโยงกันได้ง่ายมากขึ้น ชีวิตเราจะง่ายขึ้นขนาดไหน

19/🔵 การส่งต่อ เข้าถึงข้อมูลระหว่างกันง่ายขึ้น (Interoperability) ไม่มีเวลาเปิดปิด
🔵 บริษัทขยายโมเดล สเกลธุรกิจง่ายกว่าเดิม (Infinite Scale)
ราคาบริการต่างๆ ถูกลง ไร้ตัวแทน (Agency) ตัดพ่อค้าคนกลาง
🔵โอกาสการสร้างรายได้ การลงทุนง่ายมากยิ่งขึ้น

20/🔵 ไม่ถูกปิดกั้น มีอิสระเสรี ทวงคืนสิทธิ ผลประโยชน์ของเรากลับมา
🔵 ข้อมูลส่วนตัว Data ต่างๆ ก็มีความเป็นส่วนตัว ปลอดภัย โปร่งใสมากขึ้น ไม่ถูกเอาไปใช้การตลาด ขายโดยที่เราไม่ยินยอม
.
นั่นหมายถึง Web3 ให้ความสำคัญ กับ “#ทุกคน ”
ไม่ใช่แค่กลุ่ม #นายทุน

21/🔥3.#ใช้จริง ยังไง? #ตัวอย่าง
🔵อินเตอร์เน็ต
เราถูกบังคับใช้ True, DTAC, AIS จ่ายก็แพง เน็ตยังติดๆดับๆ สัญญาณหาย…
ถ้าเราใช้เน็ตความเร็วสูงสุด ไม่จำกัด ราคาถูกลง และสามารถ #ลงทุนเป็นผู้ให้บริการเน็ต ได้รับเงินอีก!!!
andrena.com | althea.net

22/🔵Domain name
เว็บไซต์ต่างๆ มักถูกควบคุม จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นจากคนเพียงกลุ่มเดียว (unilateral control) อย่าง @wikileaks บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสงครามอิรัก อัฟกานิสถาน
Domain แบบ Decentralized
handshake.org
unstoppabledomains.com
Ethereum Name

23/🔵Data Storage, Distribution, and Monetization
Data
Ocean Protocol, Streamr, และ Numerai คือ Web 3 ตลาดเสรีที่ให้เราสามารถเปลี่ยนข้อมูลประเภทต่างๆ (Data) เปลี่ยนเหรียญ Token เพื่อรับผลตอบแทนโดยที่ยังรักษาความเป็นส่วนตัวอยู่

24/🔵Decentralized #Data #Storage
ปกติเราเก็บข้อมูลผ่าน google drive, onedrive แต่ #web3 Decentralized cloud มาแทนที่และยังสามารถลงทุนเป็นผู้ให้บริการได้อีกด้วย อย่าง
Sia : sia.tech
Arweave : arweave.org
Filecoin : filecoin.io

25/🔵Wifi,wireless
ใช้และให้บริการเน็ตบนบล็อกเชน:Helium
🔵#GPS ผ่าน #Decentralized:Foam
🔵Video Streaming :Livepeer
🔵VPN (Virtual Private Networkหรือเครือข่ายที่ใช้รับส่งข้อมูลภายในบริษัท):Orchid
👉🏻ไลค์แชร์เป็นกำลังใจให้หน่อยจิ
facebook.com/10564982866419…
M:link.medium.com/iuwtZf6Xsmb